WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FITCH12 19ฟิทช์ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ FSS และ KTBST 'เป็นลบ' และคงอันดับเครดิตของ FSS KTBST และ ASP

    ฟิทช์ เรทติ้งส์ – กรุงเทพฯ – 27 เมษายน 2563: ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย)  จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เป็น ‘แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ’ จากเดิม ‘แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ’ และประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating)  ของบริษัทที่ ‘BBB+(tha)’ และ ‘BB(tha)’ ตามลำดับ พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดได้แสดงไว้ในส่วนท้าย

     การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับเครดิตของ FSS และ KTBST สะท้อนถึงภาวะการดำเนินธุรกิจที่มีความท้าทายเพิ่มขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่มีผลกำไรจากการดำเนินงานที่อ่อนแออยู่แล้วและมีโครงสร้างต้นทุนการดำเนินงานที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นผลประกอบการของบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาค ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง ฐานะทางการเงินของลูกค้าที่อ่อนแอลง รวมถึงความผันผวนที่สูงขึ้นจนนำไปสู่ความเสี่ยงด้านตลาดที่เพิ่มขึ้นและการทดสอบความแข็งแรงของรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัท (business model) ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อรายได้จากธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ด้วย เช่น ธุรกิจวานิชธนกิจ

      การคงอันดับเครดิตของ ASP สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ที่เชื่อว่า ASP น่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงและผลกระทบจากสภาวะการดำเนินงานที่กำลังเผชิญกันความท้าทายเพิ่มขึ้นและภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่แอื้ออำนวย ได้ดีกว่าเมี่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์รายอื่น

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตภายในประเทศ

ASP

       อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ (franchise) และโครงสร้างธุรกิจโดยรวม (business model) ของบริษัทที่แข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นในประเทศไทยที่ฟิทช์ใช้ความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิต (Fitch-rated standalone peers)  ฟิทช์คาดว่าความได้เปรียบในการแข่งขัน (competitive advantages) ของ ASP น่าจะช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความท้าทายและอุปสรรคจากแรงกดดันในการทำกำไรของอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ได้ ASP ยังคงมีอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและประสิทธิภาพ (depth) ของผลิตภัณฑ์และการบริการแบบครบวงจร (full-service brokerage platform) และฐานลูกค้าที่มั่นคงของบริษัท  

       นอกจากนี้ ในภาพรวมของกลุ่ม ASP ได้มีการกระจายตัวของการดำเนินงานไปในในธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน บริษัทมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ในระดับที่ต่ำกว่าบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นในกลุ่มเทียบ (ที่จัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์) มาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวที่ 77% ในปี 2562 เทียบกับค่าเฉลี่ยของบริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่มเทียบที่เฉลี่ยสูงกว่า 95% (ค่าเฉลี่ย 4 ปี)  ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่แข็งแกร่งกว่าในภาวะที่ความผันผวนกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ASP ยังมีฐานะเงินกองทุนในเกณฑ์ดีและมีระดับหนี้สินที่ต่ำ โดยมีอัตราส่วน net adjusted leverage ที่ 1.4 เท่า ณ สิ้นปี 2562 ซึ่งจะช่วยรองรับความเสี่ยงได้อย่างแข็งแกร่ง ความเสี่ยงสภาพคล่องของบริษัทถูกลดทอนลงจากการมีเงินกู้ยืมต่ำ (567 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2562) ในขณะที่บริษัทมีสินทรัพย์สภาพคล่องที่สูงกล่าวเงินกู้ยืม

FSS

         การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ FSS สะท้อนถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทที่อ่อนแออยู่แล้วในปัจจุบัน โดยผลประกอบการของบริษัทในช่วงเวลาสองถึงสามปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากรายได้นายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่ลดลงจากการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นและจากการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีมูลค่าการลงทุนสูง

        การประกาศคงอันดับเครดิตพิจารณาถึงโครงสร้างธุรกิจของ FSS ที่อยู่ในระดับปานกลางโดยสะท้อนจากส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มลูกค้ารายย่อยในธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการกระจายตัวของธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ในสัดส่วนประมาณ 30% ของรายได้รวมในปี 2562 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ยังต่ำกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม

        ฟิทช์ คาดว่าสภาพคล่องของ FSS ไม่น่าจะปรับตัวด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญโดยบริษัทยังคงรักษาระดับเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (net liquid capital ratio) ไว้ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจากการไหลออกของเงินสดที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้ารวมถึงรองรับหนี้สินจากธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้การก่อหนี้สินในระดับต่ำของบริษัทจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนเพื่อทดแทนหนี้สินที่ครบกำหนด (refinancing risk) ในช่วงเวลาที่ภาวะตลาดที่ไม่เป็นปกติ ฟิทช์ยังมองว่าระดับเงินกองทุนของ FSS ยังอยู่ในระดับที่ดีและสามารถช่วยรองรับความผันผวนของตลาดได้

KTBST

       การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ KTBST สะท้อนถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อผลประกอบการและกำไรของบริษัทในอนาคต โดยผลประกอบการของ KTBST ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหลักทรัพย์และตลาดตราสารหนี้ที่ปรับตัวแย่ลง อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของบริษัทที่ค่อนข้างสูงที่กว่า 95% (ค่าเฉลี่ย 4 ปี) บ่งชี้ว่าบริษัทมีความเปราะบางต่อสภาวะอุตสาหกรรมที่ผันผวน อย่างไรก็ตามความเสี่ยงดังกล่าวส่วนหนึ่งได้สะท้อนแล้วในอันดับเครดิตของบริษัทที่อยู่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นในประเทศ

       อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTBST พิจารณาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวบริษัทเอง และยังสะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ (franchise) ในประเทศไทยของบริษัทที่มีขนาดเล็ก โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านมูลค่าการซื้อขายประมาณ 1.2% ณ สิ้นปี 2562  นอกจากนี้อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานเงินทุนที่ยังคงมีขนาดค่อนข้างเล็กและมีระดับหนี้สินสูงกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่จัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์ และบริษัทยังคงมีความเสี่ยงในด้านความสามารถในด้านการระดมเงินและสภาพคล่อง (funding and liquidity) ในช่วงที่ตลาดทุนอยู่ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย  เนื่องจากผลการระดมทุนของบริษัทที่ผ่านมายังไม่ได้รับการทดสอบเพียงพอว่ามีเสถียรภาพและสม่ำเสมอ รวมทั้งบริษัทยังมีประวัติในการระดมเงินในตลาดทุนที่ค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ความเสี่ยงด้านการะดมเงินและสภาพคล่องอาจถูกลดทอนลงได้บ้างจากการที่บริษัทยังคงมีสินทรัพย์สภาพคล่องและวงเงินกู้ยืมที่ยังไม่ได้เบิกใช้

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

        อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ B(tha) พิจารณาจากอันดับเครดิตภายในประเทศในกรณีที่หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ระยะยาว (implied National Long-Term Rating) ซึ่งจะได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ BB-(tha) และจะเทียบเคียงมาเป็นอันดับเครดิตระยะสั้น ทั้งนี้การเทียบเคียงดังกล่าวเป็นไปตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตระยะสั้นของฟิทช์ (Bank Rating Criteria) อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิในกรณีที่เป็นอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ BB-(tha) นั้นเป็นระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBST ที่ BB(tha) อยู่ 1 อันดับ เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ซึ่งเป็นแนวทางการพิจาณาอันดับเครดิตที่สอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ (Corporate Hybrids Treatment and Notching Criteria) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จากประกาศหัวข้อ Fitch Rates KTB Securities' THB Short-Term Subordinated Debenture 'B(tha)’ ลงวันที่ 2 มกราคม 2563 ที่

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

       ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

ASP

       การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP นั้นมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากอันดับเครดิตของ ASP นั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงแล้วเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นในประเทศไทยที่ใช้ความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวบริษัทเองเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิต อีกทั้งด้วยสภาวะการดำเนินงานปัจจุบันที่กำลังเผชิญความท้าทายที่สูงขึ้น

FSS

        การปรับเพิ่มอันดับเครดิตไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเนื่องจากภาวะธุรกิจที่มีความท้าทายสูงในปัจจุบันรวมถึงผลประกอบการของ FSS ที่ยังอ่อนแอ

        ฟิทช์อาจปรับแนวโน้มของอันดับเครดิตเป็น 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ'ได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทแสดงถึงผลกระทบจากกรณีการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสในระดับที่ไม่มากนักและอยู่ในระดับที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโดยรวมและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ รวมทั้งบริษัทยังสามารถรักษาระดับเงินกองทุนและสภาพคล่องให้ทรงตัวต่อเนื่อง

KTBST

       ฟิทช์ เชื่อว่า โอกาสที่อันดับเครดิตภายในประเทศจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในระยะสั้นนั้นมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่ยังคงเผชิญกับความท้าทาย

      อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBST ซึ่งเป็นอันดับเครดิตอ้างอิง แต่อย่างไรก็ตามโอกาสที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับมีความเป็นไปได้น้อย ยกเว้น KTBST ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นไปหลายอันดับจนสูงกว่า ‘BBB(tha)’

     ฟิทช์ อาจปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' หากผลประกอบการและผลกำไรของบริษัทได้รับผลกระทบในระดับที่ไม่มากนักจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมและบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ พร้อมทั้งบริษัทยังสามารถรักษาอัตราส่วนทางการเงินให้มีเสถียรภาพต่อเนื่อง เช่น อัตราส่วนทางการเงินด้านฐานะเงินกองทุนและฐานะสภาพคล่อง

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

ASP

      ฟิทช์ อาจปรับลดอันดับเครดิตของ ASP หากบริษัทมีผลประกอบการและผลกำไรที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก และเกินกว่าการคาดการณ์ของฟิทช์และแนวโน้มอุตสาหกรรม อีกทั้งแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลให้อันดับเครดิตถูกปรับลดอันดับได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย ต่ำกว่า 7% (9.6% ในปี 2562) เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง อาจส่งผล

      ให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต ซึ่งเหตุการณ์ดัวกล่าวอาจบ่งชี้ว่าความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจ (franchise) หรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายของบริษัทอาจปรับตัวด้อยลงมากกว่าที่คาด

FSS

       อันดับเครดิตของ FSS อาจถูกปรับลดอันดับลงหากผลกำไรจากการดำเนินงานของ FSS อ่อนแอลงอย่างมากเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิต ยกตัวอย่างเช่น FSS มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีแผนการปรับปรุงความสามารถทางกำไรที่ชัดเจน รวมถึงระดับของเงินกองทุนของบริษัทที่อาจไม่ปรับตัวแข็งแรงขึ้นเพียงพอในการรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น  นอกจากนี้การประกาศปรับลดอันดับเครดิตมีความเป็นไปได้หากฟิทช์พิจารณาว่าความเสี่ยงของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทมีระดับการยอมรับความเสี่ยง (risk appetite) ที่สูงขึ้นหรือบริษัทมีความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจด้อยลง

KTBST

       หากแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของฐานะทางการเงินของ KTBST ที่ผ่านมา มีการกลับตัวเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ในด้านฐานะเงินทุน ด้านอัตรากำไรที่ลดลง หรือ การลดลงของสภาพคล่อง ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่าการคาดการณ์ของฟิทช์และแนวโน้มของอุตสาหกรรมโดยรวม ตัวอย่างเช่น หาก KTBST มีผลประกอบการขาดทุน หรือมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของเจ้าหนี้มีการปรับตัวลดลง เช่น ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถชำระหนี้เพื่อกู้ยืมเงินต่อได้ (roll over maturing debt) นอกจากนี้สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่แย่ลงเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหรือภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น อาจะส่งผลกระทบในเชิงลงต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้เช่นกัน  เนื่องจากบริษัทยังมีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีขนาดจำกัด

        การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBST ลงไปในกลุ่มอันดับเครดิต 'B(tha)' จะส่งผลให้อันดับเครดิตระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับเครดิต

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้:

ASP:

       - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ A(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

       - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ F1(tha)

FSS

       - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ BBB+(tha) ปรับเป็น แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ จาก แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ 

       - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ F2(tha)

KTBST

      - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับเครดิต ที่ ‘BB(tha)’ ปรับเป็น แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ  จาก แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ 

      - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิต ที่ ‘B(tha)’

      - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ คงอันดับเครดิตที่ ‘B(tha)’

Fitch Revises Outlooks on Thailand's FSS and KTBST to Negative; Affirms FSS, KTBST and ASP Ratings

      Fitch Ratings - Bangkok - 27 Apr 2020: Fitch Ratings (Thailand) has revised the Outlooks on Finansia Syrus Securities Public Company Limited (FSS) and KTB Securities (Thailand) Public Company Limited (KTBST) to Negative from Stable, and affirmed their National Long-Term Ratings at 'BBB+(tha)' and 'BB(tha), respectively. At the same time, Fitch affirmed Asia Plus Group Holdings Public Company Limited's (ASP) National Long-Term Rating at 'A(tha)' with Stable Outlook. A full list of rating actions is at the end of this commentary.

      The Outlook revisions for FSS and KTBST reflect the increasingly challenging operating environment stemming from the economic impact of the coronavirus pandemic. This will heighten downside risks to the securities companies' already weak profitability and high cost structures. The companies' performances could be affected by the macroeconomic slowdown, poor investor sentiment, clients' wealth deterioration and increased volatility, leading to intensified market risk testing the strength of business models. These circumstances will particularly affect non-brokerage income sources, such as investment banking.

       The affirmation of ASP's ratings reflects Fitch expectation that ASP will be more resilient than its domestic Fitch-rated securities company peers, despite increasingly challenging operating environment and unfavourable conditions in the stock market.

KEY RATING DRIVERS

NATIONAL RATINGS

ASP:

       ASP's ratings reflect a strong securities franchise and a sound business model relative to Fitch-rated standalone securities firms in Thailand. Fitch believes ASP's sustainable competitive advantages enable the firm to navigate industry-wide profitability challenges. The firm's high commission fees reflect the depth of its full-service brokerage platform and its entrenched client base. ASP is also well-positioned as a group as it has long been diversifying its business model. ASP's consistently lower cost-to-income ratio (2019: 77%), compared with rated peers' four-year average of above 95%, indicates a larger earnings buffer against increasing volatility. Moreover, ASP's sound capitalisation, with a low net adjusted leverage ratio of 1.4x at end-2019, should provide a strong buffer against downside risks. Liquidity risk is mitigated by the low debt level (2019: THB567 million), which could be fully covered by ASP's liquid assets.

FSS:

     The Outlook revision reflects additional pressures on FSS's already weak profitability. The company's earnings during the past few years have been hurt by lower brokerage-commission fee income in a competitive market, and high investment costs to update its trading infrastructure.

        The rating affirmation takes into the consideration FSS's moderate company profile, reflected by its market share in the retail brokerage segment. However, the company has a smaller-than-peer business diversification to non-brokerage businesses, which accounted for 30% of total revenue in 2019.

       Fitch does not expect a material deterioration in FSS's liquidity profile. The company has exhibited its above-regulatory level net liquid capital ratio, providing as a buffer to unprecedented cash outflows and trading liabilities. Low use of debt curbs refinancing risk during times of market stress, while Fitch regards FSS's capitalisation as a sound safeguard from market volatility.

KTBST:

      The Outlook revision reflects rising pressure on KBSTS's profitability outlook. KTBST's improving profitability trend will be disrupted by weakening sentiment in stock and capital markets. Its high cost-to-income ratio of above 95% (four-year average) indicates a vulnerability to industry volatility; although the risk has been partly reflected in its lower rating compared with domestic peers.

     KTBST's National Ratings are based on its standalone financial profile and reflect its small domestic franchise, with about 1.2% market share in trading volume in 2019. The ratings also take into account KTBST's small capital base and higher leverage relative to Fitch-rated peers. The company remains exposed to funding and liquidity risk during unfavourable capital-market conditions, due to its unproven funding stability and a more limited history of access to capital markets. Nonetheless, short-term funding and liquid risk could be mitigated by KTBST's liquid assets and available credit lines.

SUBORDINATED DEBT

      KTBST's National Short-Term Rating of subordinated debentures at 'B(tha)' was derived from the implied National Long-Term Rating of 'BB-(tha)' based on the rating correspondence table in Fitch's Bank Rating Criteria. The implied National Long-Term Rating of the subordinated debentures of 'BB-(tha)' is one notch below KTBST's National Long-Term Rating of 'BB(tha)' to reflect the subordinated debentures' higher loss-severity risk relative to senior unsecured instruments, under Fitch's Corporate Hybrids Treatment and Notching Criteria. For more detail on subordinated debenture, please see "Fitch Rates KTB Securities' THB Short-Term Subordinated Debenture 'B(tha)'", dated 2 January 2020, at www.fitchratings.com/site/pr/10106547.

RATING SENSITIVITIES

               Factors that could, individually or collectively, lead to positive rating action/upgrade:

ASP:

      There is a limited upside to ASP's National Ratings, since ASP is already highly rated compared with other standalone securities firms in Thailand and the operating environment is challenging.

FSS:

       A rating upgrade is improbable in the near term, due to the challenging operating environment and FSS's weak earnings performance.

       Fitch might revise the rating Outlook to Stable if the company's operating profitability proves to be resilient to the coronavirus impact relative to the industry and National Rating peers, while it also maintains an intact capital and liquidity profile.

KTBST:

      Fitch believes near-term rating upside on KTBST's National Ratings is limited in light of the challenging operating environment.

      The National Short-Term Rating of the subordinated debentures is sensitive to the change in KTBST's National Long-Term Rating, which is the anchor rating. However, an upgrade appears unlikely to occur unless KTBST is upgraded by multiple notches to above 'BBB(tha)'.

     Fitch might revise the rating Outlook to Stable if the company's operating profitability proves to be resilient to the coronavirus impact relative to the industry and National Rating peers, while other financial metrics, such as capitalisation and liquidity, remain steady.

     Factors that could, individually, or collectively, lead to negative rating action/downgrade:

ASP:

      Fitch could downgrade ASP's ratings if profitability were to deteriorate sharply beyond Fitch's expectation and industry trends. In addition, profitability pressure from intensifying competition over a prolonged period could negatively affect the rating. For example, a sustained lower operating profit/average equity to below 7% (2019: 9.6%) could lead to a downgrade. This may also indicate unexpected weaknesses in the company's franchise strength and diversification.

FSS:

      The ratings could be downgraded if FSS's profitability and earnings performance deteriorates materially against its rating peers. For example, FSS continues to report an operating loss on a prolonged basis without a solid profitability turnaround plan and an adequately strengthening capital buffer. The negative rating action could also be probable if Fitch perceived the company's risk appetite to have increased, or if the company's franchise strength deteriorates.

KTBST:

        A material reversal of KTBST's improving financial trends, such as a significant weakening in capitalisation, profitability or funding and liquidity, which deviates from Fitch's expectations and industry trends could put downward pressure on the ratings. For example, if KTBST reported a net loss or on a sign of diminishing investor confidence, such as inability to roll over maturing debt. A prolonged weakening in operating conditions or an increasingly competitive environment would also weigh negatively on the ratings because of KTBST's limited franchise.

       A downgrade of KTBST's National Long-Term Rating to 'B(tha)' category would result in a downgrade of the subordinated debenture rating.

BEST/WORST CASE RATING SCENARIO

      International scale credit ratings of Financial Institutions issuers have a best-case rating upgrade scenario (defined as the 99th percentile of rating transitions, measured in a positive direction) of three notches over a three-year rating horizon; and a worst-case rating downgrade scenario (defined as the 99th percentile of rating transitions, measured in a negative direction) of four notches over three years. The complete span of best- and worst-case scenario credit ratings for all rating categories ranges from 'AAA' to 'D'. Best- and worst-case scenario credit ratings are based on historical performance. For more information about the methodology used to determine sector-specific best- and worst-case scenario credit ratings, visit https://www.fitchratings.com/site/re/10111579.

      REFERENCES FOR SUBSTANTIALLY MATERIAL SOURCE CITED AS KEY DRIVER OF RATING

      The principal sources of information used in the analysis are described in the Applicable Criteria.

       Additional information is available on www.fitchratings.com

FITCH RATINGS ANALYSTS

Patchara Sarayudh

Director

Primary Rating Analyst

+66 2 108 0152

Fitch Ratings (Thailand) Limited Park Ventures, Level 17 57 Wireless Road, Lumpini Bangkok 10330

Thanasit Utamaphethai

Associate Director

Primary Rating Analyst

+66 2 108 0154

Fitch Ratings (Thailand) Limited Park Ventures, Level 17 57 Wireless Road, Lumpini Bangkok 10330

Parson Singha

Senior Director

Secondary Rating Analyst

+66 2 108 0151

Jindarat Sirisithichote

Associate Director

Secondary Rating Analyst

+66 2 108 0153

Mark Young

Managing Director

Committee Chairperson

+44 20 3530 1318

APPLICABLE CRITERIA

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!