- Details
- Category: บล.
- Published: Tuesday, 24 June 2014 21:57
- Hits: 3909
บล.บัวหลวง มอง EU ชะลอ FTA ไทยกระเทือนกลุ่มอิเล็คทรดนิกส์-อาหาร-ยานยนต์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า กรณีที่สหภาพยุโรป(EU)ชะลอการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)กับไทยจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มส่งออกทั้งอิเล็กทรอนิคส์ อาหาร และชิ้นส่วนรถยนต์ โดยเฉพาะ 8 บริษัทใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ TUF, CPF, KCE, HANA, DELTA, SAT, PCSGH และ SVI ขณะเดียวกัน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยตลอดทั้งสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3/57 คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมา ทำให้ดัชนีพักฐาน โดยคาดว่าตลาดฯ จะปรับตัวลดลงราว 70-100 จุด เนื่องจากมีการทำรัฐประหารเกิดขึ้นส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไป มีหลายกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลดีจากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ออกมาเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจกับสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น
กลุ่มที่จะได้รับผลดี คือ กลุ่มธนาคาร เช่น KBANK, SCB, BBL และอสังหาริมทรัพย์ เช่น LPN, AP, SIRI กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เช่น HAMRAJ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และท่องเที่ยว รวมถึง กลุ่มพาณิชย์ที่ได้รับผลดีจากความเชื่อมั่นของประชาชนที่ปรับตัวดีขึ้น
ส่วนไตรมาส 4/57 มองว่าจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,530 จุด และไตรมาส 1/58 จะขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 1,650 จุด เนื่องจากมองว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/57-ไตรมาส 1/58 จะปรับตัวดีขึ้น หลัง คสช.เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ของประเทศ เชื่อว่านักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับตัวดีขึ้น และเงินปันผล
"เรามองว่าในช่วงไตรมาส 3 คงจะเป็นช่วงที่นักลงทุนและกองทุนต่างๆมีการปรับฐานการลงทุน เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแผลงไปจากเดิม หลังจากที่ คสช.เข้ามาดำเนินนโยบายต่างๆต่อ และในไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ดัชนีเริ่มปรับตัวขึ้น และจะขึ้นไปสูงมากในช่วงไตรมาส 1 เพราะมีแรงซื้อเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการและเงินปันผลที่จะออกมา จากในช่วงที่ผ่านมาหุ้นหลายๆกลุ่มมีราคาที่ปรับลดลงไปค่อนข้างมากจากความกดดันทางการเมือง"นายชัยพร กล่าว
อินโฟเควสท์
บล.บัวหลวง แนะปรับพอร์ตลงทุนเพิ่มหุ้นอิงโครงการอินฟราฯ ประเมินดัชนีต้นปีหน้าได้เห็น 1,650จุด
บล.บัวหลวง แนะปรับพอร์ตลงทุนเพิ่มหุ้นอิงโครงการอินฟราฯ รองรับแผนลงทุนภาครัฐ-เอกชน หลัง คสช.เข้ามาเร่งเบิกจ่าย ประเมินดัชนีต้นปีหน้าได้เห็น 1,650จุด ส่วนช่วงสั้นแนะหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากกรณีที่ EUชะลอเจรจรา FTA เช่น KCE-DELTA-HANA-TUF-CPF-SVI-PCSGH และ SAT
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยหลังเหตุการณ์รัฐประหาร มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้แนะนำนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนใหม่ในหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ อาทิ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งประเมินว่าหุ้นกลุ่มนี้จะมีแรงซื้อกลับ จากก่อนหน้ามีการเทขายออกไปเนื่องจากมีความกังวลเรื่องการชะลอตัวของโครงการภาครัฐ รวมถึงจะมีการปรับรายได้และกำไรบรัษัทฯ ที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตเกินคาด แนะนำ ลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาฯ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มท่องเที่ยว และ กลุ่มพาณิชย์
ส่วนในระยะสั้น แนะนำหลีกเลี่ยง หุ้นในกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากกรณีที่ EU ชะลอการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA)กับไทย อาทิ KCE, DELTA, HANA, TUF, CPF, SVI, PCSGH และ SAT จากก่อนหน้าที่บริษัทได้แนะนำให้ซื้อหุ้นเหล่านี้ เนื่องจากเกรงว่ากรณีดังกล่าวจะกระทบกับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ GSPที่ยุโรปให้กับสินค้าที่ผลิตในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยลดหรือยกเว้นภาษีขาเข้าแก่สินค้าที่อยู่ในกลุ่มได้รับสิทธิ์ ซึ่งจะทำให้กำไร และความสามารถในการแข่งขันของ บจ.ลดลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ทางคสช.จะมีการส่งฑูตพาณิชย์ เพื่อทำการเจรจากับสหภาพยุโรปต่อไป
"บรัษัทฯ มองว่า การถูดลด GSP ไม่ได้กระทบต่อด้านการส่งออกของไทยทั้งหมด เนื่องจากภาคการส่งออกของไทยจะเติบโตตามไปกับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตอนนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับไทยมีการส่งออกไปทางฝั่งยุโรปและอเมริกาแค่ประเทศละ 10% เทม่านั้น"นายชัยพร กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 3/57 จะอยู่ที่ราว 1,480 -1,500 จุด จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,460 จุด ดังนั้นช่วงดัชนีที่ 1,500 จุด จึงควรระมัดระวังแรงขายทำกำไร
ส่วนไตรมาสที่ 4/57 คาดว่าดัชนีฯ จะอยู่ที่ราว 1,530 จุด และจะดียิ่งขึ้นในไตรมาสที่ 1/58 คาดจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1,650จุด บนค่า P/E 15 เท่า และมีกำไรต่อหุ้นที่ราว 117บาท เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจะออกมาดีในปี58
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย