- Details
- Category: ธปท.
- Published: Friday, 10 October 2014 22:06
- Hits: 3906
ต่างชาติห่วง 1 ปีรัฐบาลปฎิรูปไม่เสร็จ ยอมรับพื้นฐานศก.ไทยน่าสนใจ
แนวหน้า : ต่างชาติห่วง1ปีรัฐบาลปฎิรูปไม่เสร็จ-ยมอรับพื้นฐานศก.ไทยน่าสนใจ ธปท.-คลัง-ตลท.ดึงทุนนอก
3 หน่วยงานหลักด้านเศรฐกิจไทย แทคทีมโรดโชว์สหรัฐ ชี้แจงข้อมูลโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เผยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังสนใจเข้ามาลงทุน เชื่อว่ายังมีโอกาสสร้าผลตอบแทนที่ดี ขณะเดียวกันได้ถามรมว.คลังว่า รัฐบาลทหาร ประกาศอยู่แค่ 1 ปี จะปรับปรุงประเทศ และวางนโยบายด้านเศรษฐกิจได้อย่างที่ตั้งใจหรือไม่ และอยากเขามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของไทย
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการพบปะกับนักลงทุนต่างประเทศที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับนักลงทุนต่างประเทศประมาณ 30 คน เกี่ยวกับทิศทางนโยบายเศรษฐกิจการเงินของไทย ซึ่งผู้ว่าการ ธปท .ยืนยันบทบาทของ ธปท. ในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และระบบสถาบันการเงินให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการเติบโตที่ยั่งยืน นอกจากนี้ได้ให้ความมั่นใจแก่ นักลงทุนในเรื่องความเพียงพอของเงินสำรองทางการ และความพร้อมการดูแลการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศที่มีระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวเป็นกลไกหลักช่วยปรับตัวอยู่แล้ว
ส่วนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือปีนี้และในปีหน้า นั้น อยากให้น้ำหนักที่ทิศทางการฟื้นตัวมากกว่าตัวเลขเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งต้องติดตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและลงทุนเอกชน ที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นตามการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งในส่วนของ ธปท.ประมาณการว่าแรงส่งของการใช้จ่ายในประเทศเฉลี่ยแต่ละไตรมาสปี 2558 น่าจะอยู่ในอัตราที่สูงกว่าที่ประเมินโดยธนาคารโลก
สำหรับ หนี้ภาคครัวเรือน ผู้ว่าการ ธปท. ชี้แจงว่า ครัวเรือนในกลุ่มรายได้สูงไม่มีประเด็นน่าเป็นห่วง และในเรื่องความสามารถการชำระหนี้ทางสถาบันการเงินก็ดูแลในเรื่องนี้ใกล้ชิดอยู่แล้ว ส่วนระยะปานกลางต้องแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ด้วยการให้ความรู้ทางการเงิน (financial literacy) และการสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้
ทั้งนี้ ในช่วงรอยต่อทางเศรษฐกิจและการเมืองขณะนี้ นักลงทุนต่างประเทศ และทางการไทยเห็นพ้องกันว่านโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนภาคธุรกิจ (pragmatic and market friendly)
เป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยส่วนหนึ่งเห็นว่าประเด็นทางปรับตัวทางการเมืองเป็นเรื่องภายในประเทศและด้วยขนาดของเศรษฐกิจไทย และการเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน
ไทยยังเป็นที่น่าสนใจในเชิงกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดเกิดใหม่ (emerging markets)
ส่วนระยะปานกลางความคืบหน้าการปฏิรูปเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลดความเหลื่อมล้ำการกระจายรายได้ และนโยบายที่เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยจะเป็นปัจจัยสำคัญใน การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และในระหว่างการพบปะหารือนักลงทุนแสดงความสนใจที่จะลงทุนต่อเนื่องในตราสารการเงินไทย ซึ่งทีมไทยชี้แจงว่าจะมีการออกตราสาร เพื่อใช้การลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานเป็นสำคัญ นอกจากนี้ นักลงทุนยังแสดงความสนใจในตราสารภาคเอกชนที่ออกเป็นเงินตราต่างประเทศด้วย
ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผลจากการจัดงาน Thai Forum ซึ่งได้ร่วมกับธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินช์ และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยผู้ลงทุนสถาบันที่เข้าร่วมงานมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีการลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก โดยผลตอบรับจากนักลงทุนต่างชาติ มีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งมองว่าหุ้นไทยมีพื้นฐานที่ดี ประกอบกับยังมีผลตอบแทนของหุ้นที่ติดอันดับ 2 ของโลก
นอกจากนี้ ในการจัดงาน Thai Forum ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีคือได้มีตัวแทนของรัฐบาลใหม่ที่เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ คือนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีการปาฐกถาเกี่ยวกับแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และการให้ความสำคัญกับการบริหารประเทศด้วยความโปร่งใสและยึดหลักธรรมาภิบาล ซึ่งผู้ลงทุนได้ให้ความสนใจในประเด็นการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบาย โดยมีคำถามว่าการที่รัฐบาลทหารได้ประกาศว่าจะอยู่บริหารงาน 1 ปี การปรับปรุงประเทศและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจจะทำทันหรือไม่ ซึ่งนายสมหมายได้ตอบว่า รัฐบาลทหารมีการบริหารงานอย่างรวดเร็วและมีการตัดสินใจที่ดีและซื่อสัตย์ และยังมีข้อกฎหมายต่างๆที่จะต้องอยู่ระหว่างปรับปรุงและนำออกมาใช้ ซึ่งหลายๆส่วนจะทำให้ประเทศชาติได้รับผลประโยชน์สูงที่สุด
นอกจากนี้ทางนักลงทุนต่างชาติยังเสนอให้ทางรัฐบาลออกพันธบัตร โดยมีความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาลงทุนได้แค่หุ้นกู้ของบริษัทเอกชน จึงต้องการให้กระทรวงการคลังออกพันธบัตรของรัฐบาล โดย รมว. รมว.คลังจะนำไปพิจารณา แต่ปัจจุบันประเทศไทยมีเงินลงทุนเพียงพอต่อนโยบายบริหารประเทศ ประกอบกับเงินตราต่างประเทศที่อยู่ในระบบยังมีค่อนข้างสูงจึงไม่มีความจำเป็นที่จะออกพันธบัตรในขณะนี้ เพราะต้องสร้างความสมดุลในระบบก่อน
นางเกศรา กล่าวต่อว่า จากการที่ได้แถลงนโยบายเศรษฐกิจไปแล้ว มองว่าเงินทุนต่างชาติอาจจะยังไม่ไหลกลับเข้ามาในเร็ววันนี้ เนื่องจากต้องรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของไทยก่อนว่าจะออกมาดีแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติสนใจหุ้นในกลุ่มธนาคารมองว่ามีพื้นฐานที่แกร่งและไม่มีปัญหาด้าน NPL
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารภาคตลาดเงิน คือ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปาฐกถาพิเศษในงาน Thai Forum ได้ให้ข้อมูลมาตรการของธปท.ในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพภาคการเงิน และการส่งเสริมบรรยากาศการลงทุน ซึ่งทางธปท.คาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะโตถึง 4.8% ซึ่งเป็นการให้ความมั่นใจต่อนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทย