- Details
- Category: ธปท.
- Published: Thursday, 02 March 2017 06:59
- Hits: 8252
ธปท.เผยศก.ไทย ม.ค.60 สดใสตามใช้จ่ายภาครัฐฯ ส่งออก-ท่องเที่ยวโต แย้มอาจเพิ่มเป้าจีดีพีปีนี้จากเดิมคาดโต 3.2%
ธปท.เผยศก.ไทย เดือนม.ค.60 ขยายตัวต่อเนื่อง รับอานิสงส์ใช้จ่ายภาครัฐ-ส่งออกฟื้นตัว เผยส่งออก ม.ค.60 โต 8.5% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 5.6% ส่วนนำเข้าโต 11.3% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 10.5% ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 1,891 ล้านดอลลาร์-ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5,008 ล้านดอลลาร์ ด้านเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 1.55% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.75% แย้มอาจปรับเพิ่มเป้าจีดีพีปีนี้ จากเดิมคาดโต 3.2%แจงดุลบัญชีเดินสะพัด ม.ค.60 เกินดุลสูง เหตุนลท.ทะลักเข้าตลาดบอนด์ หลังมองศก.ไทยแกร่ง
นายดอน นาคตทรรพ ผู้อำนวยอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวดี และมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับการส่งออกของภูมิภาค ขณะที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจน อย่างไรก็ตาม ด้านการบริโภคภาคเอกชนชะลอลงบ้างหลังมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงปลายปี 2559 สิ้นสุดลง
สำหรับในเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา การส่งออกมีมูลค่า 17,065 ล้านดอลลาร์ เติบโต 8.5% จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.6% ขณะที่นำเข้ามีมูลค่า 15,174 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11.3% จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 10.5% ด้านดุลการค้าเกินดุล 1,891 ล้านดอลลาร์ ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5,008 ล้านดอลลาร์ ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.55% ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.75%
อย่างไรก็ตาม ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลต่อเนื่อง จากทั้งดุลการค้าตามมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง และดุลบริการ รายได้ และเงินโอน ตามรายรับภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับเดือนนี้ตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มสูงขึ้น สำหรับดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิจากการไหลข้าวของเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI การได้รับชำระคืนเงินกู้ในเครือของธุรกิจไทย และการเข้าซื้อหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์
ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยขยายตัว 6.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายในช่วงก่อนหน้าเริ่มเดินทางกลับเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งคาดว่าได้รับผลดดีจากมาตรการยกเว้นและลดค่าธรรมเนียมวีซ่า รวมทั้งอยู่ในเทศกาลตรุษจีนด้วย
ด้านการลงทุนภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน ทั้งการลงทุนในภาคการก่อสร้างและลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน และภาคบริการโดยเฉพาะธุรกิจบริการและขนส่ง สอดคล้องกับสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวธุรกิจดังกล่าว ด้านการบริโภคภาคเอกชนชะลอลงหลังจากเร่งขึ้นในช่วงเดือนก่อนหน้า เนื่องจากได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวภาครัฐ
ทั้งนี้ จากภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ธปท.มองว่ามีโอกาสที่จะปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2560 จากเดิมที่คาด 3.2% หากการส่งออกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และการท่องเที่ยวขยายตัวดี แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาการลงทุนของภาคเอกชนและการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวต่ำ
“เรามองว่า ในส่วนของส่งออกนั้น จะมีฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องถึงช่วงไตรมาส 2 แต่ไตรมาส 3 เราจะต้องจับตามองว่าจะมีแรงส่งมากน้อยแค่ไหน และภาคการค้าจะต่อเนื่องหรือไม่”นายดอน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าค่าความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทไทยอยู่ในระดับต่ำ ที่ระดับ 3% ซึ่งเกือบจะต่ำที่สุดในภูมิภาค ส่งผลมีกลุ่มนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในตลาดพันธบัตรและอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เนื่องจากมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยค่อนข้างดี
ส่วนกรณีที่ในเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา พบว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5,008 ล้านดอลลาร์ โดยมีสาเหตุจากเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ ประกอบกับนักลงทุนมองว่า การลงทุนในไทยค่อนข้างเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้มีเงินเข้ามาเก็งกำไรในตลาดพันธบัตรค่อยข้างมาก ขณะที่ในตลาดหุ้นไทยยังเป็นไหลออกสุทธิ
" ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาเริ่มเห็นค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ แต่ความผวนยังอยู่ในระดับต่ำที่ 3% จึงสร้างแรงจูงในให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรมากขึ้น" นายดอนกล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย