บล.ทิสโก้ ปักธงผู้นำดิจิทัลโบรกเกอร์ ชูบริการ TISCO Stock Scan และ TISCOeTrade ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล

    บล.ทิสโก้ปักธงผู้นำดิจิทัลโบรกเกอร์ นำกระแสฟินเทค (Financial Technology) ให้บริการออนไลน์ดิจิทัล ง่าย-สะดวก-รวดเร็ว ด้วยสมาร์ทฟีเจอร์ใหม่ใน’TISCO Stock Scan’ สแกนหุ้นเด็ด-เด่น สำหรับนักเทรดมือใหม่และมือเก๋าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อม TISCOeTrade โฉมใหม่ หนุนทุกการลงทุนด้วยบทวิเคราะห์ครอบคลุมโดยทีม GURU ทิสโก้ การันตีด้วยรางวัล SET Awards บริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยม 2015

     นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า บล.ทิสโก้ ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนมาอย่างยาวนาน เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและบทวิเคราะห์ที่ครอบคลุม การันตีได้จากรางวัลบริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยม 2558 (Best Securities Company Awards) ด้านการให้บริการหลักทรัพย์แก่นักลงทุนส่วนบุคคล รางวัล บริษัทหลักทรัพย์ดีเด่น (Outstanding Securities Company Awards) ด้านการให้บริการหลักทรัพย์แก่นักลงทุนส่วนบุคคล 5 ปีซ้อน (2554-2558) และรางวัลด้านการให้บริการหลักทรัพย์แก่นักลงทุนสถาบัน 3 ปีซ้อน (2556-2558) จาก SET Awards

      ในปีนี้ บล.ทิสโก้ตั้งเป้าเป็นผู้นำดิจิทัลโบรกเกอร์แบบครบวงจรผ่านบริการออนไลน์ มุ่งสู่รูปแบบฟินเทค (Financial Technology) โดยมีกลยุทธ์พัฒนาบริการออนไลน์เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น โดยเน้นการพัฒนาโปรแกรมสแกนหุ้น TISCO Stock Scan ให้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และตอบโจทย์นักลงทุนมากขึ้น สามารถวิเคราะห์ในระดับ Portfolio ได้ นอกจากนี้ยังมีการปรับโฉมเวบไซต์ TISCOeTrade ครั้งใหญ่ มีรูปแบบทันสมัย ใช้งานง่ายสะดวก ข้อมูลครบถ้วน Update และมีเครื่องมือในการสั่งซื้อขายหุ้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามวิสัยทัศน์ของ บล.ทิสโก้ ในการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่ครบวงจร

      นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บล. ทิสโก้ กล่าวว่า นับจากที่ บล.ทิสโก้ได้เปิดตัวบริการ “TISCO Stock Scan” โปรแกรมคัดหุ้นเด่นสำหรับนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนมืออาชีพ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็น Active Users อยู่มากกว่า 1 หมื่นราย ส่งผลให้สัดส่วนลูกค้า Active ในปีที่ผ่านมาสูงถึง 33% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 26% ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ บล.ทิสโก้จึงรุกหน้าพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ๆในโปรแกรม TISCO Stock Scan โดยจะเพิ่มความสามารถในการบริหารแบบ Portfolio และฟังก์ชั่นการคัดเลือกหุ้นที่หลากหลายขึ้น มีจุดแข็งจากทีมนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญของ บล.ทิสโก้ โดยลูกค้า บล.ทิสโก้ สามารถใช้งานบริการ Stock Scan โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยจะเริ่มเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ในเดือนมีนาที่จะถึงนี้

      นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ ยังได้ปรับโฉมเวบไซต์ 'TISCOeTrade'ครั้งใหญ่ ให้มีความสวยงามทันสมัย มีการแสดงหุ้นเด่นที่จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่เลือกหุ้นสดใหม่ได้ทุกวัน รวบรวมข้อมูล My Portfolio ในรูปแบบใหม่และข้อมูลครบถ้วน สามารถจองสัมมนา Online ได้ล่วงหน้าและสามารถรับชมย้อนหลังได้ นอกจากนี้ในส่วนของระบบการซื้อขายหุ้น  จะมีลูกเล่นใหม่ๆ และ Conditioned Orders เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและกลยุทธในการส่งคำสั่งซื้อขายให้ดียิ่งขึ้น

     ด้านผลการดำเนินงานของ บล. ทิสโก้ในปี 2558 นั้น มีส่วนแบ่งมูลค่าซื้อขายในตลาด SET 2.9% ส่วนแบ่ง Commission 3.3% มีจำนวนลูกค้า 56,013 บัญชี มี Active Ratio 33% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ แม้สภาวะตลาดจะไม่เอื้ออำนวย ส่วนในปี 2559 นั้น ตั้งเป้าส่วนแบ่งมูลค่าซื้อขายในตลาด SET มากกว่า 3% ส่วนแบ่ง Commission มากกว่า 3.7% มีจำนวนลูกค้าใหม่มากกว่า 10,000 ราย มี Active Ratio ที่ 35% จำนวนบทเคราะห์หุ้น 130 บริษัท สายงานวาณิชธนกิจจะมี IPO ออกมา 4 ดีล มูลค่าเสนอขายรวมมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท

        โดยลูกค้าที่สนใจบริการของบล.ทิสโก้ ทั้ง 'TISCO eTrade'และ  TISCO Stock Scan สามารถสอบถามข้อมูลได้ผ่านเวบไซต์ www.tiscoetrade.comโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือผู้สนใจทั่วไปสามารถสอบถามได้ที่ บล.ทิสโก้ โทร. 02-633-6555หรือwww.tiscosec.com

บล.ทิสโก้ คาดคงคอมมิชชั่นปีนี้ 0.16-0.17% เน้นให้บริการคุณภาพแม้การแข่งขันรุนแรง เล็งพาบจ.ไปโรดโชว์ตปท. 70 ครั้ง

    บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ได้แถลงแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2559 โดยมีนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  เป็นผู้ให้ข้อมูล โดยมีสาระสำคัญดังนี้

    บริษัทฯคงการคิดค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์(คอมมิชชั่น) อยู่ที่ 0.16-0.17% แม้ภาพรวมการแข่งขันธุรกิจหลักทรัพย์จะรุนแรง แต่เชื่อว่าปีนี้จะไม่เห็นภาพการแข่งขันค่าคอมมิชชั่น มากนัก เพราะบริษัทหลักทรัพย์ใหม่ที่เข้ามาในปี 58 นั้น มีผลขาดทุนจากการลดค่าคอมมิชชั่น โดยบริษัทฯจะเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ ทั้งบทวิเคราะห์ และพัฒนาระบบซื้อขายออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

     ทั้งนี้ คาดค่าคอมมิชชั่นโดยเฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรมในปี 59 นี้ จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.12%  เพราะว่านักลงทุนนิยมเทรดผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันรุนแรง ขณะที่มูลค่าการซื้อขายไม่ได้มาก ระดับดังกล่าวถือว่าลดลงจากปี 58 อยู่ที่ 0.13% ซึ่งลดลงจากปี 57 อยู่ที่ 0.14%

     ในปี 58 รายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ของทั้งอุตสาหกรรมอยู่ที่ 25,092 ล้านบาท ลดลง 10.3% จากปี 57 อยู่ที่ 27,981 ล้านบาท เป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวัน ในปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 2.6% หรือมาอยู่ที่ 45,466 ล้านบาทต่อวัน

    บริษัทฯคาดดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกจะสามารถปรับตัวแตะระดับ 1,400 จุดได้ เพราะขณะนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำ และมีความเสี่ยงปรับตัวลดลงน้อย ประกอบกับราคาหุ้นไทยถือว่าอยู่ในระดับต่ำ และคาดนักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิได้จากที่ผ่านมาต่างชาติได้ขายหุ้นไทยออกไปจำนวนมาก โดย 3-4 ปีที่ผ่านมา ขายสุทธิหุ้นไทยรวมแล้ว 400,000 ล้านบาท และเดือนม.ค. ขายอีก 10,000 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันต่างชาติถือครองหุ้นไทยต่ำสุดในรอบ 10 ปี

   บริษัทฯ เตรียมที่จะนำบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยไปนำเสนอข้อมูล ปีนี้ 70 ครั้ง ในประเทศยุโรป อเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง จากปี 58 ที่พาบจ.ไปโรดโชว์จำนวน 43 ครั้ง และทีมนักวิเคราะห์บล.ทิสโก้ จะไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างชาติปีนี้ 44 ครั้ง จากปี 58 ที่ 34 ครั้ง เพราะปัจจุบันต่างชาติถือครองหุ้นไทยน้อย เช่น ยุโรป อเมริกา บางกองทุนถือหุ้นไทยเพียง 1 บริษัทเท่านั้น จากมองว่าราคาหุ้นไทยถูก จึงมองว่ามีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังหากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีและการเมืองมีเสถียรภาพ

     ในปี 59 บริษัทฯตั้งเป้าส่วนแบ่งมูลค่าซื้อขายในตลาด (SET) มากกว่า 3% เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่ 2.9% มีส่วนแบ่งคอมมิชชั่นมากกว่า 3.7% จากปี 58 ที่ 3.3% และมีแผนเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่มากกว่า 10,000 ราย จากสิ้นปี 58 ที่มี 56,013 บัญชี และคาดว่าจำนวนลูกค้าที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอ (Active Ratio)ที่ 35% จากปีก่อนที่ 33%  และปีนี้จะมีจำนวนบทวิเคราะห์ 130 บริษัท  

     ด้านสายงานวาณิชธนกิจมีงานนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (IPO) จำนวน 4 บริษัท มูลค่าเสนอขายรวมมากกว่า 20,000 ล้านบาท   

    ในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าเป็นผู้นำดิจิทัลโบรกเกอร์แบบครบวงจรผ่านบริการออนไลน์มุ่งสู่รูปแบบฟินเทค (Financial Technology) โดยมีกลยุทธ์พัฒนาบริการออนไลน์เพื่อเพิ่มเติมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น โดยจะมีการพัฒนาโปรแกรมสแกนหุ้น TISCO Stock Scan ให้มีประสิทธิภาพแม่นยำสามารถวิเคราะห์ระดับ Portfolio ซึ่งจะเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ในเดือน มี.ค.นี้    

   หลังจากเปิดตัว TISCO Stock Scan โปรแกรมคัดหุ้นเด่นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่และนักลงทุนมืออาชีพได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็น Active User มากกว่า 10,000 ราย โดยปีที่ผ่านมามีลูกค้า Active ถึง 33% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 26%

  นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับแนวคิดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงเกณฑ์IPO ในเรื่องการห้ามบริษัทที่ถูกปฏิเสธไฟลิ่ง และบริษัทที่ขอไฟลิ่ง โดยไม่มีการชี้แจงข้อสงสัยของก.ล.ต. เป็นเวลา 5 ปี เพราะมองว่าปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ มีจำนวนมากแล้ว ควรจะเน้นเลือกบริษัทมีคุณภาพดีเข้ามาจดทะเบียน

    ส่วนเรื่องการห้ามผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท นำหุ้นออกมาขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ขายไอพีโอ ก่อนยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต. เป็นเวลา 180 วันถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และเป็นธรรมกับนักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาถือหุ้น รวมถึงหุ้นที่จะนำมาขายแก่ผู้มีอุปการะคุณไม่เกิน 25% นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน เพราะจะได้มีความโปร่งใส และราคาหุ้นจะเป็นไปตามกลไกของตลาดจากที่ก.ล.ต.มองว่าการจัดสรรให้กับผู้มีอุปการะคุณมีส่วนทำให้ราคาหุ้นที่เทรดวันแรกมีความผิดปกติ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย