- Details
- Category: ธปท.
- Published: Saturday, 24 June 2017 19:22
- Hits: 4274
ธปท.ร่วม ก.ล.ต.ออกเกณฑ์กำกับ บลจ. หวังเพิ่มประสิทธิภาพ-คำนึงผลประโยชย์นักลงทุน-ลดปัญหาขัดแย้งด้านผลประโยชน์
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยในการลงนามร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เกี่ยวกับนโยบายร่วมการกำกับกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่มีการประกอบธุรกิจจัดการกองทุน ว่า ธปท. ได้ออกหนังสือเวียน ถึงธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง กำหนดให้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป กลุ่มธุรกิจทางการเงินที่มีการประกอบธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจหลักทรัพย์ จะต้องให้ความสำคัญและให้ความระมัดระวังในการทำรายการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่า บริษัทหลักทรัพย์ หรือ บลจ. จะดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.ในการออกผลิตภัณฑ์กองทุนรวม บลจ.ในฐานะผู้ออกผลิตภัณฑ์ควรมีความเป็นอิสระในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมและการกำหนดแผนการออกเสนอขาย เพื่อให้มั่นใจว่า บลจ.สามารถออกกองทุนรวมที่ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนและคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ
2.ในการลงทุนของ บลจ. โดยเฉพาะการลงทุนในตราสารที่ออกโดยลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ และจำหน่ายโดยธนาคารพาณิชย์ บลจ.ในฐานะผู้ลงทุนต้องมั่นใจว่า ตราสารดังกล่าวมีราคาเหมาะสม สอดคล้องกับราคาตลาด นโยบายและวัตถุประสงค์การลงทุนของกองทุน
3.การเลือกใช้บริการจากบริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจการเงิน เช่น การใช้บริการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์ หรือ บล. ในเครือ บลจ. ในฐานะผู้ใช้บริการ ต้องมั่นใจว่า บล.ดังกล่าวให้บริการเป็นประโยชน์ต่อกองทุนและสอดคล้องกับค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนและให้ข้อมูลทันต่อเหตุการณ์
4.ในการใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทที่กองทุนลงทุน บลจ.ในฐานะตัวแทนของผู้ลงทุนต้องตัดสินใจออกเสี่ยงในเรื่องต่างๆ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญ
ด้านนโยบายเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ธนาคารพาณิชย์ และบลจ.ต้องมีนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในลักษณะกลุ่มกิจการทางการเงิน รวมไปถึงมีแนวทางในการควบคุม ติดตาม และตรวจสอบ การจัดการปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินงานในเรื่องที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ก.ล.ต.ยังอยู่ระหว่างเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการของกองทุนรวม เพื่อเอื้อต่อการมีผู้แทนที่เป็นอิสระทำหน้าที่ตรวจสอบดูแลการดำเนินงานของ บลจ.
"การดำเนินธุรกิจทางการเงินที่มีการประกอบธุรกิจจัดการกองทุน มีโอกาสที่จะเกิดปัญหา จากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างธนาคารพาณิชย์ และผู้ลงทุนในกองทุนที่บริหารจัดการโดย บลจ. ดังนั้น ธปท. และก.ล.ต. จึงเห็นว่า กลุ่มธุรกิจทางการเงินจะต้องให้ความสำคัญ และมั่นใจว่า บลจ.จะดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุน"
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
