- Details
- Category: บล.
- Published: Thursday, 13 July 2017 19:04
- Hits: 2995
บล.โกลเบล็ก จับตาเฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปี หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,545-1,590 จุด-แนะเก็งกำไรหุ้นดักงบ Q2
กรุงเทพฯ-บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยจับตาประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐกลางสัปดาห์นี้ แนะกลยุทธ์ทยอยสะสมหุ้นที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 เด่นแนะนำCK-BPP--LH-HARN-LIT- BIZ-MGT-ECF หนุนกรอบดัชนี 1,545 – 1,590 จุด ด้านแนวโน้มราคาทองคำลุ้นทดสอบแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,200 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มสดใสมากขึ้น โดยล่าสุดเศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวต่อเนื่องภายหลังการลดภาระภาษีกระตุ้นการบริโภคทำให้ไตรมาสแรกของปี 2560 ตัวเลข GDP ของจีนขยายตัวถึง 6.9% หนุนมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปประเทศจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เติบโต 31.5%
อีกทั้ง ประเทศในกลุ่มยูโรโซนเตรียมประชุมเพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง หลังเศรษฐกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีกว่าการคาดการณ์ ประกอบกับราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากลิเบีย และไนจีเรียได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมกับกลุ่มสมาชิกโอเปกและประเทศนอกโอเปกในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่ากลุ่มโอเปกอาจขอร้องให้ทั้งสองประเทศจำกัดการผลิตโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีปัจจัยด้านลบกดดันภาพรวมตลาดหุ้นไทยจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังมีความผันผวนต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ค.พลิกกลับเป็น Net Sell ขณะที่ปีนี้ FED จะเริ่มปรับลดงบดุลมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการปรับลดมาตรการกระตุ้นทางการเงินที่จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 12 - 13 ก.ค. ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประกาศผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารงวดครึ่งแรกของปี 60 ระหว่างวันที่ 12 – 21 ก.ค. และเช้าวันที่ 13 ก.ค.ธนาคารกลางสหรัฐรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ส่วนวันที่ 14 ก.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานนโยบายการเงิน
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนต่อจากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากตลาดรอฟังถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลนต่อสมาชิกสภาและวุฒิสภาสหรัฐในวันพุธและวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงแรงซื้อดักงบไตรมาส 2/2560 ที่เริ่ม Preview และจะประกาศตั้งแต่กลางเดือนก.ค.
อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่มีสลับ Net Sell และประเด็นลบเรื่อง FED ปรับลดงบดุลภายในปลายปีนี้กดดันตลาด ดังนั้นประเมินว่าสัปดาห์นี้ SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,545 – 1,590 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อสะสมในกลุ่มหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 2/2560 จะเติบโต ได้แก่ CK, BPP LH, HARN, LIT, BIZ, MGT, ECF, WICE, JWD, RS และ BEM และกลุ่มปันผลครึ่งปีสูง ADVANC, INTUCH, CSL, KKP, TCAP, LH, QH, SIRI และ TTW
สำหรับ แนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า CFTC's Commitments of Traders รายงานการลดลงอย่างต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ติดต่อกันของยอดถือสถานะ long ในกลุ่มนักเก็งกำไรก่อนที่ราคาจะลงถึงเป้าหมายระยะสั้นบริเวณ 1,200 ดอลลาร์
ดังนั้นจึงมองภาพโดยรวมจึงยังคงเป็นลบต่อตลาดทองคำ แนวโน้มทางเทคนิคมองการแกว่งตัวอาจคาบเกี่ยวระดับดังกล่าวเพื่อทดสอบแรงซื้อกลับ แต่เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุน รวมทั้งนักลงทุนคาดหวังว่าการแถลงนโยบายการเงินและตอบคำถามต่อหน้ากรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา อาจทำให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ Fed จะเริ่มต้นปรับลดงบดุลและการคาดการณ์ผลกระทบในมุมมองของ Fed ทำให้การ cover short อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่คาดหวังถึงระดับที่ราคาทองคำจะกลับทิศทางหรือรีบาวน์ขึ้นมาแรง ๆ จึงแนะนำผู้ที่ขายไปแล้วให้ซื้อกลับเพียงบางส่วนของพอร์ตที่ราคาบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่าเล็กน้อย ส่วนพอร์ตลงทุนระยะกลางถึงยาว แนะนำให้แบ่งพอร์ตเริ่มทยอยซื้อสะสมอีกครั้ง