- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Tuesday, 13 May 2014 00:00
- Hits: 3479
เอสเอ็มอีแบงก์ เล็งหั่นเป้าสินเชื่อปีนี้ลงจากเดิมคาดทำได้ 2.7 หมื่นลบ. หลัง Q1/57 มียอดปล่อยกู้เพียง 2.5 พันลบ. เหตุการเมืองกดดัน
นางสาวปาริฉัตร เหล่าธีระศิริวงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า เตรียมปรับเป้าสินเชื่อปีนี้ลงจากเดิมที่คาดว่าจะมียอดการขอสินเชื่อจำนวน 27,000 ล้านบาท หลังจากที่ในไตรมาส 1/2557 ธนาคารมียอดการปล่อยกู้ของสินเชื่อรวมทั้งหมดเพียง 2,500 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองจึงทำให้ไม่กล้าลงทุน ในขณะเดียวกันธนาคารได้มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามธนาคารจะต้องรอดูสถานการณ์ในไตรมาสที่ 2 ว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีทิศทางเป็นอย่างไร
"ยอดสินเชื่อปีนี้ ตั้งไว้ที่ 27,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการทบทวนปรับลดยอดการขอสินเชื่อในส่วนของปีนี้ลง หลังจากที่ไตรมาส 1 มียอดการขอสินเชื่อเพียง 2,500 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการยังมีความกังวลไม่กล้าลงทุน รวมถึงธนาคารได้เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 จะขอรอดูภาวะเศรษฐกิจจะมีทิศทางเป็นอย่างไร" นางสาวปาริฉัตร กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการตามแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งเป้าจะมียอดการขอสินเชื่อใหม่จำนวน 8,000 ล้านบาท
ทางด้าน ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการตามแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 8,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มขีดความสามารถในด้านการแข่งขัน โดยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการให้สินเชื่อจากเดิมที่จะใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน แต่ในโครงการนี้จะมีเรื่องการพิจารณาความมุ่งมั่นในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ รวมถึงลิขสิทธิ์ทางปัญญาเข้ามาพิจารณาในการขอสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย ซึ่งทางบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) จะเป็นผู้ค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักประกัน
นอกจากนี้ คณะกรรมธนาคารได้มีมติเห็นชอบโครงการพิเศษ’มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นสำหรับลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการชุมนุมทางการเมือง’ โดยเป็นลูกค้าปกติของธนาคาร ที่มีวงเงินกู้รวมไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย จะได้รับความช่วยเหลือ จากธนาคาร โดยเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้เงินต้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้น
“จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ได้ส่งผลกระทบอย่างมากกับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าธนาคาร ดังนั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้มีเงินเหลือหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องธุรกิจ ธนาคารจึงออกมาตรการดังกล่าวช่วยผู้ประกอบการ ให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และจะส่งผลเชิงบวกต่อการรักษาการจ้างงาน และสร้างรายได้ต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่ในกลุ่มที่จะได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการนี้ประมาณ 30,700 ราย คิดเป็นเงินรวมประมาณ 23,000 ล้านบาท”นางสาวปาริฉัตร กล่าว
สำหรับลูกค้าธนาคารที่สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการ ‘มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นสำหรับลูกหนี้ รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการชุมนุมทางการเมือง’ดังกล่าวของธนาคาร ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 หรือติดต่อได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร 1357