- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Tuesday, 26 October 2021 16:09
- Hits: 11685
STA โชว์ความคืบหน้าได้ใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย. รุกนำระบบ Digital Traceability ตรวจสอบข้อมูลแบบดิจิทัลมาใช้เพื่อสร้างความแตกต่าง คาดเริ่มเก็บผลผลิตล็อตแรกต้นปี 65 หวังปั้นธุรกิจใหม่เสริมทัพกลุ่มศรีตรัง
บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA โชว์ความคืบหน้าได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย. เป็นที่เรียบร้อย บนที่ดินของบริษัทฯ ในจังหวัดลำปาง เพื่อขายเมล็ด ใบ และรากทั้งหมดที่ได้จากการปลูกแก่ลูกค้าตามที่ตกลงทำสัญญากันไว้ รุกสร้างความแตกต่างโดยนำหลักการ Digital Traceability มาใช้กับทุกผลผลิตจากไร่ สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเมล็ดและรับชมแปลงปลูกด้วยระบบดิจิทัลแบบเรียลไทม์ หวังหวังปั้นธุรกิจใหม่เสริมทัพกลุ่มศรีตรัง
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติครบวงจรอันดับ 1 ของโลก เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ศรีตรัง รับเบอร์แอนด์แพลนเทชั่น จำกัด (SRP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ยื่นขอใบอนุญาตปลูกกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขยายการลงทุนสู่ธุรกิจปลูกกัญชงในระดับต้นน้ำ โดยนำองค์ความรู้และทรัพยากรของบริษัทฯ เช่น ที่ดินเพื่อการเพาะปลูกมาใช้ต่อยอดขยายธุรกิจดังกล่าว ตามที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศ ปัจจุบัน SRP ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเข้าสู่ธุรกิจปลูกกัญชงอย่างเต็มตัว
ทั้งนี้ หลังจากได้รับใบอนุญาตดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ สามารถดำเนินการปลูกกัญชงบนที่ดินของบริษัทฯ ในพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เพื่อจำหน่ายเมล็ด ใบ และรากกัญชงทั้งหมดที่มาจากการปลูกแก่ลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อหรือตกลงทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก อาทิ Arsenic (สารหนู) Cadmium (แคดเมียม) Lead (สารตะกั่ว) และ Mercury (ปรอท) เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมกัญชงกลางน้ำและผลิตภัณฑ์ปลายน้ำต่อไป โดยคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตล็อตแรกจากแปลงทดลองได้ในต้นปี 2565
บริษัทฯ ได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ปลูกกัญชงรายอื่นๆ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจในระยะยาว โดยนำหลักการ “Digital Traceability” หรือการตรวจสอบข้อมูลแบบดิจิทัลมาใช้กับทุกผลผลิตกัญชงของบริษัทฯ ที่จะส่งมอบแก่ลูกค้าตามคำสั่งซื้อ เช่น สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์, รับชมภาพแปลงปลูกกัญชงแบบเรียลไทม์ เป็นต้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ไร่กัญชงของบริษัทฯ ให้ความเชื่อมั่นและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว
“เรามีจุดมุ่งหมายยกระดับการปลูกกัญชงให้เป็นมาตรฐานและมีศักยภาพ หนุนการเติบโตให้กับบริษัทฯ ในอนาคต นอกจากการผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติที่เป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน โดยกรณีที่ตลาดมีความต้องการเมล็ด ใบและรากกัญชงอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมขยายพื้นที่ปลูกเพื่อเก็บผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินพร้อมใช้เป็นแปลงปลูกกัญชงอีกเป็นจำนวนมาก” นายวีรสิทธิ์ กล่าว
A10819
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ