WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

11466 TRUE DTAC

นักวิเคราะห์ชี้หุ้นทรู สัญญาณบวก แนวโน้มดี แบ็คอัพแกร่ง

          บล.กสิกรไทย มองหุ้นทรู สัญญาณบวกหลายมิติ อันดับเครดิต A+ เสถียรภาพทางการเงินมั่นคง สภาพคล่องดี แหล่งทุนสนับสนุนเบอร์ใหญ่พร้อมเสริมกำลังตลอดเวลา วงเงินสำรองทั้งในและต่างประเทศล้น เป็นโอกาสเก็บ รอกำไรในสองปี 

          นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า หลังการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค คาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ในปี 2568 จากการดำเนินการปรับโครงสร้างต้นทุน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น 

          โดยทรูได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายประการที่ส่งเสริมด้านความเชื่อมั่นและสภาพคล่องของบริษัท ได้แก่ 1. อันดับเครดิตเรตติ้งที่ดีในระดับ A+ 2. ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่แข็งแกร่ง 3 ราย คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เทเลนอร์ และไชน่าบาย ที่จะคอยเป็นแบ็คอัพชั้นดี 3. หุ้นกู้ทรูที่มีอันดับเครดิตเรตติ้งสูง เป็นตัวดึงดูดนักลงทุนที่จะวิ่งเข้าหา เพราะมั่นใจในความปลอดภัย 4. เงินทุนสำรองที่เพียงพอ โดยทรูมีระดับเงินสำรองในสถาบันการเงินต่างประเทศสูงถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และสถาบันการเงินในประเทศอีก 8,500 ล้านบาท จึงส่งเสริมด้านเสถียรภาพทางการเงิน 

          “จากรายงานงบการดำเนินการ คำมั่นจากผู้บริหาร และการประชุมนักวิเคราะห์ เมื่อคืนที่ผ่านมาถือเป็นข่าวบวกของทรู เพราะตัวเลขกการขาดทุนลดลง ซึ่งเป็นการลดลงกว่าที่นักวิเคราะห์ รวมถึงตลาดฯ คาดการณ์เอาไว้ หากไม่มีปัจจัยอื่นมากระทบตลาด เชื่อว่าหุ้นทรูจะปรับตัวดีขึ้น สำหรับบล.กสิกร แนะนำซื้อ ในราคาเป้าหมายสิ้นปีหน้าอยู่ที่ 9.28 บาท” นายพิสุทธิ์ กล่าวปิดท้าย 

          ทั้งนี้ ทรูได้รายงานผลการดำเนินงานทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นสำหรับไตรมาสที่ 3/2566 โดยได้แรงหนุนจากรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง EBITDA ที่เป็นมาตรฐานดีขึ้นเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันนับตั้งแต่การควบรวมกิจการ โดยได้ประโยชน์จากการผสานรวมกัน และการริเริ่มดำเนินการสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องตามแผนที่วางไว้ ตอกย้ำสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท

          โดยมีรายได้จากการให้บริการสุทธิ 4.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ (ค่าใช้จ่ายการลงทุน) CAPEX และ EBITDA มีจำนวนผู้ใช้บริการมือถือเพิ่มขึ้น 254,000 ราย รวมเป็น 51.4 ล้านราย โดยเพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้งาน 5G สูงถึง 9.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน มีฐานผู้ใช้งานดิจิทัลรวมประมาณ 15 ล้านราย ซึ่งโดยรวมนับว่ารายได้ของทรูแซงหน้าผู้ให้บริการรายอื่นในอุตสาหกรรม

          สำหรับโครงการดำเนินการรวมโครงสร้างเสาสัญญาณภายใต้โครงข่ายเดียว (Single Grid) มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนหลังจากการเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยโครงการ Single Grid อัจฉริยะที่เพิ่มจำนวนสถานีฐาน ผ่านการบริหารจัดการจำนวนสถานีฐานและการขยายเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดำเนินการ Single Grid จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในไตรมาสที่ 4 ตามแผนที่กำหนดไว้ สอดคล้องตามกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ว่า ผู้ใช้บริการจะได้คุณภาพการบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิม 

          ในด้านความยั่งยืน ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงครองอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมของโลก 5 ปีซ้อน และคงสถานะสมาชิกดัชนีความยั่งยืน DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สะท้อนถึงความเป็นผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล 

          สำหรับการคาดการณ์ในปี 2566 ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงแนวโน้มสำหรับปี 2566 ซึ่งคิดเป็นระยะเวลา 10 เดือนของการดำเนินงานนับจากวันที่ควบรวมกิจการเสร็จสิ้น โดยคาดว่า EBITDA จะมีการเติบโตที่เป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับต่ำ-ปานกลาง (low-to-mid single digit) และยังคงแนวโน้มที่ทรงตัวสำหรับรายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ทั้งนี้ เงินลงทุน หรือ CAPEX ประมาณการณ์ไว้ที่ 25,000 – 30,000 ล้านบาท ตามที่เคยประกาศไว้

 

 

11466

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!