WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS7 12ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ‘บล.เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์’ ที่ ‘BBB’ แนวโน้ม ‘Stable’

       ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘BBB’ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะทางธุรกิจในระดับปานกลาง ฐานทุน ภาระหนี้ และความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง สถานะทางความเสี่ยงที่เข้มแข็ง และสถานะแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องในระดับที่บริหารจัดการได้

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะทางธุรกิจระดับปานกลาง

         สถานะทางธุรกิจของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากบทบาทเฉพาะของบริษัทในฐานะสถาบันสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์แห่งเดียวในประเทศไทยซึ่งมีพันธกิจในการเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และเป็นกลไกสนับสนุนในการพัฒนาตลาดทุนของประเทศไทย

         เสถียรภาพทางธุรกิจของบริษัทถูกกำหนดด้วยลักษณะการทำธุรกิจซึ่งเน้นการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ส่งผลให้ขนาดของธุรกิจและรายได้แปรผันตามสภาพตลาดหุ้นและความต้องการของนักลงทุน ตัวอย่างเช่น ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 บริษัทมีเงินให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 30% จาก 3.7 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรงและนักลงทุนมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2563

         การที่บริษัทมีสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์เป็นแหล่งรายได้หลัก สถานะทางธุรกิจของบริษัทจึงได้รับผลกระทบจากการที่ธุรกิจยังขาดความหลากหลาย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์มีสัดส่วน 87% ของรายได้รวมของบริษัท ในขณะที่รายได้จากแหล่งอื่น ๆ ยังคงมีสัดส่วนที่จำกัด ซึ่งรวมไปถึงรายได้จากสินเชื่อที่ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ (10% ของรายได้รวม) และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ (0.1% ของรายได้รวม) ในระยะยาวหากบริษัทยังคงมีการกระจายของแหล่งรายได้ที่จำกัด ทริสเรทติ้งมองว่าบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่จะลดลงเนื่องจากความต้องการของนักลงทุนที่อาจจะค่อยๆ ผันไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นแทน

         เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางธุรกิจ บริษัทได้มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยและบริษัทหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ด้วยพันธกิจในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ทริสเรทติ้งมองว่าการเพิ่มเสถียรภาพทางธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญนั้นอาจเป็นความท้าทาย ดังนั้นการกระจายรายได้อย่างมีนัยสำคัญเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดพัฒนาการด้านสถานะทางธุรกิจของบริษัทพอที่จะนำไปสู่การปรับอันดับเครดิตในทางบวก

ฐานทุน ภาระหนี้ และความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง

         ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า บริษัทมีฐานทุนและภาระหนี้ที่แข็งแกร่งโดยวัดจากอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงโดยเฉลี่ย 5 ปี (2561-2565) ที่ประมาณ 22% ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะดำรงสถานะฐานทุนและภาระหนี้ไว้ที่ระดับปัจจุบันในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจากการขยายสินเชื่ออย่างค่อยเป็นค่อยไป นโยบายการลงทุนที่ระมัดระวังและนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทยังมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไป (NCR) ในระดับที่แข็งแรงที่ 107.6% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 เนื่องจากการหดตัวของสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ในเวลาปกติอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไปของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 50%-60%

         ในเชิงความสามารถในการทำกำไรนั้น บริษัทรายงานกำไรสุทธิที่ 43 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 32% จากช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 สาเหตุหลักจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลงจากเงินให้สินเชื่อที่หดตัว

         ทริสเรทติ้ง ประมาณการว่าอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉลี่ย 5 ปี (2561-2565) ของบริษัทจะอยู่ที่ 1.3% ทริสเรทติ้งคาดว่าความสามารถในการสร้างกำไรของบริษัทในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะดำรงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบันเนื่องจากการสร้างกำไรสูงสุดไม่ใช่จุดมุ่งหมายหลักของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ได้ดำเนินการเพื่อลดต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยและการแข่งขันทางธุรกิจในตลาด

         ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีอัตราดอกเบี้ยรับโดยเฉลี่ยที่ลดลงมาอยู่ที่ 4.7% จาก 5.9% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 สาเหตุหลักจากการที่บริษัทได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลงเพื่อให้สัมพันธ์กับอัตราดอกเบี้ยในตลาดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามากขึ้น ในขณะเดียวกัน ต้นทุนทางการเงินของบริษัทก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1.3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 จาก 2.4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 เป็นผลรวมของการที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลงและสถานะด้านเครดิตของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยไว้ได้ที่ 3.3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาต้นทุนทางการเงินให้อยู่ที่ระดับต่ำได้ในระยะปานกลาง โดยสถานะด้านแหล่งเงินทุนอาจปรับตัวดีขึ้น จากความสัมพันธ์กับธนาคารออมสินซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท ที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้บริษัทสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนระยะยาวได้เพิ่มเติมด้วยต้นทุนที่เหมาะสม

         ในด้านค่าใช้จ่าย บริษัทมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 47.0% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 จากระดับประมาณ 37%-40% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานค่อนข้างคงที่ จากความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมของบริษัทจะค่อย ๆ ลดลงและกลับสู่ระดับปกติเมื่อรายได้ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม การลดลงของอัตราส่วนดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัท เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากสถานะฐานทุนและภาระหนี้ในระดับปัจจุบันของบริษัทแล้ว อัตราส่วนกำไรก่อนภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยงของบริษัทจะต้องปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจึงจะทำให้อันดับเครดิตมีการเปลี่ยนแปลงในทางบวกได้

สถานะความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง 

         สถานะความเสี่ยงที่แข็งแกร่งของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทผ่านคณะกรรมการบริษัท ซึ่งนโยบายดังกล่าวรวมไปถึงการอนุมัติสินเชื่อที่รัดกุม การบังคับหลักประกันที่เข้มงวดซึ่งช่วยลดทอนความเสี่ยงทางด้านเครดิต ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายหนี้สูญเพิ่มเติมแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรงในช่วงเดือนมีนาคม 2563

         อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์ของบริษัทยังอยู่ในระดับที่จำกัด เนื่องจากพอร์ตเงินลงทุนของบริษัทมีขนาดเล็กและส่วนใหญ่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลที่ใช้เพื่อการบริหารสภาพคล่องเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนที่กำหนดโดยคณะกรรมการบริษัท ทั้งนี้ เงินลงทุนของบริษัทคิดเป็นเพียง 4% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 โดย 94% ของเงินลงทุนดังกล่าวเป็นเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล

สถานะการจัดหาแหล่งเงินทุนที่จัดการได้และการมีสภาพคล่องที่เพียงพอ

         ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า บริษัทมีสถานะด้านเงินทุนและสภาพคล่องในระดับที่บริหารจัดการได้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากความไม่สอดคล้องกันของโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินในระดับหนึ่ง บริษัทพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นหมุนเวียนผ่านตั๋วสัญญาใช้เงินจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเป็นแหล่งเงินทุนหลัก ซึ่งช่วยให้ต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่การใช้เงินทุนส่วนใหญ่เป็นการให้สินเชื่อแก่นักลงทุนเพื่อซื้อหลักทรัพย์ โดยเป็นสินเชื่อที่มีอายุเกินกว่า 1 ปี เป็นไปตามพฤติกรรมของลูกค้าของบริษัทซึ่งมักจะเป็นนักลงทุนระยะยาว

         อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งไม่มีความกังวลในเรื่องความไม่สอดคล้องกันดังกล่าวเนื่องจากบริษัทมีวงเงินสินเชื่อที่เพียงพอ ณ สิ้นเดือนกันยายน ปี 2563 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อทั้งหมดประมาณ 6 พันล้านบาท ทั้งนี้ โดยเฉลี่ย 5 ปี (2561-2565) อัตราส่วนแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพ (Stable Funding Ratio -SFR) ซึ่งพิจารณาถึงแหล่งเงินทุนระยะยาวและส่วนของเจ้าของของบริษัท อยู่ในระดับที่เพียงพอที่ 104.8% จากฐานทุนที่แข็งแกร่ง ในอนาคต บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนเงินกู้ยืมระยะยาวเพื่อแก้ไขความไม่สอดคล้องกันของโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สิน ถึงแม้ว่าการเพิ่มสัดส่วนเงินกู้ยืมระยะยาวดังกล่าวจะทำให้อัตราส่วนแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพปรับตัวดีขึ้นแต่ก็ไม่น่าส่งผลกระทบในทางบวกต่อสถานะเงินทุนของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งสำหรับผลการดำเนินงานบริษัทในระหว่างปี 2563-2566 มีดังนี้

  • สินเชื่อรวมอยู่ที่ประมาณ 3.5-5 พันล้านบาท
  • ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับประมาณ 3%-4%
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมอยู่ที่ระดับประมาณ 38%-43%

แนวโน้มอันดับเครดิต

         แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสามารถดำรงสถานะฐานทุนและความสามารถในการทำกำไร และสถานะเงินทุนและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

         อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถเพิ่มการกระจายตัวของโครงสร้างรายได้ได้อย่างมีนัยสำคัญหรือมีฐานทุน ภาระหนี้และความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งมากขึ้นติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากบริษัทมีฐานทุน ภาระหนี้ และความสามารถในการทำกำไรที่เสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญและมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงลดลงต่ำกว่า 15% ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

                                                    

บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (มหาชน) (TSFC)

อันดับเครดิตองค์กร:

BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต:

Stable

 
 

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com 

ติดต่อ [email protected]  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

         © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

         ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!