- Details
- Category: ธปท.
- Published: Saturday, 08 August 2015 11:22
- Hits: 1939
ธปท. ระบุเริ่มเห็นสัญญาณเอ็นพีแอลแบงก์สูงขึ้น ขณะที่ความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจ Q2/58 เพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างติดตามการขยายตัวสินเชื่อของธนาคาร รวมไปถึงแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ที่เริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ปัญหาหนี้ครัวเรือนในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เริ่มเห็นสัญญาณทรงตัว
ทั้งนี้ จากการสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ไทย สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจจำนวน 25 แห่ง และกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช้ธนาคารอีก 24 แห่ง พบว่า ในช่วงไตรมาส 2 ความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามความต้องการสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเป็นสำคัญ
สำหรับ ไตรมาส 3 สถาบันการเงินคาดว่าความต้องการสินเชื่อโดยรวมจะทรงตัวกับไตรมาส 2 เนื่องจากธุรกิจขนาดใหญ่ เริ่มมีช่องทางอื่นในการระดมทุน เช่น การออกหุ้นกู้ ขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอี มีความต้องการสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นบ้าง ส่วนด้านมาตรฐานการให้สินเชื่อในช่วงที่ผ่านมา สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังในการให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจโดยรวม ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจเอสเอ็มอี ส่วนไตรมาส 3 คาดว่าสถาบันการเงินยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการให้สินเชื่อแก่เอสเอ็มอี ตามความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อ
ส่วนในด้านของสินเชื่อภาคครัวเรือนในช่วงไตรมาส 2 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อการบริโภคอื่นๆ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่วนหนึ่งจากผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย สำหรับไตรมาส 2 สถาบันการเงินคาดว่าความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ตามแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ที่ยังฟื้นตัวไม่ดีนัก
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
ธปท.เล็งลดเป้าส่งออกปีนี้อีกครั้งในก.ย.สอดคล้องพาณิชย์-คลัง หลังศก.โลกฟื้นช้า
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ธปท. จะมีการปรับประมาณการส่งออกใหม่อีกครั้งในเดือนกันยายน (25 ก.ย.58) อย่างไรก็ดี จากการที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 58 เป็นติดลบ 3.0% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 1.2% ธปท.คาดว่าทิศทางการปรับประมาณการทั้งปีน่าจะสอดคล้องกันกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง
โดยประเด็นที่ทำให้ ธปท.ปรับประมาณมูลค่าการส่งออกลง มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะจีนที่เป็นตลาดส่งออกหลังซึ่งส่งกระทบทางตรงต่อไทย ทั้งยังส่งผลกระทบทางอ้อมผ่านการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาเซียนที่มีจีนเป็นตลาดส่งออกหลักเช่นกัน
นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับลดลงมากกว่าที่คาดยังมีส่วนให้ราคาส่งออกหดตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ รวมถึงส่งผลให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และอาเซียนชะลอตัวเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากปัจจัยการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
อินโฟเควสท์