- Details
- Category: ธปท.
- Published: Wednesday, 17 September 2014 23:19
- Hits: 3648
กนง.มีมติเอกฉันท์คงดบ.ไว้ที่ 2% ตามคาด ใช้นโยบายผ่อนปรน หนุนการฟื้นตัวของ ศก. -สัปดาห์หน้าทบทวนจีดีพี
กนง.มีมติเอกฉันท์คงดบ.ไว้ที่ 2% ตามคาด ใช้นโยบายผ่อนปรน หนุนการฟื้นตัวของ ศก. ระบุ ศก.ในประเทศฟื้นเป็นวีเชฟ ตั้งแต่Q2/57 ตามการบริโภค-การใช้จ่ายภาครัฐฯ ขับเคลื่อน พร้อมเตรียมทบทวนคาดการณ์ตัวเลข ศก.ทุกรายการสัปดาห์หน้า
นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออาร์/พี 1 วัน ไว้ที่ 2%ต่อปี เนื่องจากประเมินว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันยังมีความจำเป็นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในระยะเริ่มแรก โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน
"ที่ประชุม มองว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดเล็กน้อย โดยมีความแตกต่างระหว่างภูมิภาค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโร และญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอ แต่น่าจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ตามคาด และเศรษฐกิจเอเซียโดยรวมยังขยายตัวได้ใกล้เคียงเดิม " นายเมธี กล่าว
ด้านความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในประเทศของครัวเรือน ธุรกิจ และภาครัฐเริ่มฟื้นตัว และส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศปรับดีขึ้นและคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะต่อไป
อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดด้านการผลิตและปัญหาราคาสินค้าเกษตรมีผลต่อการส่งออกสินค้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆก่อนปรับเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนระบบการเงินและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ
อนึ่ง คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เป็นหนึ่งในคณะกรรมการหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ปัจจุบัน กนง.ที่ธปท. แต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. 3 ท่าน และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 4 ท่าน ได้แก่
1.นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ 2.นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองประธานกรรมการ 3.นางทองอุไร ลิ้มปิติ กรรมการ
ส่วนบุคคลภายนอก 4 ท่าน ได้แก่ 4.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กรรมการ 5.นายณรงค์ชัย อัครเศรณี กรรมการ 6.นายศิริ การเจริญดี กรรมการ และ 7.นายอัศวิน คงสิริ กรรมการ
ทั้งนี้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี และจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้ ซึ่งในการประชุม กนง. ครั้งหน้าผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 4 ท่านหมดวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ทั้งหมด 4 คน โดยผู้ว่า ธปท.จะเลือกมา 8 คน และให้บอร์ดคัดเหลือ 4 คน ซึ่งครั้งหน้าจะประชุม กนง. ในวันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2557
นายเมธี กล่าวต่อว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวในลักษณะ V-shave แล้ว โดยเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วง Q2/57 ที่ผ่านมาจากการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัว และการเดินหน้าการใช้จ่ายของภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ
ส่วนความจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อกระตุ้นการบริโภคนั้น มองว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกินความจำเป็นจะใช้ได้ผลระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากมาตรการจะไม่ยั่งยืน
“ความเชื่อมั่นในการบริโภคมันกลับมาพอสมควรแล้ว รายได้ดีขึ้น ผู้ที่ทำงานนอกภาคเกษตรเริ่มดีขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนช่วยในการพยุงเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ส่วนความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น มองว่า การกระตุ้นที่เกินความจำเป็นมันไม่ยั่งยืน เพราะพอใช้ไปได้ระยะเวลาหนึ่ง ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม”นายเมธี กล่าว
ในวันที่ 26 ก.ย. นี้ ธปท.จะแถลงทบทวนประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของปีนี้และปีหน้า รวมถึงเป้าหมายการส่งออกแต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร โดยการปรับประมาณการดังกล่าวได้คำนึงถึงปัจจัยต่างๆทั้งในและต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับ ปัจจัยเสี่ยงที่จับตาในขณะนี้ คือ เศรษฐกิจโลกในแต่ละประเทศหลักๆมีการฟื้นตัวที่มีความแตกต่างกัน รวมถึงการดำเนินนโยบายทางการเงินที่มีความแตกต่างกันด้วย ขณะที่ปัจจัยในประเทศขณะนี้สิ่งที่เป็นห่วง คือ ภาคการส่งออกที่ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ โดยเฉพาะตัวเลข 7 เดือนที่ผ่านมายังคงอยู่ในระดับต่ำ
ตอนนี้คงไม่สามารถบอกตัวเลขได้ว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้รอสัปดาห์ก่อนจะมีการแถลงการปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่ทั้งหมดโดยนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา”นายเมธี กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด มองนโยบายผ่อนปรนยังจำเป็นช่วงศก.เริ่มฟื้น
คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุม ครั้งที่ 6/2557 วันที่ 17 ก.ย.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ตามตลาดคาดการณ์ โดยระบุว่านโยบายการเงินผ่อนปรนยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจระยะเริ่มแรก โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน
นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.วันนี้พิจารณาแล้วเห็นว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวกว่าที่คาดเล็กน้อย โดยมีความแตกต่างระหว่างภูมิภาค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุมประเทศยูโรและญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอ แต่น่าจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ตามคาด และเศรษฐกิจเอเชียโดยรวมยังขยายตัวได้ใกล้เคียงเดิม
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในประเทศของครัวเรือน ธุรกิจ และภาครัฐเริ่มฟื้นตัวและส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดด้านการผลิตและปัญหาราคาสินค้าเกษตรมีผลต่อการส่งออกสินค้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก่อนปรับเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนระบบการเงินและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ
"คณะกรรมการฯ ประเมินว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบัน ยังมีความจำเป็นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระยะเริ่มแรก โดยไม่กอ่ให้เกิดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน คณะกรรมการฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี โดยการประชุมครั้งนี้กรรมการ 2 ท่าน ลาประชุม คือ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม" นายเมธี กล่าว
นายเมธี กล่าวว่า ความจำเป็นในการกระตุ้นการบริโภคโดยใช้มาตรการด้านการคลัง ต้องดูความเหมาะสมเป็นรายมาตรการ ซึ่งคงต้องใช้เวลา เพราะการกระตุ้นเกินความจำเป็นในช่วงที่ผ่านมาไม่มีความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในลักษณะ V-Shape โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/57 ที่ผ่านมา ซึ่งในสัปดาห์หน้า ธปท.จะนำปัจจัยทั้งหมดมาพิจารณาทบทวนคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในปี 57-58 อีกครั้ง รวมถึงการขยายตัวของภาคการส่งออกปีนี้ด้วย
อินโฟเควสท์