WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BAYโนรอากกรุงศรี รายงานกำไรสุทธิเก้าเดือนแรกปี 2559 แข็งแกร่งที่ 16.2 พันล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 20.1%

     กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 16.2 พันล้านบาทสำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2559 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 20.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากความสามารถในการเดินตามยุทธศาสตร์ที่วางแผนไว้ และในไตรมาสนี้การเข้าซื้อกิจการของ Hattha Kaksekar Limited (HKL) สถาบันไมโครไฟแนนซ์ชั้นนำในกัมพูชาก็ได้เสร็จสมบูรณ์ด้วย

       สำหรับ เก้าเดือนแรกของปี 2559 เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงถึง 7.7% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 100.5 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้ หากไม่รวมสินเชื่อของ HKL เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 6.6% ในเก้าเดือนแรกของปี 2559

      สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาส 3 ของปี 2559

·        การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มสูงขึ้น 7.7% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 100.5 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 และเพิ่มขึ้น 3.4% คิดเป็นจำนวน 45.6 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2559

·        การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 3.8% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 39.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 และเพิ่มขึ้น 2.2% หรือจำนวน 23.4 พันล้านบาท จากสิ้นเดือนมิถุนายน2559

·        กำไรสุทธิ: เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2559 และเพิ่มขึ้น 20.1% เทียบกับไตรมาส 3/2558

·        ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.77% เทียบกับ 3.82% ในไตรมาส 2/2559 จากผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ปรับลดลง ขณะที่ต้นทุนทางการเงินยังคงปรับดีขึ้นต่อเนื่อง

·        รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 12.6% เทียบกับไตรมาส 2/2559  ปัจจัยหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม จากหนี้สูญรับคืนและกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ

·        อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 46.2% ปรับลดลงเล็กน้อยจาก 46.3% ในไตรมาส 2/2559

·        สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ระดับต่ำที่ 2.10%

·        อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 152.3%

·        อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 14.8% เพิ่มขึ้นจาก 13.8% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 ปัจจัยหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของเงินกองทุนชั้นที่ 2 จากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิมูลค่า 10,000 ล้านบาท

      เงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.40 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ในเก้าเดือนแรกของปี 2559 เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงถึง 7.7% หรือจำนวน 100.5 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้หากไม่รวมสินเชื่อของ HKL เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 6.6% ในเก้าเดือนแรกของปี 2559 สินเชื่อเพื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 11.2% นับจากสิ้นเดือนธันวาคม 2558 จากความต้องการสินเชื่อที่ครอบคลุมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้น 5.3% และ 4.6% ตามลำดับ

      เงินรับฝากมีจำนวนทั้งสิ้น 1.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 39.3 พันล้านบาท หรือ 3.8% จากเดือนธันวาคม 2558 การเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากส่วนใหญ่เป็นผลจากเงินรับฝากออมทรัพย์และเงินรับฝากของ HKLหากไม่รวมเงินรับฝากของ HKL เงินรับฝากเพิ่มขึ้น 2.6% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2558 และเพิ่มขึ้น 1.1% จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2559

       ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในเก้าเดือนแรกของปีอยู่ที่ 3.76%

       อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.10% ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 152.3% สะท้อนความรอบคอบในการบริหารความเสี่ยงและความพยายามในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพ

      นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2559 นอกเหนือจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแล้ว กรุงศรีสามารถเดินตามยุทธศาสตร์ขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนที่วางไว้จนเกิดผลสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ HKL ซึ่งส่งผลให้กรุงศรีมีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมในกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมาร์

      นายโกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวมว่า สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี 2559 กรุงศรี คาดว่า เศรษฐกิจจะยังคงมีปัจจัยสนับสนุนต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจไม่ครอบคลุมในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ปัจจัยด้านฤดูกาลที่ขับเคลื่อนความต้องการสินเชื่อทั้งในส่วนของสินเชื่อเพื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจ กรุงศรีจึงปรับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อของทั้งปี 2559 จาก 5-6% เป็น 8-9% (รวมธุรกิจสินเชื่อของ HKL)”  

      ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในไทยมีสินเชื่อรวม 1.40ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.09 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.83 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 191.5 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 14.8% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 12.2%

เกี่ยวกับกรุงศรี

       กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 70 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ

         ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 686 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 649 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 29,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 7.8 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย

       กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริตโดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)

      มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 2,000  แห่ง ราว 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 140,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้งธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน  MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!