- Details
- Category: บล.
- Published: Tuesday, 31 March 2015 23:43
- Hits: 2369
บล.บัวหลวง รับรายได้ปี 58 ชะลอ แต่ยังตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น 0.2% แย้มมีดีล IPO 4 ตัวในปีนี้ พร้อมศึกษาแผนลุย AEC
บล.บัวหลวง คาดรายได้ปี 58 ลดลง หลังมูลค่าการซื้อขายในตลาดลดเหลือ 4.3 หมื่นลบ./วัน ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปี 58 ยังติด TOP5 เพิ่มขึ้น 0.2% จากปีก่อนที่ทำได้ 4.96% หลังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง แย้มปีนี้มีดีล IPO 4 ตัว ทั้งใน SET mai แต่ยันไม่คิดลดค่าคอมฯ สู้คู่แข่ง แม้ปีนี้โบรกฯใหม่จ่อเข้าชิงตลาดเพิ่ม 2-3 ราย พร้อมศึกษาแผนลุยตลาด AEC คาดเห็นข้อสรุปใน 2-3 ปี เตรียมปรับเป้า SET ปีนี้ลงจากที่คาดไว้ 1,670 จุด หลังตัวเลขศก. Q1/58 ประกาศ
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รายได้บริษัทฯ มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงตามทิศทางภาวะเศรษฐกิจไทย รวมถึงแนวโน้มปริมาณการซื้อขายของทั้งตลาดหุ้นไทย ที่คาดว่าปีนี้จะปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยประเมินว่าวอลุ่มการซื้อขายในหุ้นไทยจะเหลือประมาณ 43,000 ล้านบาท/วัน ซึ่งลดลงจากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท/วัน
ขณะที่มาร์เก็ตแชร์ของบล.บัวหลวงปีนี้ ทางบริษัทฯ จะพยายามรักษาอันดับ TOP 5 และคาดว่าจะโตขึ้น 0.2% จากปีก่อนที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 4.96% โดยอัตราเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นนั้น แม้ว่าจะมองรายได้ชะลอตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจ แต่ประเด็นเรื่องการขยายฐานลูกค้ายังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ส่วนนี้มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมโบรกเกอร์มองว่าในปีนี้ยังมีการแข่งขันที่สูง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงรักษาค่าคอมมิชชั่นไว้ที่ 0.16% ซึ่งยังมากกว่าตลาดที่อยู่ระดับ 0.14% แม้ว่าในปีนี้ จะมีบริษัทหลักทรัพย์จะเปิดใหม่อีก 2-3 รายก้ตาม โดยสัดส่วนของรายได้ บริษัทฯมองว่ามาจากโบรกเกอร์ 60% DW 20% วาณิชธนกิจ 10% และอื่นๆ 10%
สำหรับ ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯเตรียมออกหุ้น IPO อีกประมาณ 4 ตัว ซึ่งจะอยู่ทั้งใน SET และ mai โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้ออก IPO ไปแล้ว 1 ตัว ส่วนในปีหน้าหวังว่าจะสามารถผลักดันบริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด ส่วนบริษัทโอสถสภายังไม่มีกำหนดช่วงเวลาในการเข้าตลาดฯ ขนมอาฟเตอร์ยู
ส่วนการรุกตลาดต่างประเทศ มองว่าบริษัทฯมีความสนใจ แต่ในช่วงปีนี้จะขอรุกตลาดภายในประเทศก่อน เพราะยังสามารถเติบโตได้อีก ส่วนตลาดต่างประเทศมองว่าแผนการรุกตลาดน่าจะหาข้อสรุปได้ภายใน 2-3 ปีนี้ ซึ่งในปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพูดคุยเกี่ยวกับแผนการว่าจะสรุปเป็นแบบใด อาทิ ไปในลักษณะ MOU, ตั้งสาขา, หรือการร่วมทุนกับบริษัทในประเทศนั้น
ทั้งนี้ บริษัทฯเตรียมปรับเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้ลงจากเดิมในช่วงต้นปีที่ตั้งเป้าไว้ 1,670 จุด โดยการปรับเป้าลดลงในครั้งนี้มองว่าจากการสำรวจหรือสอบถามเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ส่วนใหญ่มองตรงกันว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่สดใส และธุรกิจยังไม่เติบโตเท่าที่ควร ดังนั้นในช่วงสิ้นไตรมาส 1/2558 จะรอดูตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆก่อนปรับเป้า SET ลง
อย่างไรก็ตาม มองว่าในปีนี้กลุ่มหุ้นที่มีความน่าสนใจในการลงทุนยังมีอยู่ ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆถือว่ายังมีราคาถูก, กลุ่มเทเลคอม อาทิ ADVANC INTUCH , กลุ่มที่มีรายได้แน่นอน อาทิ กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ กลุ่มกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มประกันชีวิต