- Details
- Category: บล.
- Published: Monday, 20 April 2015 23:31
- Hits: 2201
บล.เอเชีย เวลท์ คาด SET สัปดาห์นี้ขยับในกรอบ 1,552-1,588 จุด รอลุ้นงบกลุ่มแบงก์ มั่นใจเฟดยังไม่ขึ้นดบ.กลางปีนี้ พร้อมชู MINT เป็นหุ้นเด่น
บล.เอเชีย เวลท์ คาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ1,552-1,588 จุด เชื่อเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ จากภาวะค่าเงิน USD แข็งค่า และตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก สัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นทั่วโลกจับตางบบ.เอกชนสหรัฐฯ ส่วนไทยรองบกลุ่มแบงก์ แนะลงทุนหุ้น MINT คาดได้รับประโยชน์จากการเติบโตของการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก และสหรัฐฯ แนะผู้ลงทุนทยอยลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน หลังจ่ายปันผล
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) น่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นในเดือน มิถุนายนนี้ หลังจากที่ผ่านมาตลาดมีความกังวลในเรื่องนี้ แต่เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจหลาย ๆ ตัวของสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจประสบความยากลำบากในการฟื้นตัว เช่น ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านที่อ่อนแอเกินคาดในเดือนมีนาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) จึงทำให้ตลาดคลายกังวลในปัจจัยนี้ออกไป
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังถูกกดดันจากการรอการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งของสหรัฐฯ และในไทยเอง ซึ่งเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ไทยเริ่มมีประกาศผลการดำเนินงานของธนาคารออกมา เช่น ธนาคารทหารไทย ที่มีตัวเลขการสำรองหนี้สงสัยจะสูญ และ NPL สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งทำให้ตลาดต่างจับตามองว่า ในสัปดาห์นี้ ธนาคารอื่น ๆ จะประกาศตัวเลขเป็นอย่างไร เช่น ธนาคารทิสโก้ และธนาคารกรุงเทพ โดยสำหรับธนาคารกรุงเทพ นั้น คาดว่า ตัวเลขสำรองหนี้ฯ และ NPL จะไม่สูงเท่ากับของธนาคารทหารไทย
“สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ ประมาณ 1,552-1,588 จุด โดยนอกจาก ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ต้องติดตามแล้ว ผู้ลงทุนจะต้องติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯ ปัจจัยการแข็งค่าของ USD และผลกระทบจากภาวะอากาศหนาวจัดในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยด้วย โดยคาด ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ซึ่ง GDP น่าจะโต 3% ได้ตามที่สภาพัฒน์ฯ คาดล่าสุด และ GDP ไตรมาส 2 ยิ่งน่าจะออกมาดี จากการที่รัฐบาลเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ กลุ่มหุ้นที่เป็นดาวเด่นนับจากนี้ไป คือ หุ้นในกลุ่มรับเหมา ที่ได้ประโยชน์จากโครงการภาครัฐและเอกชน” คุณวรุตม์ กล่าว
คุณวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำลงทุนในหุ้น MINT ของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดย MINT เป็นเจ้าของ ผู้ประกอบการ และผู้ลงทุนในธุรกิจโรงแรมและอาหารที่มีโรงแรมและรีสอร์ทมากกว่า 120 แห่ง และมีจำนวนห้องพักและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เช่น อนันตรา โฟร์ซีซั่นส์ และแมริออท, และโรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยิ่งไปกว่านั้น MINT ยังเป็นผู้ประกอบการธุรกิจศูนย์การค้าและบันเทิง และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในเอเชียแปซิฟิค ตะวันออกกลาง แอฟริกา คาบสมุทรอินเดีย ยุโรป และอเมริกาใต้
“MINT ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโต จากการสำรวจขององค์การการท่องเที่ยวระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) โดยรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก ปี 2557 มีอัตราการขยายตัว 4.7% โดยสหรัฐฯ ขยายตัวเป็นอันดับ 1 ที่ระดับ 7% และเอเชียแปซิฟิค ขยายตัวเป็นอันดับ 2 ที่ 5% สำหรับปี 2558 UNWTO คาดว่าการท่องเที่ยวโลกยังคงจะขยายตัวได้อย่างเข้มแข็งในอัตรา 4% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และเอเชียแปซิฟิค นอกจากนี้ MINT ยังจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ โดยราคาเป้าหมายจาก Bloomberg consensus อยู่ที่ 35 บาท
ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ลงทุนที่เน้นลงทุนระยะยาว เข้าลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี ที่ราคาปรับลดลงมาหลังจากที่มีการประกาศจ่ายปันผล เช่น หุ้น BTS INTUCH ADVANC BJCHI SPALI ส่วนผู้ที่ชอบ Trade ระยะสั้น แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวัง” นายวรุตม์ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย