- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Monday, 11 October 2021 16:11
- Hits: 12466
JP เปิดกลยุทธ์สร้างการเติบโต ปักธงมุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ภายใต้ Own Brand
พร้อมลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต รับแผนรุก CLMV พร้อมเข้าเทรดในตลาดเอ็ม เอ ไอ
ก้าวสู่ผู้นำด้านการวิจัย ผลิต จำหน่ายยาและอาหารเสริมครบวงจร
บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JP เปิดกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในเชิงดูแลป้องกันและรักษาโรค ชูจุดแข็งทีมวิจัยพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ต่อยอดสู่สินค้าเชิงพาณิชย์ ตามแผนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกกลุ่มภายใต้ Own Brand ออกสู่ตลาดปีละ 4-5 รายการ ควบคู่การสื่อสารการสร้างแบรนด์สินค้าและขยายช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ภายในประเทศ พร้อมเปิดเกมบุกตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV รับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเข้าสู่สังคมแห่งการดูแลสุขภาพ ผลักดันก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิตและจำหน่ายยา และอาหารเสริมครบวงจร พร้อมเดินหน้าเข้าเทรดในตลาดเอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปีนี้
ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมานานกว่า 70 ปี ด้วยทีมวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถต่อยอดงานวิชาการสู่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ ภายใต้ตราสินค้าบริษัทฯ (Own Brand) และขยายฐานกลุ่มลูกค้า OEM เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในเชิงดูแล ป้องกันและรักษาโรค ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีการจดทะเบียนยาที่พร้อมใช้เป็นยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ และอาหารเสริมแล้วกว่า 2,000 ผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้ Own Brand ซึ่งจะประกอบด้วย ยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาผู้ป่วย ภายใต้ตราสินค้า COXTM ไม่น้อยกว่า 1 รายการต่อปี ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์โปรตีนเสริมจากพืช (Plant-base Protein) ภายใต้ตราสินค้า ‘สุภาพโอสถTM ไม่น้อยกว่า 2 รายการต่อปี และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงสุขภาพและความงาม ภายใต้ตราสินค้า EVITONTM ไม่น้อยกว่า 4 รายการต่อปี โดยวางจำหน่ายผ่านช่องทางที่หลากหลาย (Multi -Channel Marketing) ทั้งร้านขายยาทั่วไป ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ ทีวีโฮมช้อปปิ้งและช่องทางออนไลน์ (Online Channel) ในมาร์เก็ตเพลส เช่น Shopee Lazada รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มุ่งเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุนเพื่อผลกำไรที่เพิ่มขึ้น จากแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตให้เกิดการประหยัดต่อขนาด หรือ Economy of Scale ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสเติบโตสูง เช่น ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีความสามารถด้านการผลิตที่หลากหลายทั้ง ปริมาณ ขนาด ส่วนผสม รูปแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ภายใต้มาตรฐานวิธีการผลิตสำหรับการผลิตยา (GMP PIC/s) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สอดคล้องและทัดเทียมกับมาตรฐานของสหภาพยุโรปและมาตรฐาน GMP สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทำให้ JP ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน
“เรานำจุดแข็งในทุกมิติ ทั้งประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ การมีทีมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีฐานการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล มาช่วยเสริมขีดความสามารถเชิงแข่งขันในการดำเนินธุรกิจของ JP ให้ก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิตและจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จากแผนที่มุ่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงการทำตลาดสินค้าภายใต้แบรนด์ Own Brand และการขยายฐานลูกค้า OEM ที่จะช่วยให้ JP สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตของผู้บริโภคเข้าสู่สังคมแห่งการดูแลสุขภาพได้” ดร.สิทธิชัย กล่าว
นางสาวจิรดา แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน JP กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) บริษัทฯ สามารถผลักดันการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขาย 3 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 348.88 ล้านบาท 360.69 ล้านบาท และ 455.64 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งตลอดระยะที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มภายใต้ Own Brand ทำให้มีสัดส่วนรายได้ปรับตัวดีขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 21-25% และยังช่วยส่งเสริมความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่ดีกว่าการรับจ้างผลิต OEM ทำให้กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือทำได้ 12.39 ล้านบาทในปี 2561 เพิ่มเป็น 23.57 ล้านบาทในปี 2562 และในปี 2563 เติบโตเพิ่มเป็น 31.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 3.52 ร้อยละ 6.44 และร้อยละ 6.71 ตามลำดับ
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 207.36 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายแบรนด์ OEM ร้อยละ 57.61 และ Own Brand ร้อยละ 37.56 ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนการขายร้อยละ 13.75 และกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ทำได้ 19.37 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 9.24 ของรายได้รวม
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JP มีศักยภาพเติบโตสูงจากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม อีกทั้งมีบริการให้กับลูกค้ากลุ่ม OEM ที่เป็นแบบครบวงจร (one-stop service) ประกอบกับกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งทำตลาดสินค้าภายใต้ Own Brand เพื่อผลักดันกำไรต่อการขายสินค้าต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตของ JP ได้เป็นอย่างดี
สำหรับการนำเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ JP จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปส่งเสริมศักยภาพการเติบโตในระหว่างปี 2564-2567 ประกอบด้วย 1. โครงการพัฒนาและแปรรูปพืชไข่น้ำเพื่อการผลิตเชิงพาณิชย์ ได้แก่ การสร้างอาคารแปรรูปและซื้อเครื่องจักรแปรรูปไข่น้ำเป็นสินค้าสำเร็จรูป 2.ใช้เงินลงทุนเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ TV Home Shopping เพื่อสร้างการรับรู้ถึงคุณสมบัติของตัวสินค้าใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงปี 2564-2566 และ 3. โครงการปรับปรุงและขยายโรงงานทั้งในส่วนกรุงเทพฯและจังหวัดลำพูน โดยปรับปรุงห้องวิจัยและตรวจสอบคุณภาพของโรงงานในกรุงเทพฯ และขยายไลน์การผลิตอาหารเสริมประเภท Soft gel และขยายพื้นที่คลังสินค้าที่โรงงานในจังหวัดลำพูน ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ ต่อไป
นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า ปัจจุบัน JP มีทุนจดทะเบียนรวม 227.5 ล้านบาท แบ่งเป็น 455 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 170 ล้านบาท คิดเป็น 340 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 115 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 25.27 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดย JP เตรียมพร้อมเข้าระดุมและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งอยู่ระหว่างการรออนุมัติแบบไฟลิ่งจากสำนักงาน ก.ล.ต. และเตรียมเสนอขายหุ้น IPO พร้อมกำหนดราคาจองซื้อวันจองซื้อต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO เป็นที่เรียบร้อยและนำหุ้นทั้งหมดของ JP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า JP มีโอกาสการเติบโตสูงจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าสู่สังคมแห่งการดูแลสุขภาพที่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่ง JP มีการนำความเชี่ยวชาญด้านการผลิตยา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยาแผนปัจจุบัน กลุ่มยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์โปรตีนเสริมจากพืช (Plant-base Protein) โดยล่าสุด บริษัทฯ มีความร่วมมือด้านการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์กับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา ที่พร้อมต่อยอดองค์ความรู้สู่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควบคู่กับการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ให้มากขึ้น ซึ่งจะผลักดันแผนการดำเนินงานของ JP ให้เติบโตได้ดีในระยะยาวต่อไป
A10342
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ