- Details
- Category: บล.
- Published: Friday, 10 November 2023 23:41
- Hits: 2545
นักวิเคราะห์ชี้หุ้นทรู สัญญาณบวก แนวโน้มดี แบ็คอัพแกร่ง
บล.กสิกรไทย มองหุ้นทรู สัญญาณบวกหลายมิติ อันดับเครดิต A+ เสถียรภาพทางการเงินมั่นคง สภาพคล่องดี แหล่งทุนสนับสนุนเบอร์ใหญ่พร้อมเสริมกำลังตลอดเวลา วงเงินสำรองทั้งในและต่างประเทศล้น เป็นโอกาสเก็บ รอกำไรในสองปี
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า หลังการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค คาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ในปี 2568 จากการดำเนินการปรับโครงสร้างต้นทุน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น
โดยทรูได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายประการที่ส่งเสริมด้านความเชื่อมั่นและสภาพคล่องของบริษัท ได้แก่ 1. อันดับเครดิตเรตติ้งที่ดีในระดับ A+ 2. ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่แข็งแกร่ง 3 ราย คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เทเลนอร์ และไชน่าบาย ที่จะคอยเป็นแบ็คอัพชั้นดี 3. หุ้นกู้ทรูที่มีอันดับเครดิตเรตติ้งสูง เป็นตัวดึงดูดนักลงทุนที่จะวิ่งเข้าหา เพราะมั่นใจในความปลอดภัย 4. เงินทุนสำรองที่เพียงพอ โดยทรูมีระดับเงินสำรองในสถาบันการเงินต่างประเทศสูงถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และสถาบันการเงินในประเทศอีก 8,500 ล้านบาท จึงส่งเสริมด้านเสถียรภาพทางการเงิน
“จากรายงานงบการดำเนินการ คำมั่นจากผู้บริหาร และการประชุมนักวิเคราะห์ เมื่อคืนที่ผ่านมาถือเป็นข่าวบวกของทรู เพราะตัวเลขกการขาดทุนลดลง ซึ่งเป็นการลดลงกว่าที่นักวิเคราะห์ รวมถึงตลาดฯ คาดการณ์เอาไว้ หากไม่มีปัจจัยอื่นมากระทบตลาด เชื่อว่าหุ้นทรูจะปรับตัวดีขึ้น สำหรับบล.กสิกร แนะนำซื้อ ในราคาเป้าหมายสิ้นปีหน้าอยู่ที่ 9.28 บาท” นายพิสุทธิ์ กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ ทรูได้รายงานผลการดำเนินงานทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นสำหรับไตรมาสที่ 3/2566 โดยได้แรงหนุนจากรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง EBITDA ที่เป็นมาตรฐานดีขึ้นเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันนับตั้งแต่การควบรวมกิจการ โดยได้ประโยชน์จากการผสานรวมกัน และการริเริ่มดำเนินการสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องตามแผนที่วางไว้ ตอกย้ำสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท
โดยมีรายได้จากการให้บริการสุทธิ 4.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ (ค่าใช้จ่ายการลงทุน) CAPEX และ EBITDA มีจำนวนผู้ใช้บริการมือถือเพิ่มขึ้น 254,000 ราย รวมเป็น 51.4 ล้านราย โดยเพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้งาน 5G สูงถึง 9.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน มีฐานผู้ใช้งานดิจิทัลรวมประมาณ 15 ล้านราย ซึ่งโดยรวมนับว่ารายได้ของทรูแซงหน้าผู้ให้บริการรายอื่นในอุตสาหกรรม
สำหรับโครงการดำเนินการรวมโครงสร้างเสาสัญญาณภายใต้โครงข่ายเดียว (Single Grid) มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนหลังจากการเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยโครงการ Single Grid อัจฉริยะที่เพิ่มจำนวนสถานีฐาน ผ่านการบริหารจัดการจำนวนสถานีฐานและการขยายเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดำเนินการ Single Grid จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในไตรมาสที่ 4 ตามแผนที่กำหนดไว้ สอดคล้องตามกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ว่า ผู้ใช้บริการจะได้คุณภาพการบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ในด้านความยั่งยืน ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงครองอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมของโลก 5 ปีซ้อน และคงสถานะสมาชิกดัชนีความยั่งยืน DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สะท้อนถึงความเป็นผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล
สำหรับการคาดการณ์ในปี 2566 ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงแนวโน้มสำหรับปี 2566 ซึ่งคิดเป็นระยะเวลา 10 เดือนของการดำเนินงานนับจากวันที่ควบรวมกิจการเสร็จสิ้น โดยคาดว่า EBITDA จะมีการเติบโตที่เป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับต่ำ-ปานกลาง (low-to-mid single digit) และยังคงแนวโน้มที่ทรงตัวสำหรับรายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ทั้งนี้ เงินลงทุน หรือ CAPEX ประมาณการณ์ไว้ที่ 25,000 – 30,000 ล้านบาท ตามที่เคยประกาศไว้
11466