- Details
- Category: บล.
- Published: Sunday, 14 October 2018 23:59
- Hits: 13714
IAA มอง SET ปี 62 ที่ 2,000 จุด รับเลือกตั้ง-EEC-ฟันด์โฟลว์ไหลกลับ
นายเกียรติศักดิ์ เจนวิภากุล กรรมการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) และกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ และนาง ภรณี ทองเย็น CISA อุปนายก สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และรองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส เปิดเผยในงาน "Hot Issue เจาะลึกลงทุน หุ้นไทยขานรับการเมืองเริ่มชัดเจน" ว่า IAA มอง SET ปีหน้าปรับตัวดี ขานเลือกตั้งชัดเจน-EEC หวังฟันด์โฟลว์กลับ
คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 62 จะอยู่ที่ 2,000 จุด ซึ่งคาดว่าตลาดยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง จากนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่มีโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนี้ มีแนวโน้มที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนจะย้ายฐานการผลิตมายังแถบอาเซียน และความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่้งเชื่อว่าภายหลังจากการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว จะเป็นปัจจัยหนุนให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น และทำให้ตลาดหุ้นไทยซื้อขายใน P/E ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ โดยใช้ Forward P/E ของปี 62 ที่ 15.6 เท่า และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 125 บาท
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ ซึ่งก็มองว่าเป็นการปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่สงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีน และสหรัฐ คาดว่าจะสามารถได้ข้อยุติในเร็วๆ นี้ หลังนโยบายต่างๆ ได้ออกมาเกือบทั้งหมด และส่งผลกระทบกับการค้าระหว่างประเทศไปบ้างแล้ว
ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปี 62 มองว่าจะเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มชะลอการเติบโตลง หลังจากที่ฟื้นตัวมาได้ยาวพอสมควร ขณะที่ประเทศไทยก็มองว่าแนวโน้มการเติบโตจะชะลอลงเช่นกัน แต่ยังถือว่าเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งทางด้านการเงิน ต่างจากประเทศเกิดใหม่อื่นๆ ที่มีภาวะขาดดุลการค้า และค่าเงินมีการอ่อนค่าลง
นางภรณี กล่าวถึงตลาดหุ้นในระยะสั้นจะยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะออกมาได้ค่อนข้างดีในหลายๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นภาคการส่งออกที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ขณะที่กลุ่มน้ำมันเชื่อว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายปี แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มธนาคาร คาดว่าผลประกอบการจะออกมาทรงตัว เนื่องจากการปรับโครงสร้างรายได้หลังจากไม่มีค่าธรรมเนียม
ธีมการลงทุน แนะนำให้ลงทุนตามสถานการณ์ภายในประเทศ ที่จะได้รับปัจจัยสนันสนุนจากการเลือกตั้งและนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่ยังคงจะมีความต่อเนื่องไปยังรัฐบาลชุดใหม่ อาทิ กลุ่มรับเหมา CK,STEC กลุ่มนิคมอุตสหกรรม WHA,AMATA กลุ่มพลังงาน BGRIM กลุ่มธนาคารพาณิชย์ BBL,TCAP กลุ่มค้าปลีก CPALL,BJC กลุ่มสื่อโฆษณา VGI,MACO,PLANB
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
