- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Friday, 20 January 2017 22:12
- Hits: 10249
กรุงศรีสร้างสถิติกำไรสุทธิ 21.4 พันล้านบาท สินเชื่อเติบโต 11.2% ในปี 2559
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลกำไรสุทธิแข็งแกร่งสำหรับปี 2559 อยู่ที่ 21.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% จากปี 2558 ขณะเดียวกันสินเชื่อเติบโตสูงถึง 11.2% สูงกว่าเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อที่ 8-9% ทั้งนี้ ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ต้นทุนการเงินที่ปรับดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนของธนาคาร
สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับปี 2559
· การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 11.2% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 145.4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 และเพิ่มขึ้น 3.2% คิดเป็นจำนวน 44.9 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนกันยายน 2559
· การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 5.9% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 62.0 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 และเพิ่มขึ้น 2.1% หรือจำนวน 22.7 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนกันยายน 2559
· กำไรสุทธิ: เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% จากปี 2558
· ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.74%
· รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 11.7% จากปี 2558 ปัจจัยขับเคลื่อนมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากธุรกิจบริการบัตรและรายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกัน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ กำไรจากเงินลงทุนและรายได้จากหนี้สูญรับคืน
· อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 47.1% ระดับเดียวกับในปี 2558
· สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ที่ 2.21% ปรับดีขึ้นจาก 2.24% ในปี 2558 นับเป็นระดับต่ำที่สุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย
· อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 143.3%
· อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 14.2%
เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 11.2% หรือจำนวน 145.4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้การเติบโตของเงินให้สินเชื่อในปี 2559 ปัจจัยหลักมาจากสินเชื่อรายย่อยซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 15.9% จากความต้องการสินเชื่อรายย่อยที่ครอบคลุมทุกประเภท ในสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และการรวมสินเชื่อของ Hattha Kaksekar Limited (HKL) จากความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ HKL โดยการซื้อหุ้นในอัตราส่วน 100% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในเดือนกันยายน 2559 ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 8.0% และ 6.5% ตามลำดับ
เงินรับฝากเพิ่มขึ้น 5.9% หรือจำนวน 62.0 พันล้านบาทจากสิ้นเดือนธันวาคม 2558 การเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากส่วนใหญ่เป็นผลจากเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และเงินรับฝากจาก HKL ทั้งนี้ สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายเงินคืนเมื่อทวงถามต่อสัดส่วนเงินรับฝากทั้งหมดอยู่ที่ 52.7% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 3.74% ในปี 2559
อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.21% ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 143.3%
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและภาคต่างประเทศที่เปราะบางในปี 2559 กรุงศรีก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนธุรกิจระยะกลางที่ตั้งเป้าไว้ ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง สินเชื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งสามารถขยายธุรกิจไปในต่างประเทศด้วยความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ HKL ในกัมพูชา ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อเติบโตถึง 11.2% ขณะที่กำไรสุทธิทำสถิติสูงถึง 21.4 พันล้านบาท ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นนี้สะท้อนศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันซึ่งเกิดจากการผสานพลังทางธุรกิจร่วมกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ของกรุงศรี”
นายโกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจในปี 2560 ว่า “กรุงศรีคาดว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะมีความต่อเนื่องและครอบคลุมในทุกภาคส่วน โดยเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 3.3% โดยมีการลงทุนของภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ กอปรกับการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน ภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต ผนวกกับความแข็งแกร่งของ MUFG ธนาคารตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อรวมที่ 6-8% สะท้อนความรอบคอบในการบริหารความเสี่ยง”
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในไทยมีสินเชื่อรวม 1.45 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.11 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.88 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 191.1 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 14.2% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.8%
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 70 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 695 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 658 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 30,800 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 8.0 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย
กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 2,000 แห่ง ราว 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 140,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้งธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก