- Details
- Category: ธปท.
- Published: Sunday, 06 May 2018 09:01
- Hits: 7999
ผู้ว่าธปท.กังวลประชาชนเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่เงินดิจิทัล -ยันบอนด์ยีลด์สหรัฐฯพุ่ง ไม่กระทบตลาดเงินไทย
ผู้ว่าธปท. เตรียมหารือ รองผบ.ตร. หาแนวทางป้องกันประชาชนเป็นเหยื่อแชร์เงินดิจิทัล ด้านศก.ไทยรับฟื้นตัว จากการท่องเที่ยวและส่งออก แต่ระดับภูมิภาคยังเปราะบาง เหตุราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ยันผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น ไร้ผลกระทบต่อตลาดการเงินไทย
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยถึงกรณีที่พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. จะเข้ามาหารือนอกรอบเกี่ยวกับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี ที่เริ่มเห็นการเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นว่า เป็นสิ่งที่ธปท.กังวลเช่นเดียวกัน และที่ผ่านมา ธปท.ได้เตือนประชาชนมาตลอด ว่าระวังการหลอกลวงแอบอ้าง ว่าการลงทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนสูง และประชาชนบางกลุ่มไม่เข้าใจ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งอาจมาในรูปแบบของแชร์ลูกโซ่ได้ และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน
ส่วนกรณีที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ยืนยันว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศ แม้ว่าที่ผ่านมาจะเริ่มเห็นสัญญาณลดลง จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว แต่ยังพบว่าเศรษฐกิจในบางพื้นที่ยังฟื้นตัวช้า และมีความเปราะบาง เนื่องจากเศรษฐกิจในพื้นที่แต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในกลุ่มชนบท ที่อาจพึ่งพารายได้จากการทำการเกษตร ซึ่งในขณะนี้ ราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น ในแต่ละพื้นที่จึงต้องเข้าใจวิธีการแก้ไขที่มีความแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีโดยภาพรวม ทั้งจากการท่องเที่ยว การส่งออก และการกระจายตัวในหลายภาคอุตสาหกรรม ขณะที่การนำเข้ายังคงต้องติดตาม เนื่องจากจะมีการผลิตเพื่อการส่งออกซึ่งจะทำให้การนำเข้าขยายตัวดี ซึ่งหากภาคการนำเข้าในภาคสินค้าทุน เครื่องจักร จะส่งผลดีต่อการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนด้วย
นายวิรไท กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะสหรัฐ ที่ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นนั้น ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อตลาดการเงินไทย เพราะปัจจุบันสภาพคล่องในประเทศและธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับสูง จึงไม่ใช่สิ่งที่กังวลมากนัก และยืนยันว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายในปัจจุบันเป็นเรื่องปกติ ที่พูดมาเป็นเวลานาน สำหรับกรณีของไทย ที่ผ่านมา ได้เตือนนักลงทุน หรือ ประชาชนที่กู้เงินตราต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เนื่องจากต้นทุนทางการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง
“สิ่งที่ต้องระวังตอนนี้ การทำนโยบายการเงิน นโยบายการคลังของประเทศอุตสาหกรรมหลัก และการกู้ยืมเงินต่างๆในต่างประเทศ ขณะที่เงินไหลออกจากตลาดหุ้น บอนด์นั้น ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล หรือต้องติดตามเป็นพิเศษ เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนตามความเสี่ยง ส่วนอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ แม้จะเห็นการปรับขึ้นบ้าง แต่ก็ต้องบอกว่า ยังต่ำกว่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจคงไม่ได้มีอะไร เพราะเป็นเรื่องที่รับรู้อยู่แล้ว”นายวิรไท กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย