- Details
- Category: ธปท.
- Published: Thursday, 21 January 2016 21:55
- Hits: 5553
ผู้ว่าธปท. เผย จะติดตาม-ประเมินสถานการณ์ศก.ปีนี้ใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานศก. ภาครัฐ- องค์กรกำกับดูแล หวังแลกเปลี่ยนข้อมูล รักษาเสถียรภาพระบบการเงิน หนุนการเติบโตศก.ไทย
ผู้ว่าธปท. ยอมรับปี 58 เป็นปีแห่งการผันผวนของเศรษฐกิจโลก หลังเจอพิษศก.จีน - ราคาน้ำมันลง - สหรัฐฯ ขึ้นดบ. ทำส่งออกไทยวูบ ยันจะติดตาม-ประเมินสถานการณ์ศก. ปีนี้ใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานศก. ภาครัฐ- องค์กรกำกับดูแล หวังแลกเปลี่ยนข้อมูล - รักษาเสถียรภาพระบบการเงิน หนุนการเติบโตศก.ไทย
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผ่านรายงานการประเมินเสถียรภาพระบบการเงินไทยปี 2558 ว่า ปี 2558 เป็นปีแห่งความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทั้งจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนการลดลงของราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เศรษฐกิจไทยซึ่งมีการพึ่งพาการส่งออกและมีความเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกค่อนข้างสูงย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวได้สะท้อนจากการส่งออกสินค้าของไทยที่หดตัว ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นไปอย่างช้าๆ รวมทั้งเกิดกระแสเงินทุนไหลออกและมีความผันผวนในตลาดการเงินที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาเพิ่มเติมจากภัยแล้งและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ภายใต้ปัจจัยลบที่ควบคุมไม่ได้ดังกล่าว นโยบายมหภาคทั้งการเงินและการคลังได้ทำงานสอดประสานเพื่อช่วยลดผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก พร้อมกับใช้โอกาสนี้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเจริญเติบโตในระยะยาว
การเติบโตของเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปและช้ากว่าที่คาดในปีนี้ส่งผลลบต่อรายได้ความสามารถในการช้าระหนี้ของภาคเอกชน และคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคาร ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทยในปี 2558 จึงมีมากขึ้น แต่ด้วยฐานะการเงินของภาคธุรกิจและภาคสถาบันการเงินที่ยังเข้มแข็ง ฐานะด้านต่างประเทศที่ยังมั่นคง ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลต่อเนื่องและเงินส้ารองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับนโยบายมหภาคที่มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะใช้ได้ยามจ้าเป็น (Policy Space) ท้าให้เสถียรภาพการเงินไทยสามารถรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้
ภายใต้สภาพแวดล้อมโลกที่ยังมีความเสี่ยงสูงต่อเนื่องใน ปี2559 ธนาคารแห่งประเทศไทยจะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจักประสานกับหน่วยงานเศรษฐกิจของภาครัฐและองค์กรก้ากับดูแล เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็น รวมถึงประสานมุมมองและร่วมกันพัฒนากรอบการติดตามและประเมินเสถียรภาพระบบการเงินที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะน้าไปสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมกันของการรักษาเสถียรภาพระบบการเงินและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย
ธนาคารแห่งประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานการประเมินเสถียรภาพระบบการเงินไทยฉบับนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความเสี่ยง ช่องทาง และผลกระทบที่อาจมีต่อเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไปในการประเมินความเสี่ยงวางแผน ปรับตัว และเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที
ทั้งนี้ รายงานการประเมินเสถียรภาพระบบการเงินไทยปี 2558 ได้สรุปความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทย ว่ามาจาก เศรษฐกิจต่างประเทศ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเอเชีย รวมถึงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจกลุ่มยูโร อาทิ ความอ่อนไหวของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก (Geopolitical Risks) ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับลดลงและทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และความแตกต่างของการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก
ด้านเศรษฐกิจในประเทศ มีปัจจัยเสี่ยงจากการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและช้ากว่าที่คาดไว้กระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนและธุรกิจขนาดเล็ก ประกอบกับพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนและยอมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
ส่วนสถาบันการเงิน นั้นประสบปัญหาคุณภาพสินเชื่อและความสามารถในการทำกำไรของระบบสถาบันการเงินด้อยลงแต่เงินสำรองและเงินกองทุนยังอยู่ในระดับสูง ช่วยรองรับความเสี่ยงจากการด้อยลงของคุณภาพสินทรัพย์ได้ ขณะที่ตลาดการเงิน ยังเผชิญกับความผันผวนของตลาดการเงินโลกส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้าย อัตราแลกเปลี่ยนและราคาสินทรัพย์ต่างๆ ผันผวนมากขึ้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย