WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BOAวรไทธปท.ยันไทยพร้อมรับค้าขายเงินสกุลหยวน ชี้สภาพคล่องมีพอสนองลงทุนภาครัฐ

     แนวหน้า : นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวถึงกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศไทย (ไอเอ็มเอฟ) เพิ่มเงินสกุลหยวน ของจีน ไว้ในตะกร้าเงินหลักทุนสำรองระหว่างประเทศว่า เป็นสิ่งที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว หลังจากที่เศรษฐกิจ ของจีน มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้เงินหยวน ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งยังมีระยะเวลาให้ปรับตัว เพราะจะเริ่มใช้ในช่วงเดือนตุลาคม 2559 ในเบื้องต้นมองว่ายังไม่มีผลกระทบต่อตลาดการเงินและตลาดทุน เนื่องจากจะมีผลในเดือนตุลาคม 2559 ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง มีเวลาในการปรับตัวมากขึ้น ในขณะที่ธปท.ได้รับทราบมานานและจึงได้มีการเตรียมความพร้อมโดยมีสำนักงาน ผู้แทนอยู่ที่กรุงปักกิ่ง และมีการลงทุนในตราสารเงินหยวน ด้วย และมีการถือครองเงินหยวนในทุนสำรองระหว่างประเทศบางส่วน

    ขณะที่ในระยะข้างหน้า มองว่า ในอนาคต เงินหยวนจะเข้ามามีบทบาทต่อการค้า และการลงทุนโลก มากขึ้น รวมประเทศไทยที่น่าจะได้ผลดีจากการที่มีเงินลงทุนโดยตรง ที่เป็นสกุลหยวนเข้าสู่ไทยมากขึ้น เพราะรัฐบาลจีนน่าจะเปิดโอกาสในการนำเงินทุน ออกนอกประเทศได้ง่ายขึ้น ส่วนธปท.จะเพิ่มสกุลเงินหยวน ในทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นหรือไม่ นั้น คงต้องใช้เวลาในการพิจารณาบทบาทของเงินหยวนอีกระยะหนึ่ง รวมทั้งต้องมองพัฒนาการของตลาดเงิน ตลาดทุนประกอบด้วย ขณะที่ปัจจุบันสถาบันการเงินต่างๆ เริ่มการ ให้บริการในสกุลเงินหยวนบ้างแล้ว

     นายวิรไท กล่าวถึงกรณีที่ปีหน้าที่รัฐบาลจะมีการ ลงทุนเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า และจะส่งผลต่อทิศทางของนโยบายการเงินอย่างไรนั้น ยืนยันว่า นโยบายการเงินคงไม่ได้เป็นตัวรองรับการลงทุนหลัก แต่จะดูเสถียรภาพเศรษฐกิจมากกว่า และในปัจจุบันสภาพคล่องส่วนเกินในระบบธนาคารพาณิชย์มีมากพอที่จะรองรับการลงทุนของรัฐบาลอยู่แล้ว ในส่วนของกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีหน้าและจะเป็นต้นทุนทางการเงินหรือไม่นั้น ยืนยันว่า การทำนโยบายการเงินคำนึงถึงเสถียรภาพด้านต่างๆ เป็นหลัก ทั้งนี้ ยืนยันว่า อัตราเงินเฟ้อจะเริ่มกลับเป็นบวกได้ ในช่วงต้นปีหน้า และในปัจจุบันแรงกดดันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในระดับต่ำ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล

     "ย้ำว่า สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีเพียงพอ รองรับการที่รัฐบาลจะเร่งลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานในปีหน้า ซึ่งธปท.พร้อมดูแลนโยบายการเงินให้มีเสถียรภาพ เพราะปัจจุบันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และราคาน้ำมันที่ยังต่ำ"

     ด้านนายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบัน การจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่าจากการ ไอเอ็มเอฟ มีมติอนุมัติให้นำสกุลเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) ของไอเอ็มเอฟ ซึ่ง จะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคมปีหน้านั้น จะส่งผลให้หยวนได้รับการปรับยกสถานะในเวทีการเงินโลก เทียบเท่ากับดอลลาร์ ปอนด์ ยูโร และเยนที่ได้รับอนุมัติให้รวมไว้ในตะกร้า SDR ก่อนหน้านี้ นับได้ว่าเป็นการเข้าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการพัฒนาปฏิรูปทุกด้านอย่างรวดเร็วและปัจจุบันจีนกลายเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก มูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และพัฒนาการเงินรองรับ เช่น ปรับเงินหยวนกลไกตลาด เปิดให้ต่างชาติ เข้าไปลงทุนพันธบัตรมากขึ้น จีนปลดล็อกอัตราดอกเบี้ย เสรีมากขึ้น

     นายสมภพ ยังได้กล่าวในงานสัมมนา "AEC & One Belt, One Road กับบทบาทสื่อมวลชนไทย-จีน" ว่า จีนก็ปรับตัวด้านเศรษฐกิจโดยนโยบายการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นผ่านโครงการ One Belt, One Road ฟื้นเส้นทางสายไหมในอดีตเชื่อมโยงทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ซึ่งผ่าน 64 ประเทศ ประชากร 4,400 ล้านคน หรือ 30% ของประชากรโลก โดยจีน มีการค้ากับประเทศเหล่านี้ 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี ดังนั้น หากการต่อเชื่อมคมนาคมทุกด้านตามแผนจะเพิ่มมูลค่าการค้ามากขึ้น โดยไทยและอาเซียนจะต้องจับตาและเพิ่มบทบาทในโครงการนี้ตามไปด้วย ซึ่งหนึ่งในแผนงานเชื่อม คือ เส้นทางรถไฟ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!