- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Tuesday, 11 January 2022 17:50
- Hits: 9067
ASW เปิดยุทธศาสตร์ปี 65 ลุยเต็มอัตราศึก!
ประกาศบิ๊กดีล JV ยักษ์อสังหาฯ ชั้นนำของญี่ปุ่น ‘ทาคาระ เลเบ็น’
พร้อมเข้าเทกฯ คอนโดฯรัชดา-สุทธิสาร ‘แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน’
‘แอสเซทไวส์’ ผงาดปีเสือ เปิดกลยุทธ์ขยายธุรกิจ ประกาศร่วมทุน ‘ทาคาระ เลเบ็น’ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 50 ปี เข้าถือหุ้น เตรียมพร้อมลุยพัฒนาคอนโดฯ ย่านบางนา โครงการแรก ‘แอทโมซ บางนา’ มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท พร้อมสบช่องเข้าลงทุนใน ‘แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน’ ในสัดส่วน 100% นำร่องโปรเจคแรก Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan คอนโดฯ Low Rise ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารและส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว มูลค่า 570 ล้านบาท บิ๊กบอส ‘กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์’ ระบุเพิ่มศักยภาพธุรกิจ มั่นใจผลตอบแทนสุดคุ้ม หนุนรายได้-กำไรโตแกร่ง
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) ผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ด้วยแนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We build Happiness” เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ เดินหน้าขยายธุรกิจเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมทุน (Joint Venture Agreement) กับบริษัท Takara Leben (ทาคาระ เลเบ็น) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ มายาวนานกว่า 50 ปี โดยบริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วน 51% และทาคาระ เลเบ็น จะถือหุ้นในสัดส่วน 49% โดยจะร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดฯ “แอทโมซ บางนา” มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการโลว์ไรส์ขนาดใหญ่บนทำเลศักยภาพย่านบางนา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีเหลือง ประเดิมเป็นโครงการแรก
ทั้งนี้ Takara Leben เป็นบริษัทในเครือ ทาคาระ กรุ๊ป เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมากว่า 500 โครงการ ทั้งยังประกอบธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2515 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเมื่อปี พ.ศ. 2547 และจะดำเนินธุรกิจครบ 50 ปีในปีนี้
นายคาซูอิชิ ชิมาดะ (Kazuichi Shimada) CEO บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด กล่าวว่า บริษัทมองหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในแต่ละประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสในการเติบโต โดยแอสเซทไวส์ เป็นบริษัทมหาชนที่มีความมั่นคงและอนาคตไกลในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย พิสูจน์ได้จากทั้งคุณภาพของโครงการ และความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจตรงกัน คือ ยึดมั่นในการออกแบบความสุขเพื่อการอยู่อาศัย บริษัทจึงมั่นใจและตัดสินใจร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ บมจ. แอสเซทไวส์ได้แจ้งการเข้าซื้อกิจการบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan คอนโดฯ ฯ Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 218 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 570 ล้านบาท ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารประมาณ 400 เมตร และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2565 โดยปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วประมาณ 83%
“โครงการนี้ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี สอดคล้องกับหลักการพัฒนาโครงการของแอสเซทไวส์ คือ เน้นสร้างความสุขในการอยู่อาศัย ผ่านทั้งทำเลศักยภาพ ตัวโครงการที่ดี การออกแบบห้องพักที่สวยงามลงตัว และการมอบความสุขด้วยส่วนกลาง (Facility) ที่มอบให้อย่างเต็มที่ โครงการมีกำหนดจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งหมายความว่าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาโครงการ ทั้งยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะได้อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) สูงกว่าการพัฒนาโครงการเองจากที่ดินเปล่า” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
“ASW เราแสวงหาการลงทุนในทุกรูปแบบ การร่วมมือหรือ Synergy เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ถือเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งกับพันธมิตรในลักษณะ Joint Venture และการเข้าซื้อกิจการบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด เพราะเป็นการสร้างโอกาส เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้กับ ASW มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต” นายกรมเชษฐ์กล่าว
A1189