WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BOAธปท.ห่วงเสถียรภาพศก.ไทย ความสามารถชำระหนี้ภาคเอกชนลดเหตุเศรษฐกิจฟื้นช้า

    แนวหน้า : แบงก์ชาติ ยอมรับเริ่มวิตกภาวะหนี้ ฉุดคุณภาพสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ต่ำลง เพิ่มความเสี่ยงของระบบการเงิน ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ทำให้ภาคชำระหนี้ภาคเอกชนมีปัญหา ผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ยอมรับยังกังวลเรื่องหนี้ภาคครัวเรือนคลังพล่าน เกษตรกรเริ่มถูกยึดที่ดิน

     รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ครั้งที่ 1/2558 วันที่ 22 มิถุนายน โดยที่ประชุมเห็นว่า ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินไทยมีมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคเอกชน ทำให้คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ด้อยลง อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงที่มากขึ้นยังไม่ถึงขั้นเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ เนื่องจากฐานะการเงินของระบบธนาคารพาณิชย์มีความเข้มแข็งจากเงินกองทุนและการกันสำรองที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับฐานะทางการเงินของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีมีส่วนช่วยรองรับความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้ระดับหนึ่ง

     นอกจากนั้น ที่ประชุมประเมินว่า ความเสี่ยงจากการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ต่อระบบการเงินยังมีจำกัด แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ ภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่ความผันผวนในตลาดการเงินไทยซึ่งได้รับผลจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในวงจำกัด

     นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นว่า ความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามในระยะต่อไป คือ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อการปรับตัวของภาคเอกชน ตลอดจนกระทบต่อฐานะการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคเอกชนมากขึ้น และอาจกลับมาส่งผลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ อาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินเพิ่มขึ้นในอนาคต

    นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า ปัจจัยเศรษฐกิจที่น่าจับตาคือ การส่งออก ที่ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง ซึ่งคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถานบัน (กกร.) ยังประเมินส่งออกโต 1% แต่จะปรับเป้าหมายใหม่ในต้นเดือนหน้า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดเป้าการส่งออกปีนี้เป็นติดลบ 1.5%

    ส่วนโรคเมอร์ส ยังไม่ได้มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อเพียง 1 รายเท่านั้น และกระทรวงสาธารณสุขสามารถควบคุมการแพร่ของเชื้อให้อยู่ในวงจำกัดได้ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นไปตามปกติ โดยยังไม่มีนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยวไทย ดังนั้นคาดว่า ประมาณ 2 สัปดาห์ ปัญหานี้น่าจะจบลง ส่วนกรณีที่ ICAO ปักธงแดงประเทศไทยนั้น ถือเป็นเรื่องที่เกิดมาระยะหนึ่งแล้ว และรัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และเชื่อว่า น่าจะสามารถปลดล็อกปัญหานี้ได้ จึงยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเช่นกัน

    ด้านนายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มจะดีขึ้น หลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยไตรมาส 3-4 จะเห็นผลจากการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ และรัฐบาลยังเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง บวกกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ก็จะเป็นอีก 1 ปัจจัย ที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนกรณีฟิทช์ที่กังวลหนี้ครัวเรือนของไทยที่อยู่ในระดับสูงถึง 86% นั้น ยอมรับว่า ที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น มาจากโครงการที่กระตุ้นการอุปโภคบริโภค ทั้งรถยนต์คันแรก และหนี้อสังหาริมทรัพย์ แต่เชื่อว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนเริ่มดีขึ้นแล้ว โดยอัตราการขยายตัวผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว จากนี้จะทรงตัวหรือขยายตัวลดลง

     ด้านสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่านายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะเข้ามาหารือถึงแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร และสัญญาณที่เกษตรกรเริ่มมีการขายหรือถูกยึดที่นา ที่ดิน แล้ว โดยมองว่าแนวคิดที่จะจัดตั้งธนาคารที่ดิน คงเป็นไปไม่ได้ คนที่เสนอยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบธนาคาร ซึ่งมันทำได้ยาก ประเด็นคือสถาบันการเงินดูแลลูกหนี้ได้ดีแค่ไหนมากถึงจะตรงปัญหามากกว่า

     “ปัญหาหนี้สินเกษตรเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หรือการเมืองระส่ำระสาย เศรษฐกิจทั่วโลกฝืดเคือง โอกาสที่คนจะไม่ชำระหนี้ก็มีมากขึ้น ถ้ามีปัญหามาก คลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ต้องคุยว่าจะให้สถาบันการเงินผ่อนปรนได้แค่ไหน ส่วนจะยกหนี้ให้เลยได้หรือไม่คงเป็นไปได้ยาก”นายสมหมาย กล่าว

    ส่วนแนวคิดที่จะขอให้ชดเชยให้เกษตรกรปลูกข้าวไร่ละ 3,000 บาท เป็นไปไม่ได้ ที่ผ่านมาชดเชยให้ไร่ละ 1,000 บาท ก็ใช้งบประมาณสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาทไปแล้ว ถ้าจะต้องจ่ายไร่ละ 3,000 บาท ก็ต้องใช้งบประมาณสูงถึงแสนล้านบาท แต่รัฐบาลก็มีภาระต้องดูแลพืชผลอื่นๆด้วย ก็คงต้องไปหารือรายละเอียดว่าจะช่วยเหลืออย่างไร

    นายสมหมาย กล่าวถึงผลกระทบจากโรคเมอร์ส ว่ายังยืนยันจะไม่กระทบกับเศรษฐกิจไทย เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขยังออกมาดูแลได้ดี และไม่ได้อยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว คาดว่ายังใช้เวลาภายในเดือนหน้าก็น่าจะจบแล้ว ไม่เหมือนกับโรคไข้หวัดนกที่มีระยะเวลาที่ยาวนาน อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูว่าต่างประเทศจะกระจายไปแค่ไหน แต่เชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขมีแผนรองรับเป็นลำดับอยู่แล้ว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!