- Details
- Category: ธปท.
- Published: Friday, 30 January 2015 22:30
- Hits: 2597
ธปท.คงเป้าจีดีพีปี 58 โต 4% ส่งออกเสี่ยงขยายตัวต่ำกว่า 1% แนะจับตาราคาน้ำมันโลก เผยศก.เดือน ธ.ค.57 ทยอยฟื้นตัวช้าๆ
ธปท. คงเป้าจีดีพีปี 58 โต 4% ส่งออก เสี่ยงโตต่ำกว่า 1% แนะจับตาราคาน้ำมันโลก เผยศก.เดือน ธ.ค.57 ทยอยฟื้นตัวช้าๆ หลังส่งออก โต 2.3% นำเข้าติดลบ 7.9% ส่งผลเกินดุล 3.64 พันล้านดอลล์ พร้อมระบุ เดือน ธ.ค. 57 เงินทุนไหลออกสุทธิ 4.46 พันล้านดอลล์ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ในปีนี้ธปท.ยังคงเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2558 ไว้ที่ระดับ 4% แม้ว่าสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.จะมีการปรับประมาณการเหลือ 3.8%
“จริงๆมันคงต่างกันแค่จุดทศนิยม เพราะ 4% กับ 3.8% นั้นมันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เรายังไม่ได้มีการปรับประมาณการใหม่ในตอนนี้”นายดอน กล่าว
ในปี 2558 มีโอกาสที่การส่งออกจะโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง อาจทำให้ราคาสินค้าส่งออก 1 ใน 5 ของการส่งออกสินค้าทั้งหมด ซึ่งประกอบปิโตรเครมี มันสำปะหลัง เคมีภัณฑ์ ยางพารา และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมมีแนวโน้มลดลง
นายดอน กล่าวถึง ภาวะเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค. 2557 ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ การส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนแผ่วลงบ้าง แม้ราคาน้ำมันที่ต่ำลงจะช่วยลดค่าครองชีพและต้นทุนการผลิต
ซึ่งเป็นผลจากภาคครัวเรือนยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย ขณะที่ภาคธุรกิจรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเริ่มลงทุนอย่างชัดเจนในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันโลกที่ต่ำลงทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เดือน
“ในปีนี้ยังมีปัจจัยหลายที่ท้าทาย โดยเศรษฐกิจที่แม้จะเริ่มฟื้นตัวแต่ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องจับตามอง เช่น หนี้ภาคครัวเรือน เศรษฐกิจโลก รวมไปถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ ”นายดอน กล่าว
ส่วนภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจนในเดือน ธันวาคม 2557 มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งสิ้น 2.8 ล้านคน ขยายตัว 11.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยเป็นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวเอเชีย โดยเฉพาะจากจีนและมาเลเซียซึ่งช่วยชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวตลาดอื่นๆที่สำคัญที่ชะลอตัว เช่น รัสเซีบ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
สำหรับ การส่งออกเดือน ธ.ค. โต 2.3% คิดเป็นมูลค่า 18,697 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกสินค้าฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องจากตลาดสหรัฐ ที่เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่อุปสงค์จากจีนชะลอตัวลง และราคาสินค้าส่งออกหลายหมวดที่ปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ เช่น ปิโตรเลียม ยางพารา และเคมีภัณฑ์ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปี 2557 ยังหดตัวเล็กน้อยจากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม อุปสงค์จากจีนและอาเซียนที่ชะลอตัวลง ประกอบกับราคาสินค้าส่งออกบางหมวดที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งสำคัญต่อการฟื้นตัวของการส่งออกในภาพรวมของไทย
ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่ามีมูลค่า 15,057 ล้านดอลลาร์ หดตัว 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามการนำเข้าน้ำมันดิบที่หดตัวสูงต่อเนื่องทั้งด้านปริมาณและราคา
ส่งผลดุลการค้าในเดือน ธ.ค. เกินดุล 3,640 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าการนำเข้าน้ำมัน ที่หดตัว ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุล 1,883 ล้านดอลลาร์ ตามรายรับจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก บริการอื่นๆที่เพิ่มขึ้น ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5,523 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ด้านในเดือน ธ.ค. เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 0.6% ตามราคาพัลงงาน โดยราคาพลังงานหดตัว 7.41% จากราคาขายปลีกในประเทศที่ปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ราคาอาหารสดชะลอลงมาอยู่ที่ 1.88% จากราคาเนื้อสัตว์และไข่ไก่ เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ส่วนอัตราเงินเฟ้อฟื้นฐานสูงขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 1.69% จากค่าเช่าบ้านที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ เนื่องจากผู้ให้เช้าหลายรายปรับเพิ่มขึ้นค่าเช้าบ้านตามการปรับปรุงบ้านเช่าใหม่ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆยังคงทรงตัวแม้ต้นทุนการผลิตและขนส่งจะปรับลดลงตามราคาน้ำมันบ้าง
ในเดือน ธ.ค. 57 มีเงินไหลออกสุทธิ 4,649 ล้านดอลลาร์ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 จากการไหลออกทั้งด้านสินทรัพย์และหนี้สินตามการลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทย การปรับฐานะเงินตราต่างประเทศ และการขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับ ด้านสินทรัพย์มีเงินไหลออกสุทธิ 3,507 ล้านดอลลาร์ จากการที่นักลงทุนไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อกระจายความเสี่ยง และแสวงหาผลตอบแทนที่ดีกว่าทั้งในรูปแบบการลงทุนโดยตรง และการลงทุนในหลักทรัพย์ ด้านหนี้สินมีเงินไหลออกสุทธิ 1,142 ล้านดอลลาร์ จากการที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหลักทรัพย์ไทย โดยเฉพาะตราสารทุน ซึ่งสอดคล้องกับตลาดภูมิภาคและเป็นผลจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐในปี 2558
ทั้งนี้ ในภาพรวมปี 2557 การส่งออก ติดลบ 0.3% โดยเป็นผลจากภาวะรวมของเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ด้านการนำเข้าติดลบ 8.5% โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการนำเข้าน้ำมันดิบ ตามราคาน้ำมันโลกที่ลดลงและการชะลอปริมาณการนำเข้าน้ำมันของโรงกลั่น เพราะคาดว่าราคาน้ำมันโลกอาจต่ำลงอีก ส่งผลดุลการค้าในปี 2557 เกินดุล 24,582 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงมากส่งผลให้การนำเข้าหดตัวสูง ขณะที่การส่งออกขยายตัวได้เล็กน้อยตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 14,231 ล้านดอลลาร์
สำหรับ ภาพรวมเงินเฟ้อทั้งปี 2557 เงินเฟ้อทั่วไป 1.89% และเงินเฟ้อฟื้นฐาน 1.59% ส่วนไตรมาส 4 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 1.11% ตามราคาพลังงานเป็นสำคัญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อฟื้นฐานอยู่ที่ 1.65% จากการส่งผ่านต้นทุนก๊าซหุงต้ม มายังราคาอาหารสำเร็จรูปที่หมดลง
“เงินเฟ้อทั่วไปที่ลดลงมาจากราคาพลังงานที่ลดลงเป็นสำคัญ จากทิศทางน้ำมันในตลาดโลก การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดน้ำมัน และการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศ ส่วนเงินเฟ้อฟื้นฐานนั้นมาจากราคาอาหารสำเร็จรูปลดลง ขณะที่ราคาสินค้าและบริการอื่นๆยังทรงตัวแม้ต้นทุนจะอยู่ในระดับต่ำ”นายดอน กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย