- Details
- Category: บล.
- Published: Tuesday, 31 March 2015 23:46
- Hits: 2200
BLS ตั้งเป้าลูกค้าใหม่ปีนี้ 3 หมื่นบัญชี โต 20%จากสิ้นปีก่อน 1.5 แสนบัญชี
บล.บัวหลวง(BLS) ตั้งเป้าปี 58 กวาดลูกค้าใหม่ราว 3 หมื่นบัญชี เติบโต 20% จากสิ้นปี 57 ที่มีจำนวนบัญชีลูกค้าทั้งหมด 1.5 แสนบัญชี โดยมองว่าฐานลูกค้ายังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก เพราะปัจจุบันบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบมีประมาณ 1 ล้านบัญชี ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรของประเทศ
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ปี 58 คาดรายได้รวมจะต่ำกว่าปี 57 ที่ 3.05 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดที่ปีนี้คาดว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปี 57 ที่เฉลี่ยต่อวันที่ 4.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐไทยปีนี้มีการปรับจีดีพีลง ทำให้ทั้งรายได้และกำไรน่าจะต่ำกว่าปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทยังเป็นรายได้จากค่านายหน้าธุรกิจหลักทรัพย์ 60% รายได้จากงานวาณิชธนกิจ 10% และรายได้จากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) 20% และอื่นๆ 10%
โดยปีนี้บริษัทคาดส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)จะเพิ่มขึ้นราว 0.2% จากปี 57 อยู่ที่ 4.96% ซึ่งอยู่ในอันดับ 4 มาร์เก็ตแชร์ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและการเทรดผ่านระบบออนไลน์น่าจะสูงขึ้นขณะที่การเทรดผ่านมาร์เก็ตติ้งก็ทรงตัวไม่ได้ลดลง ปีนี้บริษัทฯยังคงรักษาอัตราค่าคอมมิชชั่นไว้ที่ 0.16% ซึ่งสูงกว่าตลาด(ค่าเฉลี่ยของอุตฯ) ที่อยู่ระดับต่ำเพียง 0.14% ซึ่งเราจะไม่ปรับลดอัตราค่าคอมฯเพื่อลงไปแข่งขัน ถึงแม้ปีนี้จะมีจำนวนโบรกฯที่จะเพิ่มขึ้นมาทำให้การแข่งขันสูงกดดันก็ตาม
"ผลประกอบการปี 58 ยังเหนื่อยเพราะมูลค่าการซื้อขายปีนี้น่าจะลดลงจากปี 57 เพราะทิศทางเศรษฐกิจยังไม่แข็งแรง การแข่งขันโบรกฯก็น่าจะแข่งดุเพราะมีโบรกฯใหม่เปิด และต้องแข่งทั้งดีลเลอร์และแข่งทางอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้ง รายได้น่าจะลดลงตามวอลุ่ม ขณะที่โครงสร้างกำไรก็จะล้อๆใกล้เคียงกัน แต่เราจะยืนรักษาอัตราค่าคอมฯสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด จะไม่ปรับลดเพื่อลงมาแข่ง"นายพิเชษฐ กล่าว
ด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) ปีนี้คาดว่าจะงานที่ปรึกษาการกระจายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(IPO) อีก 3-4 ดีล เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งจะพยายามให้เข้าซื้อขายทันภายในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจไปประเทศแถบอาเซียน(AEC)โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนใน 2-3 ปีนี้ โดยศึกษาทั้งการร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการในประเทศนั้นๆ ตั้งสาขา หรือการทำลักษณะเซ็น MOU ร่วมกัน ซึ่งศึกษาทุกรูปแบบ เราอาจจะไปช้าก็ไม่เป็นไรขอเวลาศึกษาให้ดีก่อน ตอนนี้เน้นที่การทำธุรกิจในประเทศก่อน
"AEC ศึกษาตลาดต่างประเทศอยู่ที่จะไปอย่างยั่งยืนด้วยวิธีไหนที่เหมาะสมที่สุด ไปช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร"นายพิเชษฐ กล่าว
ทั้งนี้ แผนการดำเนินธุรกิจในปี 58 ยังคงตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายฐานนักลงทุนให้ครอบคลุมลูกค้าทุกประเภท มุ่งต่อยอดกลยุทธ์ด้านความเป็นผู้นำนวัตกรรมและการเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อการลงทุน ด้วยการผลักดันบริการด้านการลงทุนใหม่ๆออกสู่ตลาด โดยเฉพาะบริการด้านออนไลน์เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักลงทุนยุคใหม่ และยังเน้นการให้ความรู้ลูกค้าและนักลงทุนทั่วไปทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์อย่างเข้มข้น เพื่อบริการการลงทุนแบบพรีเมี่ยม ที่จะช่วยยกระดับความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้าอย่างดีมาตลอด สำหรับผลประกอบการปี 2557นั้น หลักทรัพย์บัวหลวงมีรายได้ 3,057 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท จากปี 2556 ที่มีรายได้ 3,313 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,188 ล้านบาท
เนื่องจากปัจจุบัน พบว่าลูกค้าพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ที่มีบริการครบเครื่องและเหมาะกับพฤติกรรมการลงทุนของตัวเองมากขึ้น หลักทรัพย์บัวหลวงจึงมุ่งพัฒนาบริการการลงทุนคุณภาพที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกประเภท นั่นถือเป็นจุดแข็งและจุดขายของหลักทรัพย์บัวหลวง ที่ทำให้เราข้ามผ่านสภาวะการแข่งขันของธุรกิจนี้ไปได้อย่างมั่นคงตลอดมา เพราะเป้าหมายหลักของเราไม่ใช่ส่วนแบ่งตลาด แต่เราต้องการเป็น Broker of choice ที่เป็น Premium Broker ที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิดในการลงทุนที่ลูกค้าไว้วางใจใช้บริการ ปัจจุบัน เราเป็นผู้นำนวัตกรรมการลงทุนที่หลากหลายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ตลอดจนการเป็นผู้นำด้านการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาลูกค้าให้เป็นนักลงทุนคุณภาพ ซึ่งเมื่อเสริมกับจุดแข็งในเรื่องความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ทำให้หลักทรัพย์บัวหลวงสามารถขยายฐานนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและมีผลการดำเนินงานที่เติบโตสม่ำเสมอและยั่งยืน
จากการที่หลักทรัพย์บัวหลวงมีผลิตภัณฑ์ บริการ ตลอดจนนวัตกรรมทางการเงินครบวงจรสำหรับนักลงทุนทุกประเภท ทำให้เราสามารถให้บริการลูกค้าได้หลากหลายและครอบคลุม ทั้งการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์บุคคลและสถาบัน ธุรกิจวาณิชธนกิจ และในปีนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงได้แยกธุรกิจจัดการกองทุนออกมาเป็น “บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบางกอกแคปปิตอล จำกัด" เพื่อเตรียมรองรับธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมประมาณ 22,000 ล้านบาท
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ กล่าวว่า ในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา หลักทรัพย์บัวหลวงได้รับความไว้วางใจ เป็น Broker of Choice ของนักลงทุนมาโดยตลอด เห็นได้จากฐานลูกค้าของบริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมากที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่เห็นคุณค่าในบริการการลงทุนแบบพรีเมี่ยมของบริษัท ทั้งนี้ ฐานลูกค้าที่ขยายตัวนั้น เป็นผลจากลูกค้าเล็งเห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนานวัตกรรมการลงทุน (Innovation) และการให้ความรู้ (Education) พร้อมคำแนะนำการลงทุนที่มีประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยในปีนี้จะยังคงเน้นการบริการลูกค้าอย่างเข้มข้นและครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินสายให้ความรู้แก่นักลงทุน โดยในปีที่ผ่านมา หลักทรัพย์บัวหลวงได้ขยายสาขาเป็นฮับในจังหวัดหลักๆ เพื่อให้บริการลูกค้าในจังหวัดใกล้เคียงได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยได้เปิดสาขาที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นเมืองท่ารองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อให้บริการครอบคลุมลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมากขึ้น
สำหรับ ธุรกิจการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) หรือ DW นั้น หลักทรัพย์บัวหลวงสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งทั้งด้านมูลค่าการซื้อขายและจำนวนการถือครอง DW ต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว และได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในฐานะที่เป็นผู้ออกตราสารที่มีความน่าเชื่อถือ และมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้ง call และ put ตลอดจนการดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ลูกค้ายังให้ความไว้วางใจจากการเป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือและมีความมั่นคงทางการเงินด้วย
"ปัจจุบัน ฐานลูกค้ารวมของหลักทรัพย์บัวหลวง คิดเป็น 15% ของจำนวนผู้มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์รวม และลูกค้าที่มีการซื้อขายในแต่ละเดือนคิดเป็น 18% ของยอดรวมทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งนับว่าสูงมากในแง่ที่เรามีส่วนในการให้บริการลูกค้า โดยลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ทำให้หลักทรัพย์บัวหลวง มีอัตราการเติบโตที่ดีสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ทำให้ในปีที่แล้วเรามีส่วนแบ่งตลาด 5.25% อยู่ในอันดับ 4 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปี 2555 ที่มีส่วนแบ่ง 4.16% อยู่ในอันดับ 10 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของเราที่ต้องการพัฒนาตลาดทุนซึ่งไม่เพียงแต่การขยายฐานนักลงทุนแต่เพียงอย่างเดียวแต่รวมถึงการให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้องด้วย โดยในปีที่ผ่านมา เราได้จัดสัมมนาให้ความรู้แก่นักลงทุนกว่า 70 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมการอบรมกว่า 3,000 ราย ปีนี้ เราคาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 3 หมื่นบัญชี หรือเพิ่มขึ้น 20% จากสิ้นปีก่อนที่มีบัญชีลูกค้าประมาณ 1.5 แสนบัญชี โดยเรามองว่าฐานลูกค้ายังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก เพราะปัจจุบันบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบ มีประมาณ 1 ล้านบัญชี ซึ่งยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประชากรของประเทศ แต่การตัดสินใจเข้าเริ่มการลงทุนมักจะขึ้นกับภาวะตลาดฯ เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม เรายังคงดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการผลักดันนวัตกรรม บริการ และการให้ความรู้ด้านการซื้อขายระบบออนไลน์อย่างเข้มข้น โดยเรามีการจัดตั้ง “Bualuang Investment Station" พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้คำแนะนำ และบริการลูกค้าระบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อการลงทุน ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นผู้นำด้านการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนเป็นรายแรกในอุตสาหกรรม ตามนโยบายเปลี่ยนห้องค้าเป็นห้องเรียนการลงทุนของเรา" นายบรรณรงค์ กล่าว
ปีนี้บริษัทยังคงเน้นการออกนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน หลังจากปีที่แล้วได้เปิดตัวโปรแกรม “Bualuang iTracker" ซึ่งเป็นรายงานที่รวบรวมธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้ามาทำการประมวลผลในเชิงปริมาณแบบ Win-Loss Analysis เพื่อสรุปเป็นรายงานสะท้อนพฤติกรรมในการลงทุนที่เกิดขึ้นจริง โดยมีการวิเคราะห์และแยกแยะข้อมูลที่จะบอกได้ถึงแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการซื้อขายของแต่ละคนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และโปรแกรม “Bualuang iAlgo" ระบบส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นอัตโนมัติด้วยชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Algorithmic Order) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดหรือสร้างเงื่อนไขในการส่งคำสั่งในรูปแบบต่างๆ เพื่อล็อกทำกำไร บริหารความเสี่ยง กำหนดจุดตัดขาดทุน โดยลูกค้าสามารถส่งคำสั่งได้ด้วยตนเองทางอินเตอร์เน็ตหรือมอบหมายให้ผู้แนะนำการลงทุนส่งคำสั่งให้ก็ได้ ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นโบรกเกอร์รายแรกและรายเดียวที่ให้บริการนวัตกรรมทั้งสอง ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับดีมาก ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลมากขึ้น บรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเป็น Broker of choice ด้วยการให้ความรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนานักลงทุนและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์การส่งเสริมสังคมการลงทุนอย่างมีคุณภาพ
อินโฟเควสท์