- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Friday, 15 August 2014 00:00
- Hits: 3604
กสิกรไทยจับมืออาลีบาบาและอาลีเพย์ หนุนเอสเอ็มอีไทยรุกตลาดจีนและตลาดโลกผ่านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ธนาคารกสิกรไทยธนาคารชั้นนำของไทย ประกาศจับมืออาลีบาบา เว็บไซต์ขายส่งชั้นนำของโลก ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่กำลังแสวงหาตลาดใหม่ในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและขยายการส่งออก นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย จะร่วมมือกับ Alipay (Alipay.com) ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์สำหรับบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Alibaba Group เช่นเดียวกับ Alibaba นำสินค้าไทยเจาะตลาดผู้บริโภคของจีนที่มีขนาดมหาศาลอีกด้วย
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมกับอาลีบาบาดอทคอม สนับสนุนให้เอสเอ็มอีไทยจำหน่ายสินค้าแก่ผู้ซื้อที่มีศักยภาพในกว่า 240 ประเทศทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน Alibaba.com เพื่อเป็นการขยายช่องทางการตลาดให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้มุ่งมั่นให้บริการแก่เอสเอ็มอีไทยมาโดยตลอด ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย สามารถขยายไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมสินค้าในหมวดการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร อัญมณี เครื่องประดับ สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากไม้ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ภายใต้ต้นทุนที่ต่ำ
จากข้อตกลงดังกล่าว ผู้ประกอบการไทยจะสามารถสมัครเป็นสมาชิกระดับ Verified Member หรือ Gold Supplier ผ่านธนาคารกสิกรไทย เพื่อรับสิทธิประโยชน์และบริการสุดพิเศษต่างๆ ทั้งนี้ ลูกค้าที่เป็นสมาชิกระดับ Verified Member หรือ Gold Supplier ทุกรายจะต้องผ่านการตรวจสอบรับรองจาก Alibaba.com และหน่วยงานที่สาม ทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ประกอบการไทยที่เป็นสมาชิกระดับ Verified Member หรือ Gold Supplier ผ่านธนาคารกสิกรไทย ยังสามารถเข้าร่วมการฝึกอบรมด้านการตลาดออนไลน์ที่จัดโดย Alibaba.com ได้ฟรี พร้อมทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านเว็บไซต์ http://th.alibaba.com
นายทิโมที เหลียง ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ เว็บไซต์อาลีบาบาดอทคอม กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์สั้นและผู้ซื้อต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ ซัพพลายเออร์ไทยจะต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจความต้องการของผู้ซื้ออย่างทันท่วงที จึงจะสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงในตลาดส่งออกที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงได้ พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ในการเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีไทยได้สัมผัสความได้เปรียบที่สำคัญ 2 ประการของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ นั่นก็คือ ประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยยังได้เชื่อมระบบชำระเงิน K-Payment Gateway กับระบบ Alipay Account เพื่อช่วยเหลือลูกค้าวิสาหกิจของธนาคารกสิกรไทยในการเปิดช่องทางการเรียกเก็บเงินออนไลน์แบบข้ามพรมแดน ทั้งนี้ ในฐานะผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ผ่านบุคคลที่สามที่ใหญ่ที่สุดของจีน Alipay ได้ปรับตัวให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน และความสนใจของผู้บริโภคชาวจีนที่มีต่อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยไม่เพียงให้บริการด้านชำระเงินและรับประกันธุรกรรมภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นพัฒนาไปสู่ระดับสากลให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยเหลือแบรนด์และผู้ค้าปลีกต่างประเทศ ในการเชื่อมโยงสินค้าและบริการเข้ากับเครือข่ายผู้บริโภคขนาดใหญ่ของจีนผ่าน Alipay ปัจจุบัน มีผู้บริโภคในกว่า 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกซื้อสินค้าจีนผ่าน Alipay
ขณะเดียวกัน นับวันยิ่งมีผู้ค้าในหลายประเทศที่จำหน่ายสินค้าและบริการให้แก่ประเทศจีนโดยตรงผ่านระบบบริการการชำระเงินข้ามพรมแดน (Cross-border payment solutions) ของ Alipay มากยิ่งขึ้น
จากตัวเลขของทางการไทย นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยในปี 2556 มีจำนวนถึง 4.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18 ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย สินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทยได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากมีรูปแบบที่แปลกตาและฝีมือที่ประณีตงดงาม การบรรลุข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง Alipay และธนาคารกสิกรไทย จะทำให้เอสเอ็มอีไทยสามารถนำเสนอสินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภคชาวจีนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้บริการ Alipay ของจีนยังสามารถใช้รูปแบบการชำระเงินที่ตนเองคุ้นเคย ซื้อสินค้าประเภทต่างๆ ของผู้ประกอบการไทยแบบข้ามพรมแดนได้อีกด้วย
นายเหลียง หมินจวิ้น รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศของ Alipay กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างนวัตกรรม ความเฉียบแหลมในด้านการตลาดของธนาคารกสิกรไทย เมื่อผนวกเข้ากับประสบการณ์และเทคโนโลยีด้านการชำระเงินออนไลน์ของ Alipay จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจในตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ยังสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนในการซื้อสินค้าต่างประเทศผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาสามารถซื้อสินค้าไทยที่เป็นของแท้ในราคาที่ยุติธรรมได้โดยไม่ต้องเดินทางออกนอกต่างประเทศ จากความร่วมมือในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นAlipay และธนาคารกสิกรไทยจะพัฒนาระบบบริการการชำระเงินข้ามพรมแดน (Cross-border payment solutions) ในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้นและประสบการณ์ในการใช้บริการที่ดียิ่งขึ้น
นายบัณฑูร กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างสถาบันการเงินไทยกับ Alibaba.com และ Alipay ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารกสิกรไทยในการก้าวเข้าสู่ตลาดโลกและตลาดผู้บริโภคของจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมกับ อาลีบาบาดอทคอม (alibaba.com) เว็ปไซต์ขายส่งชั้นนำของโลก เพื่อเป็นการขยายช่องทางการตลาดให้กว้างขึ้นสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมกับ อาลีบาบาดอทคอม (alibaba.com) เว็ปไซต์ขายส่งชั้นนำของโลก เพื่อเป็นการขยายช่องทางการตลาดให้กว้างขึ้นสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย
โดยทางอาลีบาบาจะเปิดเป็น thailand zone ขึ้นมา ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าในหมวดการเกษตร อัญมณี เครื่องประดับ สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากไม้ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เพื่อให้ผู้ประกอบการมีช่องทางการนำเสนอสินค้าภายใต้ต้นทุนที่ต่ำ
นายบัณฑูรกล่าวอีกว่า การค้าขายทางออนไลน์นั้นถือเป็นเปลี่ยนรูปแบบการขายที่มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมพร้อมก็คือ ทำสินค้าให้มีมาตรฐานพอที่จะสู้กับคู่ค้าทั่วโลกได้ และทำระบบให้มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากเป็นการค้าขายที่ไม่ได้พบหน้ากัน ทั้ง2สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ
โดยลูกค้าที่เป็นสมาชิกระดับ Verified Member หรือ Gold Supplier จะต้องผ่านการตรวจสอบรับรองจากอาลีบาบา ดอทคอม และหน่วยงานที่สามทำให้ได้รับความเชื่อถือจากผู้ซื้อได้ และสำหรับสมาชิกทั้ง 2 กลุ่มดังกลุ่มดังกล่าว ผ่านธนาคารกสิกรไทย ยังสามารถเข้าร่วมการฝึกอบรมด้านการตลาดออนไลน์ที่จัดโดยอาลีบาบาด้วย โดยกลุ่ม Verified Member จะเสียค่าธรรมเนียม 99 เหรียญสหรัฐฯ และกลุ่ม Gold Supplier เสียค่าธรรมเนียม 950 เหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยยังได้เชื่อมระบบชำระเงิน K-Paymen Geteway กับระบบ Alipay Account เพื่อเป็นตัวกลางในการเรียกเก็บเงินออนไลน์แบบข้ามพรมแดน โดยธนาคารตั้งเป้ามายลูกค้าเข้าร่วมประมาณ 5,000 ราย
"ปัญหาของผู้ซื้อและผู้ขายก็คือต่างไม่มีใครไว้วางกัน และหากไม่มีใครก้าวออกมา ก็ไม่มีธุรกรรมเกิดขึ้น จึงต้องมีตัวกลางเข้ามาทำหน้าที่นี้ นั่นก็คือ Alipay และธนาคารกสิกรไทย โดย Alipay จะทำหน้าที่รับประกัน รอผู้โอนเงินแจ้งการโอน แล้วแจ้งให้ผู้ขายส่งสินค้า หากมีการส่งสินค้า ก็จะจ่ายเงิน ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องจ่ายเงินให้ผู้ขายโดยตรง ผู้ขายก็มั่นใจว่าจะได้ชำระค่าสินค้า ตรงนี้จะช่วยเรื่องความมั่นใจ"
สำหรับ สินเชื่อของธนาคารในปีนี้นั้น น่าจะโตได้ไม่เกิน 2.5% เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดไปครึ่งปี แต่เมื่อช่วงปลายปีติดเครื่องแล้ว ปีหน้าก็น่าจะเร่งเครื่องได้โตได้ 7-8% ตามปกติ ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะเราก็ต้องมีความระมัดระวังอยู่ จากหนี้ครัวเรือนที่ยังมีมากเกินไป เป็นเรื่องยังต้องจับตาอยู่
KASIKORNBANK Teams up with Alibaba.com and Alipay to Enable Thai SMEs to Enter the Global and China Markets through E-commerce
KASIKORNBANK, Thailand’s leading universal banking group, today announced a collaboration agreement with Alibaba.com (www.alibaba.com), the leading platform for global wholesale trade, to help Thai SMEs looking for new customers to introduce their products to the e-commerce marketplace, hence increasing product exposure and export opportunities. KASIKORNBANK also reached an agreement with Alipay (www.alipay.com), a related company of Alibaba.com’s parent company Alibaba Group and China’s largest third-party online payment service provider, to help Thai products enter the robust Chinese consumer market.
Banthoon Lamsam, Chairman of the Board of KASIKORNBANK, revealed that KASIKORNBANK is collaborating with Alibaba.com to help more Thai SMEs reach out to potential buyers from more than 240 countries and regions through Alibaba.com’s online platform. KASIKORNBANK has been committed to SMEs in Thailand for a number of years and this partnership with Alibaba.com will allow KASIKORNBANK customers to access a broader global or domestic market at a limited cost, in industries ranging from agriculture, jewelry, textiles, wooden furniture, food and beverage, cosmetics and skincare.
According to the agreement between KASIKORNBANK and Alibaba.com, Thai businesses can apply for Alibaba.com’s Verified Membership or Gold Supplier membership through KASIKORNBANK, to enjoy various privileges and services on Alibaba.com that will help them gain more business opportunities. Verified Members and Gold Suppliers on Alibaba.com must first pass an authentication and verification process conducted by Alibaba.com or a third party, which allows them to gain buyers’ trust more easily. Businesses applying for those memberships through KASIKORNBANK are entitled to participate in Alibaba.com’s online marketing training for free and enjoy promotion opportunities on the Thailand Channel on Alibaba.com (th.alibaba.com).
"In today’s fast-changing global economy, buyers are faced with shorter product cycles so their requirements also often have to be met instantly. Thai suppliers must adapt to this change in global sourcing in order to fulfill buyers’ demand promptly and stand firm in the competitive export market. We are pleased to work with KASIKORNBANK to enable more Thai SMEs to experience the major advantages of e-commerce – high efficiency and low cost," said Timothy Leung, Head of Business Development, Alibaba.com.
In addition, KASIKORNBANK announced that it has integrated its K-Payment Gateway with the payment system of Alipay to build an online cross-border payment receipt channel for corporate customers of KASIKORNBANK. In response to China’s domestic economic development and increasing interest in foreign goods, Alipay is committed to driving its international business to help foreign brands and retailers get easier access to the Chinese market, in addition to its online and mobile payment services within China. Currently, consumers from more than 200 countries and regions are able to purchase products from Chinese merchants using Alipay, and an increasing number of overseas merchants are leveraging Alipay’s cross-border payment solutions to sell their products and services to Chinese consumers.
With the number of Chinese tourists visiting Thailand reaching 4.7 million in 2013, accounting for 18% of the total number of visitors during the year, according to official tourism statistics, Thailand’s specialty products are well-received by Chinese consumers for their exotic flavor and craftsmanship. With the partnership between Alipay and KASIKORNBANK, Thai merchants can now access an effective channel to sell their products and services to Chinese consumers; meanwhile, Alipay’s individual Chinese users can make use of a payment method they are already familiar with to purchase different types of products from Thai merchants in the comfort of their own homes.
“KASIKORNBANK has been a pioneer of innovation in the commercial banking space of Thailand. Its acute sense of the market together with Alipay’s expertise in online payment will definitely help Thai merchants expand beyond their home market and offer Chinese consumers direct access to authentic Thai products. In the days to come, Alipay and KASIKORNBANK will explore ways to deepen our collaboration to create more businesses opportunities for Thai merchants and deliver a better user experience to Chinese consumers,” said Liang Minjun, Vice President of Alipay International.
Banthoon Lamsam added, “It is the first time a financial institution in Thailand has established cooperation with Alibaba.com and Alipay. The tie-ups are expected to create exciting opportunities for SME customers of KASIKORNBANK to enter the global market as well as access to the burgeoning Chinese consumer market.”