- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 09 March 2017 21:36
- Hits: 9544
แบงก์ธนชาต วางเป้าปี 60 สินเชื่อบ้านโตมากกว่า 10% พร้อมขยายฐานบัตรเครดิต-ยอดใช้จ่ายโต 10%
นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อบ้านในปี 60 ขยายตัวเป็นตัวเลขสองหลัก หรือขยายตัวมากกว่า 10% โดยยังคงเปิดกว้างให้กับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา ตั้งแต่ระดับล่างไปถึงระดับบน พร้อมกับการทำแคมเปญร่วมกับผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดให้ผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยกับผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หันมาขอสินเชื่อกับธนาคารมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของสินเชื่อบ้านในปีนี้
ปัจจุบัน พอร์ตสินเชื่อบ้านของธนาคารมีมูลค่าอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่เศรษฐกิจในประเทศยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ทำให้เห็นการพิจารณาสินเชื่อให้กับลูกค้ายังคงมีความเข้มงวดในระดับหนึ่งเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับโอกาสการเกิดหนี้เสียขึ้นในอนาคต ดังนั้น ธนาคารจึงยังคงจะต้องมีการระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่ออย่างรอบคอบ รวมถึงการขอเอกสารบางอย่างเพิ่มเติมจากลูกค้าที่ยื่นขอกู้ เพื่อทำให้ธนาคารมีความมั่นใจในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น
ปัจจุบัน อัตราการอนุมัติสินเชื่อบ้านของธนาคารอยู่ที่ 50% ขณะที่อัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่บ้านของธนาคารยังอยู่ในระดับเดียวกันที่ 50% โดยธนาคารได้ใช้ระบบเครดิตสกอริ่งของธนาคารโนวาสโกเทียที่เป็นผู้ถือหุ้นมาใช้ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ซึ่งทำให้อัตราการอนุมัติสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้นจากเดิมอัตราอยู่ที่ 30% และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้านลดลงจาก 70%
ขณะเดียวกัน ธนาคารจะพยายามควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อบ้านในปีนี้ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2% เท่ากับสิ้นปีก่อน โดยธนาคารจะต้องมีการติดตามสถานการณ์ของลูกค้าทุกรายทุกเดือน เพื่อดูแนวโน้มการชำระหนี้ของลูกค้าว่ายังเป็นปกติหรือไม่ โดยในช่วง 2 เดือนท่ผ่านมาลูกค้าที่กู้สินเชื่อบ้านยังคงชำระหนี้ตามปกติ และยังไม่เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น
นางธีรนุช กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจบัตรเครดิตในปี 60 ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรมากกว่า 10% จากสิ้นปี 59 ที่มีจำนวนฐานลูกค้าบัตร 500,000 ใบ โดยปีนี้จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท/เดือนขึ้นไป เพราะในภาวะที่เศรษฐกิจยังคงชะลอตัวอยู่ธนาคารมองว่ากลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ต่ำยังมีความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้หากเกิดการใช้จ่ายมากจนเกินไป และธนาคารต้องการเพิ่มฐานลูกค้าที่มีรายได้สูง เพื่อทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตามและได้กลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพเข้ามามากขึ้น
ธนาคารตั้งเป้ายยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปีนี้เติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อนที่มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 20,000-30,000 บาท/บัตร/เดือน ซึ่งในปีนี้ธนาคารยังคงเดินหน้าทำแคมเปญร่วมกับพันธมิตรร้านค้าต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการให้สิทธิพิเศษ Cash Back ให้กับลูกค้าตามยอดการใช้จ่ายที่ธนาคารกำหนด เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร และยังคงร่วมทำโปรโมชั่นผ่อนกับร้านพันธมิตรในการให้สิทธิผ่อน 0% ในการซื้อสินค้าและบริการต่างๆของร้านที่ร่วมกับธนาคาร ซึ่งการผ่อน 0% เป็นโปรโมชั่นที่ลูกค้าให้ความสนใจ ย่างมาก และช่วยเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นได้
ส่วนแนวโน้ม NPL ของธุรกิจบัตรเครดิตในปีนี้ ธนาคารจะพยายามควบคุมให้ไม่เกินระดับ 3% จากปีก่อนอยู่ที่ 2-3% โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาลูกค้าที่ชำระค่าบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะเป็นการชำระเต็มจำนวน หรือการเลือกผ่อน 0% มากกว่า ซึ่งในขณะนี้ธนาคารยังไม่มีความกังวลในเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้าบัตรเครดิตมากนัก
ด้านธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 60% ธนาคารตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 10% โดยพบว่าในช่วง 1-2 เดือนของปีนี้ที่ผ่านมาความต้องการใช้เงินสินเชื่อส่วนบุคคลของลูกค้าได้ชะลอตัวลงไป คาดว่าจะมาจากการที่ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ทำให้ลูกค้าไม่อยากเพิ่มหนี้สินและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารที่ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อบุคคลมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต และเป็นการควบคุมให้ระดับ NPL ของสินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 5% จากปีก่อน 4-5%
อินโฟเควสท์