- Details
- Category: บล.
- Published: Wednesday, 05 October 2016 21:10
- Hits: 6155
'โกลเบล็ก'มองหุ้นไทยขานรับศก.ดีขึ้นและความกังวลดอยซ์แบงก์เริ่มคลี่คลาย ให้กรอบดัชนี 1,480 - 1,510 จุด แนะสะสมกลุ่มแบงก์ดักงบQ3 ชู TCAP-KKP-TISCO
กรุงเทพฯ-บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้แรงหนุนภาพรวมเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น การเจรจาลดค่าปรับของธ.ดอยซ์แบงก์ผ่อนคลายกังวลของนักลงทุน บวกกับราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงขึ้น และการ Preview งบไตรมาส 3/59 กลุ่มธนาคาร หนุนกรอบดัชนี 1,480 - 1,510 จุด แนะซื้อสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ Leasing สูง คาดกำไรไตรมาส 3/59 ออกมาดี จากการตั้งสำรองลดลง ชูTCAP-KKP-TISCO ด้านราคาทองคำปรับลงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยมีแนวรับ 1,250-1,245 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,300-1,305 เหรียญต่อทรอยออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากปัจจัยต่างประเทศในเรื่องกระแสข่าวดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐเกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุน รวมถึง ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงราว 48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันมีมติลดกำลังการผลิตลงสู่ 32.5 - 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งผลสำรวจของ Fox News ล่าสุดระบุว่านางฮิลลารียังมีคะแนนนิยมนำนายทรัมป์ที่ 43% ต่อ 40%
ส่วนปัจจัยบวกภายในประเทศได้แก่ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น การส่งออกในเดือนส.ค.ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 6.5% รายได้ภาคเกษตรที่ดีขึ้น ส่งผลให้หลายสำนักวิจัยต่างปรับประมาณการจีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าซึ่งเป็นบวกต่อภาวะการลงทุน
ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุน คือ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีแผนจะเริ่มกระบวนการ BREXIT สิ้นเดือนมีนาคม 2560 และกรณีที่รมว.คลังรัฐอิลลินอยส์ประกาศระงับการทำธุรกรรมการลงทุนวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์กับธนาคารเวลส์ ฟาร์โกหลังถูกปรับ 185 ล้านดอลลาร์จากการที่เปิดบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกว่า 2 ล้านบัญชี แนะนำจับตาการ Preview งบไตรมาส 3/2559 ของกลุ่มธนาคารที่มีกำหนดส่งภายในวันที่ 21 ต.ค. ในวันที่ 6 ตุลาคม สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ เช้าวันที่ 10 ตุลาคมตามเวลาในไทยเป็นการดีเบตรอบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 2
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงขึ้น และการ Preview งบไตรมาส 3/59 ของกลุ่มธนาคาร รวมถึงกระแสข่าวการเจรจาลดค่าปรับของธ.ดอยซ์แบงก์ เป็นแรงหนุนต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามการดีดตัวของดัชนีจะถูกจำกัดด้วยแรงกดดันจากสัญญาณเทคนิครวมถึง Volume ซื้อ/ขายที่ค่อนข้างบาง
ดังนั้น ประเมินว่า SET จะผันผวนขาขึ้นโดยมีกรอบการเคลื่อนตัวที่ 1,480 -1,510 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อแบบ Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ กลุ่มธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ Leasing สูง คาดกำไรไตรมาส 3/59 เติบโตขึ้นจากการตั้งสำรองลดลง แนะนำ TCAP, KKP และ TISCO ส่วนกลุ่มพลังงานได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงหลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันมีมติลดกำลังการผลิตลง รวมถึงราคาถ่านหินขึ้นทำ High ในรอบ 2 ปี ล่าสุด 81.1 ดอลลาร์/ตัน หลังจีนเร่งแก้ปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย แนะนำ BANPU
สำหรับ แนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับลงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังเดินหน้าในระดับปัจจุบัน ขณะที่ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียและประธานเฟดสาขาแอตแลตตารวมถึงประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมกดให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักกว่า 3% ในคืนวันที่ 4 ต.ค.
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย.ได้เพิ่มความกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มากขึ้น รวมถึงความกังวลปัญหาด้านการเงินของดอยซ์แบงก์ลดลงจากกระแสข่าวว่าดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดิมที่ดอยซ์แบงก์จะต้องจ่าย 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับทางสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำ
สำหรับ แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาปรับลงตามแนวต้านเส้น 5 วัน และ 10 วัน ที่ยังคงสัญญาณ DEAD CROSS ประกอบกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นลบ ทำให้ราคาแนวโน้มปรับลงต่อเข้าหาฐานแนวการพักตัวหลัก โดยมีแนวรับ 1,250-1,245 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,300-1,305 เหรียญต่อทรอยออนซ์