- Details
- Category: บล.
- Published: Saturday, 04 July 2015 20:57
- Hits: 2571
บล.ทรีนีตี้ จับตาปัญหาการเงินกรีซยุติหนุนการลงทุนฟื้น แนะกลยุทธ์เดือนก.ค.ซื้อขายตามกรอบดัชนี 1,480-1,550 จุด
บล.ทรีนีตี้ แนะกลยุทธ์การลงทุนในเดือนก.ค.นี้ เล่นซื้อขายตามกรอบดัชนี 1,480-1,550 จุด ระบุหุ้นพลังงานปิโตรเคมีโชว์ผลงานโดดเด่นกว่าตลาด หุ้นธนาคารพาณิชย์ส่อแววโดนปรับลดประมาณการ จับตาการลงประชามติแก้ปัญหาการเงินกรีซวันอาทิตย์นี้ หนุนภาพรวมการลงทุนฟื้น
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า มองภาพรวมการลงทุนในเดือนกรกฎาคมนี้ตลาดหุ้นยังคงปรับตัวผันผวนในกรอบดัชนี SET Index บริเวณ 1,480-1,550 จุด โดยมองแนวโน้มตลาดหุ้นช่วงครึ่งเดือนหลังจะดีกว่าครึ่งเดือนแรก มีปัจจัยต่างประเทศสนับสนุน หากการลงประชามติของกรีซในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นยอมรับแผนปฏิรูปของ Troika คาดเป็นจิตวิทยา (Sentiment) เชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก บวกกับตลาดโลกเริ่มคลายความกังวลแม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แต่การปรับขึ้นจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และเป็นประเด็นที่อยู่ในประมาณการแล้ว
ขณะเดียวกัน มีปัจจัยภายในประเทศหลังตลาดเริ่มเห็นสัญญาณการปรับเพิ่มประมาณการของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มปรับตัวดีกว่าตลาด (Outperform) ในช่วงไตรมาสที่ 3/2258
สำหรับ ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงกรีซอาจเกิดขึ้นหากผลการลงประชามติออกมาไม่ยอมรับแผนปฎิรูปของกลุ่มเจ้าหนี้ หรือหากรัฐบาลชุดนี้ประกาศลาออก จะทำให้โอกาสที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือยืดเยื้อออกไป ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้แก่ ECB มูลค่า 3.5 พันล้านยูโร ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ และจากสถานการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ของประเทศพัฒนาแล้วที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยสำคัญกดดันให้เม็ดเงินลงทุน (Fund flow) ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก รวมถึงการปรับลดประมาณการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงทำประมาณการ(Preview) ผลประกอบการในช่วงต้นเดือน อย่างไรก็ดีมองการย่อตัว (Downside) มีจำกัด และเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
นายณัฐชาต กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้แนะนำให้ซื้อขายตามกรอบดัชนี 1,480-1,550 โดยหากดัชนีมีการปรับตัวลงมาบริเวณ 1,480 จุด มองเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มน้ำหนักหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นระดับที่มีมูลค่าราคา (Valuation) ที่น่าสนใจ สำหรับหุ้นแนะนำตามบทวิจัย The Big Picture ได้แก่ IRPC, IFEC, BLA, TCAP, CCET, JMT, PTTGC, BTS, WHA, BANPU, IVL, TPOLY, SUPER, HANA, TISCO, CEN, VNG, TVT PTT, EVER
สำหรับ ผลตอบแทนของหุ้นที่แนะนำในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 4.6% ในขณะที่ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย (SET Total Return index) อยู่ที่ 0.6% โดยผลตอบแทนของ The Big Picture นับตั้งแต่การจัดตั้ง 60 เดือน อยู่ที่ 746% เทียบกับ SET Total Return index ที่ 126%
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ: บริษัท เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง จำกัด
ดรรชนี นวลเขียว (มุ้ม) 097-919-6546 [email protected],
ศิมาภรณ์ แสนสิงห์ (กระแต) 092-279-4963, 094-569-5197, [email protected]