- Details
- Category: บล.
- Published: Saturday, 19 March 2016 20:35
- Hits: 4155
บล.กสิกรไทย หั่นกำไรบจ.ปี 59 จาก 94 บาท/หุ้น เหลือ 86 บาท/หุ้น รอดูงบ Q1/59 หากยังไม่ดีมีโอกาสลดลงอีก แต่ยืนเป้าดัชนีในกรอบ 1,250-1,450 จุด
บล.กสิกรไทย หั่นกำไรบจ.ปี 59 จาก 94 บาท/หุ้น เหลือ 86 บาท/หุ้น รอดูงบ Q1/59 หากยังไม่ดีมีโอกาสลดลงอีก แต่ยืนเป้าดัชนีในกรอบ 1,250-1,450 จุด บล.กสิกรไทย เผย บาทแข็งค่า ทุนต่างชาติไม่ได้ไหลเข้าหุ้น แต่เบี่ยงลงฟิวเจอร์สแทน เพราะได้ผลตอบแทนสูงถึง 200%
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย เปิดเผยว่า ภายหลังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไตรมาส 4/58 ออกมาไม่ดี ทำให้ฝ่ายวิจัยฯได้ปรับลดคาดกาารณ์กำไรบจ.ปี 59 ลงเหลือ 86 บาทต่อหุ้น จากเดิมคาดว่าจะมีกำไร 94 บาทต่อหุ้น และมีโอกาสปรับลดลงอีก หากผลประกอบการไตรมาส 1/59 ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะปรับลดคาดการณ์กำไรบจ.ลงได้อีก เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ภาคส่งออกติดลบ โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศจีนยังไม่ดี ตัวเลขส่งออกเดือนล่าสุดติดลบถึง 20% กระทบให้การค้าทั่วโลกมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม ภาพเงินทุนต่างชาติไหลเข้าจนทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่านั้น พบว่าไม่ได้ไหลเข้าลงทุนในหุ้น แต่เข้าไปเก็งกำไรในตลาด Futures เพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยได้เปิดสถานะซื้อล่วงหน้า ตั้งแต่เดือนม.ค. ที่ผ่านมา ช่วงดัชนีSET50 ที่ระดับ 700 จุด จนขณะนี้ดัชนีSET50 ขึ้นมาอยู่ที่ 800 จุด นักลงทุนต่างชาติได้ผลตอบแทนไปแล้ว 200% คาดว่าเงินทุนจะไหลออกในช่วงเดือนพ.ค. และมิ.ย. โดยปกติจะเป็นช่วงต่ำสุดของตลาดหุ้นไทย เนื่องจากจะเป็นฤดูกาลจ่ายเงินปันผล คาดว่าเงินจะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3/59 และจะเห็นดัชนีกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง
"ขณะนี้ เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาไม่ได้ลงทุนด้วยการซื้อหุ้น แต่เข้าลงทุนใน Futures และจะเห็นได้ว่าต่างชาติเข้ามาประคองดัชนีฯ และดันหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป เช่น PTT SCC AOT และ KTB แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าดัชนีฯ ปีนี้จะอยู่ในกรอบที่เคยประเมินไว้ 1,250-1,450 จุด" นายกวี กล่าว
สำหรับ กลุ่มที่แนะนำให้ลงทุน คือ กลุ่มธุรกิจและบริการ เช่น กลุ่มโรงแรม คือ CENTEL ท่องเที่ยว คือ BA , AOT โรงพยาบาล คือ BH หุ้นกลุ่มบริโภค HMPRO และ CPN รับผลประโยชน์จากกรณีรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ กลุ่มรับเหมาฯ แนะนำ CK ขณะเดียวกันแนะนำให้เลี่ยงลงทุนในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี โรงกลั่น กลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
"ระยะนี้อยากให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากยังมีความผันผวนอยู่ และเชื่อว่าไตรมาส 2 หุ้นจะมีการปรับฐานอีกครั้ง และไตรมาส 3 ค่อยกลับมาเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเปลี่ยน"นายกวี กล่าว