- Details
- Category: ธปท.
- Published: Thursday, 30 November 2017 22:28
- Hits: 5348
ธปท.คงเป้าจีดีพีปีนี้โต 3.8% มั่นใจ Q4/60 โต 4.3% ลุ้นหากโตถึง 4.6-4.7% จะหนุนตัวเลขทั้งปีแตะ 4%
ธปท.คงเป้าจีดีพีปีนี้โต 3.8% มั่นใจจีดีพี Q4/60 โต 4.3% แน่นอน แย้มหากโตถึง 4.6-4.7% จะหนุนตัวเลขทั้งปีโต 4% หลังปลายปีรัฐอัดฉีดมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ดันเศรษฐกิจฟื้นตัวดี พร้อมรับบาทแข็งค่า ธปท.เข้าดูแลบางช่วง ยื้อเวลาผู้ส่งออกได้ปรับตัว เหตุกังวลอาจได้รับผลกระทบ ส่วนส่งออกปีนี้มีลุ้นโต 10% ด้านศก.ไทย ต.ค.60 และ Q3/60 ยังโตต่อเนื่อง รับส่งออก ท่องเที่ยวขยายตัวสูง มั่นใจตลาดอสังหาฯ ไม่เกิดฟองสบู่
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในปี 2560 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี มีโอกาสเติบโตถึง 4% หากเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 เติบโตได้ 4.6-4.7% และการส่งออกขยายตัวได้ 10% อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นมองว่า จีดีพีไตรมาส 4 จะเติบโตได้ถึง 4.3% อย่างแน่นอน โดยเฉพาะแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในปีงบประมาณ 2561 และการบริโภคภาคเอกชนที่จะกลับมาขยายตัวดี แต่ในเบื้องต้น ธปท.ยังคงประมาณการจีดีพีปีนี้ไว้ที่ 3.8%
“ช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ฐานมันค่อนข้างต่ำ เพราะเป็นช่วงที่ประชาชนซึมเศร้าทำให้จะมาส่งผลดีในปีนี้ และเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณด้วย ยิ่งทำให้เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงท้ายปี ด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะการส่งออกที่เติบโตสูง โดยการส่งออกมีมูลค่า 61,633 ล้านดอลลาร ขยายตัว 12.5% ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 51,490 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13% ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล 10,143 ล้านดอลลาร์ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 13,708 ล้านดอลลาร์ ด้านเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.45% และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.49%”นายดอน กล่าว
ขณะที่เศรษฐกิจไทยเดือนตุลาคมขยายตัวต่อเนื่อง ตามการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูง โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา การส่งออกมีมูลค่า 20,010 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 18,386 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16.6% ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง 3,535 ล้านดอลลาร์ และดุลการค้าเกินดุล 1,624 ล้านดอลลาร์
สำหรับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคมทรงตัวเท่ากับเดือนก่อนที่ 0.86% ตามราคาอาหารสดที่ปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะผัก เนื่องจากผลผลิตได้รับความเสียหายจากฝนตกหนัก ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.58% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 0.53% จากการขึ้นภาษีสรรพสามิต โดยเฉพาะในหมวดยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ณ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าของสหรัฐ แต่ยังอยู่อันดับ 3 ในภูมิภาค ซึ่งยืนยันว่า ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์ และจะเข้าไปดูแลหากเห็นว่าค่าเงินบาทเคลื่อนไหวมากเกินไป เพื่อให้เวลาของผู้ส่งออกได้มีการปรับตัวบ้าง ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และหากเทียบตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบว่า เงินบาทแข็งค่าเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค
“เราไม่ได้อยากอยู่อันดับ 1 ซึ่งตอนนี้เราอยู่ประมาณอันดับ 3 แต่เรายืนยันว่าได้เข้าไปดูแลและติดตามสถานการณ์ ซึ่งหากพบว่าช่วงไหนที่เงินบาทผันผวนก็จะเข้าไปดูแลในช่วงเวลาที่แข็งค่าเร็ว เพื่อให้เวลาผู้ส่งออกได้มีการปรับตัว”นายดอน กล่าว
สำหรับ ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะการส่งออกที่เติบโตสูง โดยการส่งออกมีมูลค่า 61,633 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 12.5% ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 51,490 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13% ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล 10,143 ล้านดอลลาร์ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 13,708 ล้านดอลลาร์ ด้านเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.45% และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.49%
นายดอน กล่าวเพิ่มถึงความกังวลปัญหาฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์นั้น ยืนยันว่า ขณะนี้ ธปท.ไม่กังวลว่าจะเกิดฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าประมาณอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาขยายตัวดี จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของประชาชนในสินเชื่อดังกล่าวนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ธปท.เชื่อว่า ธนาคารพาณิชย์ได้บริหารจัดการ และดูแลการปล่อยสินเชื่อเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย