WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS7 20ทริสเรทติ้ง เพิ่มอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ‘บ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส เป็น ‘BBB+’ จาก ‘BBB’ แนวโน้ม ‘Stable’

      ทริสเรทติ้ง ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) เป็น ‘BBB+’ จาก ‘BBB’ ในขณะเดียวกันแนวโน้มอันดับเครดิตถูกปรับเป็น ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ จาก ‘Positive’ หรือ ‘บวก’ การปรับเพิ่มของอันดับเครดิตนั้นเป็นไปตามการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) (ได้รับการจัดอันดับเครดิต ‘BBB+/Stable’ จากทริสเรทติ้ง)

      โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของบริษัทเจมาร์ท ซึ่งตาม ‘เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ’ ของทริสเรทติ้งนั้น อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทจะเท่ากับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทเจมาร์ท

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะการก่อหนี้ที่ปรับดีขึ้นจากการเพิ่มทุนของกลุ่มบีทีเอส

      การปรับอันดับเครดิตขึ้นของบริษัทเป็นไปตามการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทเจมาร์ทจากการที่มีสถานะการก่อหนี้ที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากการเพิ่มทุนในบริษัทเจมาร์ทโดยบริษัทในกลุ่มบีทีเอส ซึ่งรวมไปถึง บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) (VGI) และ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (U City) จำนวนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ในขณะเดียวกันบริษัทก็ได้ทำการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน 1 หมื่นล้านบาท

      โดยจำนวนเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากบริษัทเจมาร์ท และส่วนที่เหลือมาจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นๆ รายการเพิ่มทุนดังกล่าวทำให้สถานะการก่อหนี้ของบริษัทและบริษัทเจมาร์ทปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก

          ณ สิ้นปี 2564 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.2 เท่าจาก 1.9 เท่าในปี 2563 แม้ว่าสถานะก่อหนี้จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก ทริสเรทติ้งมองว่าแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกของบริษัทจะทำให้เงินที่ได้รับมาจากการเพิ่มทุนจะถูกใช้ไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

     ทริสเรทติ้ง คาดว่า อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 2.5 เท่าในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า (2565-2567) ซึ่งอยู่บนสมมติฐานว่าอัตราการจัดเก็บเงินของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2564 รวมไปถึงไม่ได้มีการเพิ่มทุนอีกในช่วงเวลาดังกล่าว

เป็นบริษัทลูกที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มเจมาร์ท

      ทริสเรทติ้ง พิจารณาเห็นว่า บริษัทเป็นบริษัทลูกหลักที่สำคัญของกลุ่มเจมาร์ท บริษัทเจมาร์ทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดและมีอำนาจการควบคุมในบริษัท ณ สิ้นปี 2564 บริษัทเจมาร์ทถือหุ้นจำนวน 53.9% ของบริษัท บริษัทมีบทบาทที่สำคัญในธุรกิจด้านการเงินของกลุ่มซึ่งเป็นธุรกิจแกนหลักของนโยบายการดำเนินธุรกิจที่กระจายตัวของกลุ่ม คณะผู้บริหารและคณะกรรมการของบริษัทและบริษัทเจมาร์ทมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด

      โดยทิศทางธุรกิจและเป้าหมายทางการเงินของบริษัทได้รับการกำหนดโดยบริษัทเจมาร์ทผ่านทางคณะกรรมการของบริษัท แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้รับวงเงินกู้จากบริษัทเจมาร์ท แต่บริษัทก็ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากการเพิ่มทุนผ่านการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท

      รวมถึงการใช้สิทธิซื้อหุ้นตามการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนที่ได้ดำเนินไปล่าสุดนี้ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังมองว่าบริษัทมีความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดกับชื่อเสียงของบริษัทเจมาร์ทผ่านการใช้ชื่อทางการค้าร่วมกันอีกด้วย

สร้างผลกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญต่อกลุ่มเจมาร์ท

          บริษัทเป็นผู้สร้างกำไรสุทธิให้แก่กลุ่มมากที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มเจมาร์ทรายอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันถึงสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของบริษัทเจมาร์ท บริษัทสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่น่าพอใจเสมอมา โดยในปี 2564 รายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัทมีสัดส่วน 31% และ 74% ของรายได้รวมและกำไรสุทธิรวมของบริษัทเจมาร์ทตามลำดับ

       ทริสเรทติ้ง คาดว่า กำไรและการมีส่วนสนับสนุนของบริษัทต่อกลุ่มเจมาร์ทจะยังคงมีต่อไปจากแผนการขยายธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญโดยการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจำนวน 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ในปี 2564 อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ระดับ 57.9% เพิ่มขึ้นจาก 51.1%

     ในปี 2563 จากการที่สัดส่วนของสินทรัพย์ที่ตัดจำหน่ายต้นทุนครบแล้วมีจำนวนมากขึ้น และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ทำได้ดีขึ้น ซึ่งเห็นได้จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นเป็น 71.7% ในปี 2564 จาก 67.8% และ 58.6% ในปี 2563 และ 2562 ตามลำดับ

มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน

          บริษัทยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการมีฐานข้อมูลการติดตามหนี้ที่ยาวนานมากกว่า 20 ปี ซึ่งมีส่วนช่วยให้บริษัทสามารถรักษาการเติบโตทางธุรกิจและประสิทธิภาพในการดำเนินงานเอาไว้ได้

       ทั้งนี้ บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน ในปี 2564 บริษัทมีมูลหนี้คงค้างของหนี้ด้อยคุณภาพอยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นส่วนที่ตัดจำหน่ายต้นทุนครบแล้วจำนวน 4.99 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4.33 หมื่นล้านบาทในปี 2563

       ในด้านสินทรัพย์รวมทั้งหมดของบริษัท บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 196% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มทุนผ่านการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนและการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาเพิ่มในปี 2564 บริษัทได้ใช้เงินจำนวน 8.5 พันล้านบาท ในการลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มเติมในปี 2564 ซึ่งเกินจากงบประมาณที่ตั้งไว้ที่ 4-5 พันล้านบาท

          สำหรับ ในปี 2565 บริษัทได้ตั้งงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่ม ทริสเรทติ้งคาดว่าสินทรัพย์รวมของบริษัทจะเติบโตขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านบาทในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าบนสมมติฐานการลงทุนเพิ่ม 1 หมื่นล้านต่อปี

      ในช่วง 5 ปีหลัง บริษัทได้ขยายเข้าสู่การบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกัน ในปี 2564 บริษัทได้ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของเงินลงทุนทั้งหมด ทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 3-5 ปีก่อนที่หนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันเหล่านี้จะเริ่มสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญแก่บริษัท ปกติแล้วหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันจะใช้เวลาในการบริหารจัดการที่ยาวนานกว่าจะถึงจุดคุ้มทุนเนื่องจากมีกระบวนการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายที่ยาวนานและต้นทุนของหนี้ด้อยคุณภาพที่สูงกว่า

       ถึงแม้ว่า สัดส่วนของหนี้ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นในส่วนของหนี้ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกันซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีต่อไป

ความร่วมมือและการสนับสนุนในธุรกิจการเงินของกลุ่ม

         การให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้สินเป็นจุดแข็งอีกด้านหนึ่งของบริษัท กลุ่มลูกค้าหลักที่บริษัทได้รับการว่าจ้างให้ติดตามเร่งรัดหนี้สินประกอบไปด้วยสถาบันการเงิน ตลอดจนผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจสินเชื่อเพื่ออุปโภคและบริโภค (Consumer Lending) และธุรกิจอื่นๆ บริษัทมีภาระหนี้คงค้างที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามที่ระดับประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

        ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การว่าจ้างจากสถาบันการเงินปรับตัวลดลงจากการที่ปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพลดลงจากมาตราการช่วยเหลือต่าง ๆ จากธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทมีรายได้จากค่าบริการติดตามเร่งรัดหนี้สินอยู่ที่ 301 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ของรายได้รวมในปี 2564 ลดลงจาก 362 ล้าน หรือ 11% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2563

      นอกเหนือจากการดำเนินงานในธุรกิจปกติของบริษัทเองแล้ว บริษัทยังมีความร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเจมาร์ทเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยบริษัทให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้สินให้แก่บริษัทที่ให้บริการสินเชื่อในกลุ่ม เช่น บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (อันดับเครดิตอยู่ที่ระดับ ‘BBB/Stable’) บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด (อันดับเครดิตอยู่ที่ระดับ “A-/Stable”) และ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เป็นต้น

       นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทเจมาร์ทที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับการสนับสนุนด้านการช่วยปรับปรุงและจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่รอการขายของบริษัทด้วย บริษัทยังร่วมมือกับบริษัท เคบี เจ แคปปิตอลในการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ลูกค้าของบริษัท ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีการประชาสัมพันธ์จำหน่ายสินทรัพย์รอการขายผ่านสาขาร่วมของกลุ่ม เจ มาร์ท (Synergy Shop) อีกด้วย

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

       สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งตั้งอยู่บนความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่มบริษัทเจมาร์ทต่อไป

แนวโน้มอันดับเครดิต

         แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า บริษัทจะยังคงมีสถานะเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มเจมาร์ทและยังคงมีบทบาทสำคัญในการติดตามและจัดเก็บหนี้ที่สอดคล้องกับนโยบายโดยรวมของกลุ่มอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

       อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามสถานะเครดิตของบริษัทเจมาร์ท ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานะความสำคัญของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเจมาร์ทนั้นลดน้อยถอยลงก็อาจทำให้อันดับเครดิตของบริษัทปรับลดลงได้ด้วยเช่นกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป,  26 กรกฎาคม 2562

บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT)

อันดับเครดิตองค์กร:

BBB+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

JMT239B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566

BBB+

แนวโน้มอันดับเครดิต:

Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com  

ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

       © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

       ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C JGC 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

วิริยะ 720x100

hino2021

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!