WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Kbank Predee

กสิกรไทยรุกอินโดนีเซีย เข้าถือหุ้นแมสเปี้ยนแบงก์ 9.99% หวังเป็นฐานรองรับการค้าการลงทุนสองประเทศ

     กสิกรไทยเข้าถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยน ในอินโดนีเซีย 9.99% รองรับยุทธศาสตร์ธนาคารแห่งเออีซีบวกสาม เผยเป็นแบงก์เล็กเน้นคุณภาพ แนวทางทำธุรกิจสอดคล้องกันมุ่งดิจิทัล แบงกิ้ง เอสเอ็มอี เข้มบริหารความเสี่ยง พร้อมเครือข่ายสำนักงานกว่า 51 แห่งในเมืองสำคัญรองรับการค้าการลงทุนไทย-อินโดฯ คาดแตะ 7 แสนล้านบาท (2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในอีก 3 ปี

     นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้ายุทธศาสตร์การเป็นธนาคารแห่งเออีซีบวกสาม ในการขยายเครือข่ายและพันธมิตรให้บริการรองรับการค้าการลงทุนของลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศในอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยล่าสุดธนาคารกสิกรไทย ได้ เข้าไปถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยน (Bank Maspion) ประเทศอินโดนีเซียในสัดส่วน 9.99%      

      ธนาคารแมสเปี้ยน เป็นธนาคารพาณิชย์เอกชนระดับBUKU2 ที่มีศัยภาพของอินโดนีเซีย เน้นบริการกลุ่มลูกค้าบุคคลและธุรกิจเอสเอ็มอี มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของธนาคารกสิกรไทย ในด้านการลงทุนพัฒนาดิจิทัล แบงกิ้ง เพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยมีสัดส่วนเอ็นพีแอล (NPL) ระดับต่ำประมาณ 0.91% ขณะที่อัตราเฉลี่ยระบบธนาคารพาณิชย์อินโดนีเซียอยู่ที่ 2.93% มีเครือข่ายสำนักงานทั่วประเทศ 51 แห่ง ครอบคลุมเมืองสำคัญของประเทศที่ลูกค้าธนาคารกสิกรไทยเข้าไปทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้เข้าถึงการบริการด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ และการให้คำปรึกษาโดยผู้ให้บริการท้องถิ่นที่มีความชำนาญ

 

1AAk Indonesia

         นอกจากนี้ ธนาคารแมสเปี้ยน นั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแมสเปี้ยน (Maspion Group) กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของอินโดนีเซีย ดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภท อาทิ ธุรกิจการเงินธนาคาร ค้าปลีก/ค้าส่ง โลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคแบบถาวร อาทิเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้ในครัวเรือน มีฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงทำให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถ เชื่อมต่อลูกค้าไทยเข้าไปในห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่าของตลาดอินโดนีเซียได้ดียิ่งขึ้นผ่านการให้บริการกับแมสเปี้ยน

        ตลาดอินโดนีเซียนั้นถือเป็นตลาดที่ท้าทาย ในเชิงภูมิเศรษฐศาสตร์เป็นประเทศเกาะที่มีวัฒนธรรมและกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันมีธนาคารให้บริการอยู่กว่า100ธนาคาร ทำให้เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก ดังนั้นการการเข้าถือหุ้นจึงเป็นการเดินหมากที่ตอบโจทย์ธุรกิจของทั้งลูกค้าและของธนาคารกสิกรไทยได้ดีที่สุด

       การเข้าไปถือหุ้นในธนาคารแมสเปี้ยนของธนาคารกสิกรไทยครั้งนี้ แม้จะเป็นสัดส่วนที่ยังไม่มาก แต่เป็นการเริ่มต้นที่สะท้อนความมุ่งมั่นของธนาคารในการเข้าไปเป็นพันธมิตรทางการค้าการลงทุน ในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 โดยธนาคารกสิกรไทยและธนาคารแมสเปี้ยนจะร่วมมือพัฒนาบริการด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ บริการเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และบริการดิจิทัล แบงกิ้ง เพื่อส่งเสริมศักยภาพการให้บริการระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้น โดยมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถให้บริการของแก่ลูกค้าธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียและลูกค้าอินโดนีเซียที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

      นายอาลิม มาคุส (Alim Markus) ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มแมสเปี้ยน เปิดเผยว่า ธนาคารแมสเปี้ยน มั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาบริการร่วมกัน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านดิจิทัล แบงกิ้ง และการให้บริการกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีกับธนาคารกสิกรไทย จะช่วยยกระดับบริการของกันและกันได้ในอนาคต ขณะเดียวกันเครือข่ายบริการของแมสเปี้ยนที่ครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจสำคัญ ได้แก่ หมู่เกาะสุมาตรา หมู่เกาะชวา หมู่เกาะบาหลี หมู่เกาะสุลาเวสี และหมู่เกาะกาลิมันตัน จะช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยสามารถเข้าถึงบริการและคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซียได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวสอดคล้องกับธนาคารกสิกรไทย จึงนับเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่ลงตัวสามารถต่อยอดทางธุรกิจระหว่างกันได้ในอนาคต

       นายปรีดี กล่าวตอนท้ายว่า ภูมิภาค AEC+3 นั้นถือเป็นตลาดที่สำคัญต่อภาคธุรกิจไทย ธนาคารกสิกรไทยจึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการเชื่อมโยงธุรกิจ การค้า การลงทุนในภูมิภาค ซึ่งในห้วงปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ขยายเครือข่ายการให้บริการในภูมิภาคอย่างครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสาขาในประเทศกัมพูชา การยกระดับการบริการเป็นธนาคารท้องถิ่นในประเทศลาวและจีน และล่าสุดก็คือประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดที่มีมูลค่าจีดีพีใหญ่เป็นอันดับที่หนึ่งในภูมิภาคเออีซี การเข้าไปถือหุ้นของธนาคารแมสเปี้ยนในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำการก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจแห่ง AEC+3 ของเรา ซึ่งในด้านของการให้บริการก็จะเริ่มให้บริการได้ทันทีในเดือนกันยายนที่จะถึง โดยในเฟสแรก จะเริ่มให้บริการกลุ่มลูกค้าธุรกิจก่อน ด้วยการเปิดforeign desk ที่จะมีตัวแทนของธนาคารกสิกรไทยไปประจำอยู่ที่อินโดนีเซียเพื่อช่วยเชื่อมโยงธุรกิจไทยสู่ตลาดได้ลึกขึ้น อีกทั้งช่วยให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยเข้าถึงการให้บริการที่โดยผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง

        ปัจจุบันอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีประชากรมากถึง 260 ล้านคน เป็นอันดับที่ 4 ของโลก  อัตราการเติบโตของจีดีพีอย่างต่อเนื่องขยับเข้าใกล้มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการวิเคราะห์ของ Deloitte อินโดนีเซียจะก้าวขึ้นมาเป็นตลาดที่มีขนาดทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกภายในปี 2563 ปัจจุบันได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) เข้ามาลงทุนมากเป็นอันดับต้น ๆ ในช่วงปี 2553-2558 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 55% รวมทั้งการสนับสนุนจากรัฐบาลอินโดนีเซียในการปฏิรูปที่ดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง

       ด้านมูลค่าการค้าระหว่างอินโดนีเซียและไทย ณ สิ้นปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 5.3 แสนล้านบาท และจากการเกิดบริการรับชำระด้วยสกุลเงินท้องถิ่นโดยตรงระหว่าง  (exotic currency settlement initiative) ระหว่างสกุลบาทไทย และ สกุลรูเปียอินโดนีเซีย คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศแตะ 7 แสนล้านบาท ภายในปี 2563 นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ประเทศอินโดนีเซีย (BKPM) ระบุว่ามูลค่าการลงทุนจากไทยเข้าในอินโดนีเซีย (TDI) ตั้งแต่ปี2553จนถึงปัจจุบัน คิดเป็นเม็ดเงินจำนวนกว่า 2.3 แสนล้านบาท

 

KBank enters Indonesian market to reinforce its role as “AEC+3 Bank” with 9.99% share investment in Bank Maspion Indonesia. Prepare to facilitate the positive economic connectivity between the two countries.

      KBank invests a 9.99-percent stake in Bank Maspion to further enhance its service potential in the AEC+3 region and Indonesia. The investment will help KBank with 51 office networks located in major cities of Indonesia where Thai investors have placed their investment. This synergy is expected to upgrade the services of investment & trade finance, SME banking and digital banking for both banks, paving the way for KBank to serve Thai-Indonesian bilateral trade and investments which are targeted to reach USD20 billion in value within three years.

        According to Mr. Predee Daochai, KBank President, KBank has committed to strengthen its presence as an “AEC+3 Bank” to serve businesses connectivity in ASEAN, China, Japan and South Korea via expansion of its service network. Our new partnership with Bank Maspion via this 9.99% stake is the proof that we will deliver on such commitment and further elevate our services to empower businesses in both countries.

       Bank Maspion has just achieved BUKU2 status with key services focus on SME business and digital banking which align with KBank’s objective. The bank also provide an attractive attribute via its sound risk management which see its NPL ratio stands at 0.91 percent, versus the market ratio of 2.93 percent. Moreover, the bank’s extensive footprints of 51 office networks are strategically located in all major cities where KBank’s customer based their operations upon. Considering these factors, Bank Maspion is the best partner for KBank to establish a presence in the Indonesian market and to offer customers efficient services of cross-border trade and investment, plus advisory recommendations of proficient local service providers.

       Furthermore, Bank Maspion is part of the Maspion Group – one of the leading conglomerates in Indonesia – which runs a wide coverage of businesses, e.g., finance and banking, retail/wholesale, logistics and property development, and is also the top player in durable

       consumer goods, such as electrical and household appliances. With the group’s domestic and global customer bases, KBank will be able to better integrate Thai customers into Indonesian supply and value chains via its service alliance with Bank Maspion.

      However, Indonesia is considered one of the most unique markets in the region due to its geo-economic nature of islands country where a great diversity of cultures and consumer segments reside. Together with the crowded banking landscape where there are now over 100 banks in Indonesia, making it a highly resource intensive challenge for foreign player to tap in to the market without the right partner. KBank believes that its shareholding in Bank Maspion is the most strategic move to swiftly respond to business requirements of its customers and the Bank itself.

       Mr.Alim Markus, President Director and CEO of Maspion Group, said he firmly believes that this alliance with KBank will serve as a stepping stone to many more future bilateral developments. It will provide an opportunity for Bank Maspion to explore KBank’s expertise of digital banking and SME banking operations, which will help elevate Bank Maspion’s service in the long run. Meanwhile, Bank Maspion’s service coverage in Surabaya, Jakarta, Semarang, Denpasar, Medan, Bandung, Makassar, Solo, Malang, Purwokerto and Palembang will provide greater access for KBank customers to financial and advisory services from local experts.  This synergy is therefore a perfect alliance that may enable more advanced cooperation between Bank Maspion and KBank in the future.

      Mr.Predee Daochai concluded that the AEC+3 region is a crucial market for Thai businesses, and KBank has always recognized the significance the greater need of regional trade and investment interconnectivity. Over the past year, KBank’s service coverage has been enlarged via new branch opening in Cambodia and service upgrading to become locally incorporated institutions (LIIs) in Lao PDR and China. This alliance with Bank Maspion is the latest strategic move, which underscores KBank resolution to serve as a partner bank in the AEC+3 region for our customers. KBank services in cooperation with Bank Maspion will start within this quarter, with the first phase of operation to be offered to corporate customers. KBank representatives will assist in integrating Thai businesses and KBank customer into the Indonesian market while connecting those customers with the access to local experts’ services and market insight through Bank Maspion partnership.

        Indonesia is now considered as a new growth engine with a significant economic potential in AEC. Apart from being forecasted to be the world 7th largest economy in 2030 by Deloitte, The country is endowed with the world’s fourth-largest population of 260 million people and presently records the highest GDP value in the region. The value expected to approach USD1 trillion in 2017, or over 5-percent growth for the second year running. Its FDI experienced 55-percent CAGR during 2010-2015, given sound government support for reform towards attracting investors.

      The value of bilateral trade and investment between Thailand and Indonesia stood at USD16 billion as of the end of 2016, and is expected to reach USD20 billion by 2020 and to support this, KBank has launched a service of direct payment in THB (Thai Baht) and IDR (Indonesian Rupiah). According to the Indonesian Investment Promotion Center (BKPM), FDI from Thailand has already reached USD7 billion from 2010 up to this year.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!