WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

7234 Asiaplusเอเซีย พลัส มองตลาดหุ้นไทย 3Q63 ‘ยิ่งปรับขึ้นไป ยิ่งไกลพื้นฐาน’
แนะลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ปันผลเด่น

          สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASPS) ในกลุ่มบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP นำโดย คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ ประเมินภาพรวมการลงทุนในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ยังมีหลากหลายปัจจัยกดดันการลงทุน โดยในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ยังเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วโลก อาทิ การเคลื่อนย้ายคน สิ่งของ การจ้างงาน และปัจจัยสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ซึ่งมีแรงกระตุ้นจากความตึงเครียดสถานการณ์จีน-ฮ่องกงที่เพิ่มความร้อนแรงมากขึ้น ฯลฯ

          สำหรับในประเทศ แม้สถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มดีมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 63 บล.เอเซีย พลัส คาดหดตัว -8.4%yoy ขณะที่เม็ดเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจจาก พรก. 3 ฉบับออกมาไม่เต็มที่ โดยรวมคาดภาพเศรษฐกิจไทยช่วง 2H63 หลัง COVID-19 จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยประเมินเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยเกือบทุกตัวทั้ง การท่องเที่ยว การค้าระหว่างประเทศ การบริโภคในประเทศ ส่วนการลงทุนเอกชนชะลอลงแรง คงเหลือแรงขับเคลื่อนเพียงการใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น งานก่อสร้าง งานประมูลโครงสร้างพื้นฐาน โครงข่ายโทรคมนาม และมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐที่ยังมีอยู่

          “โดยรวมช่วง 3Q63 ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับปัจจัยกดดันหลายเรื่อง ทั้งภายในและภายนอก และการที่ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยซื้อขายกันที่ PER63F สูงเกิน 20 เท่า ซึ่งแพงกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ขณะที่แนวโน้มการเติบโต EPS Growth 63F ของไทยลดลง 27.5%yoy ถือว่าต่ำสุดในภูมิภาค เชื่อว่าจะกดดันให้ Fund Flow ชะลอการไหลเข้า ขณะที่แรงขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยยังคงต้องพึ่งพิง Fund Flow จากนักลงทุนในประเทศเป็นหลัก” คุณเทิดศักดิ์ กล่าว

          รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย ASPS กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 63 ประเมินกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ไทยล่าสุด สายงานวิจัยประเมิน 6.88 แสนล้านบาท (EPS63F เท่ากับ 64 บาท/หุ้น) พิจารณาภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนครึ่งปีแรก พบว่ากำไรงวด 1Q63 อยู่ที่ 1.06 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2563 ส่วนงวด 2Q63 คาดอาจไม่ได้ลดลง QoQ แต่ลดลง YoY ทำให้ 1H63 บริษัทจดทะเบียนอาจทำกำไรได้เพียง 30-40% ของประมาณการปี 2563 ที่สายงานวิจัยประเมิน 6.88 แสนล้านบาท (EPS63F เท่ากับ 64 บาท/หุ้น) ส่งผลให้ช่วงที่เหลือของปี บริษัทจดทะเบียนจะต้องทำกำไรเกินกว่า 60-70% ของประมาณการ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายพอสมควร โดยประเมินความเสี่ยงกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2563 มีโอกาสถูกปรับลงอีก สวนทางกับ SET Index ที่ปรับขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะที่ยิ่งปรับขึ้นไป ยิ่งไกลพื้นฐาน

          คุณเทิดศักดิ์ กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 3 ปี 63 นี้ เนื่องจากสถานการณ์ในปีนี้มีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย ดังนั้น การลงทุนจึงต้องเน้นหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุน และกลุ่มหุ้นที่อิงกระแสการประมูลโครงการลงทุนของรัฐ และมาตรการกระตุ้นการบริโภค เลือก BGRIM, CPF, CPALL, INTUCH, INSET, SEAFCO โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index อยู่ในกรอบ 1,250-1,420 จุด


AO7234

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!