- Details
- Category: ธปท.
- Published: Thursday, 09 October 2014 23:25
- Hits: 2949
ผู้ว่าการธปท.คาดจีดีพีไทยปีหน้าจ่อขยายตัว 4.8% หลังความเชื่อมั่นเริ่มฟื้น เผย หน้าที่หลักของแบงก์ชาติคือรักษาเสถียรภาพศก.-พัฒนาโครงสร้างการเงินให้แข็งแกร่ง
ผู้ว่าการธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจขยายตัวได้ 4.8% หลังตัวชี้วัดเศรษฐกิจเริ่มบ่งชี้ถึงการฟื้นตัว พร้อมดำเนินนโยบายการเงินเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องยั่งยืน เชื่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่คาดว่าจะมีขึ้นปีหน้าไม่ส่งผลกระทบต่อไทยมากนัก เหตุมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงพร้อมต้านทานกรณีเกิดเงินทุนไหลออก แต่เตือนหนี้ครัวเรือนที่สูงยังเป็นปัจจัยเสี่ยงในระยะยาว
รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกูล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการแสดงปาฐกถาในหัวข้อ 'บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยในการขับเคลื่อนการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย' ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯว่า ธปท.ให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างของภาคการเงินเป็นหน้าที่หลักทั้งสองประการ โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาว และพัฒนาได้ตามศักยภาพที่มี
'ในมุมมองด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียงระดับต่ำสุดของกรอบเป้าหมาย ดังจะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราเฉลี่ยใกล้เคียงศูนย์ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา และยังคงมีแนวโน้มขยายตัวในระดับที่ต่ำในระยะยาว ภาวะดังกล่าวเป็นผลจากความไม่แน่นอนทางการเมือง และผลพวงจากการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายโดยรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้' ดร.ประสารกล่าว
โดยทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีแนวโน้มดำเนินไปในอัตราที่ต่ำ ทำให้ธปท.ดำเนินนโยบายการเงินในแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
'การดำเนินนโยบายการเงินในแนวทางที่จะส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจดำเนินมาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ปี 2014 จนถึงขณะนี้ โดยภาคธุรกิจเริ่มปรับปรุงและขยายกำลังการผลิตในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้น ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงของการฟื้นตัว ซึ่งภาคธุรกิจสามารถที่จะดำเนินการผลิตได้ในระดับปกติ' ดร.ประสารระบุ
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าการธปท.คาดว่า จีดีพีไทยปี 2015 จะขยายตัวได้ราว 4.8% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวสู่การขยายตัวในระดับปกติ หลังตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ฟิ้นตัว หลังการเมืองมีเสถียรภาพ ดังจะเห็นได้จากการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่เริ่มขยายตัว
นอกจากนี้ ดร.ประสารเชื่อว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างจำกัด เนื่องจากตลาดเงินตลาดทุนได้ซึบซับปัจจัยดังกล่าวมาเป็นระยะแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ประกอบกับไทยมีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับที่สูงที่สามารถต้านทานปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศได้
'เรามีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับที่สูง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถต้านทานผลกระทบจากการไหลออกของเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ การใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดการยังช่วยให้เกิดเสถียรภาพของค่าเงินโดยอัตโนมัติในกรณีที่เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน' ผู้ว่าการธปท.กล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร.ประสารเตือนว่า หนี้ครัวเรือนที่สูง ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับ 83% ของจีดีพีเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขในระยะยาว แม้ขณะนี้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจยังมีอยู่จำกัด แต่เป็นความเสี่ยงที่จะเพิกเฉยไม่ได้ ซึ่งธปท.เสนอให้รัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติในการส่งเสริมความรู้และการสร้างวินัยทางการเงินเพื่อเป็นหลักประกันเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย