WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KBANK มั่นใจปีนี้รายได้ค่าธรรมเนียมโต 10% ชงปลดล็อคสมการศก.ขับเคลื่อนธุรกิจ

    นายวศิน วณิชยวรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดว่าในปีนี้ธนาคารจะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโต 10%ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารไม่น้อย 24 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ

    สำหรับ ทิศทางเศรษฐกิจและธุรกิจไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวจากสัญญาณที่มีนัยสำคัญ คือ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 พร้อมจัดทำงบประมาณปี 2558 ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 การเร่งอนุมัติโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ (BOI) มูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท และการช่วยเหลือเกษตรกรเรื่องการคืนเงินโครงการจำนำข้าวแก่ชาวนาจำนวน 9.2 หมื่นล้านบาท

     ทั้งนี้ เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังขยายตัวได้ 4.3% มีผลทำให้เฉลี่ยทั้งปี 57 เศรษฐกิจจะเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 1.8% เป็น 2.3% ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อปัจจัยหลักของการเติบโตผลผลิจมวลรวมในประเทศ(GDP) ได้แก่ การใช้จ่ายของภาครัฐ การลงทุนของภาคเอกชน การบริโภคของประชาชน ส่วนการส่งออกสุทธิที่เป็นปัจจัยที่ 4 ในการเติบโตของ GDP จะสามารถกระเตื้องขึ้นได้เป็น 3% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่าปี 56 ที่ติดลบอยู่ 0.2%

    ด้านการใช้จ่ายของภาครัฐส่งผลให้มีเม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบซึ่งส่งผลเชิงบวกโดยตรงต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีโครงการที่น่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปี 57-58 มูลค่ารวมประมาณ 4.8 แสนล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่เกี่ยวกับเส้นทางคมนาคมเป็นหลัก ได้แก่ โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟสสอง การปรับปรุงสนามบินดอนเมือง รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นต้น

   ทิศทางเชิงบวกของโครงสร้างพื้นฐานประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลต่อการลงทุนของภาคเอกชน ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวขึ้นได้โดยมีอัตราการเติบโตที่ 5.8% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกทม.และปริมณฑล จะขยายตัวถึง 3.4% จากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 13.1%

   ขณะที่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในช่วงครึ่งปีหลังก็จะเพิ่มสูงขึ้นจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งของเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบนี้ได้มาจากการจ่ายค่าค้างชำระโครงการจำนำข้าวให้แก่ชาวนามูลค่า 9.2 หมื่นล้านบาท ดันให้ธุรกิจค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตตามกันไป เนื่องจากมีอุปสงค์หรือความต้องการของผู้บริโภคในตลาดกลับเข้ามา จะเห็นได้จากตัวอย่างการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทเครื่องดื่มที่ธนาคารเป็นผู้รับดำเนินการที่สามารถทำราคาในการเข้าตลาดหุ้นสูงกว่าเป้าหมายและได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันที่จองหุ้นล้นหลามมากถึง 18 เท่าของจำนวนหุ้นที่เปิดขาย ซึ่งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีมูลค่าตลาดกว่า 1.8 ล้านล้านบาท และยังสามารถเติบโตได้อีกมาก

    นอกจากนี้ ธุรกิจค้าปลีกยังเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงหลังของปี การเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าใหม่ๆและโครงการยักษ์ใหญ่ที่จะเปิดตัวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหลายโครงการก็เร่งดำเนินการกันต่อเพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ทันกับความต้องการและศักยภาพการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค

    ส่วนภาคการส่งออกแม้จะมีการปรับประมาณการเติบโตของปี 57 ลดลงจาก 5% เป็น 3% แต่ยังถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในครึ่งปีหลัง เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยอุตสาหกรรมหลักที่ผลักดันการส่งออกได้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการคาดการณ์การเติบโตที่ 12% ในครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่เติบโตเพียง 3% ทั้งนี้ยังมีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รออนุมัติอีกกว่า 4 แสนล้านบาทในปีนี้ ซึ่งหากสามารถผลักดันโครงการต่างๆออกมาได้อย่างรวดเร็วจะช่วยให้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังสดใสยิ่งขึ้นไปอีก

KBANK คงเป้าสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้โต 5% มองสินเชื่อเพื่อการส่งออกจะเป็นพระเอกในช่วงครึ่งปีหลัง

     KBANK คงเป้าสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้โต 5% มองสินเชื่อเพื่อการส่งออกจะเป็นพระเอกในช่วงครึ่งปีหลัง รายได้จากค่าธรรมเนียมทั้งปีน่าจะเติบโต 10% ประเมินจีดีพีทั้งปีโต 2.3% เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.6% 

    นายวศิน วณิชยวรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารมั่นใจว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ตามเป้า และส่งผลให้ทั้งปีเติบโต 5% มาอยู่ที่ 4.4 แสนล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่โต 2% หรือมียอดสินเชื่อคงค้าง 4.28 แสนล้านบาท โดยการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีเป็นระดับที่เหมาะสมตามสภาพเศรษฐกิจ บนสมมติฐานจีดีพีทั้งปีโต 2.3% เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.6%               

    โดยสินเชื่อที่จะเติบโตได้ดีและเป็นแรงขับเคลื่อนในครึ่งปีหลัง คือสินเชื่อเพื่อการส่งออกและนำเข้า กลุ่มเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ไก่ ข้าว และยางพารา นอกจากนั้นเป็นการลงทุนต่อเนื่องประเภทอื่นๆอีกเล็กน้อย เช่น โรงไฟฟ้า ด้านสื่อสาร และธุรกิจด้านการขนส่ง และการลงทุนประเภทโมเดิร์นเทรด เช่น ห้างสรรพสินค้า                 

     นายวศิน กล่าวต่อว่า แม้จะมีมุมมองบวกกับเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้การลงทุนต่างๆ ที่อั้นไว้ในช่วงครึ่งปีแรกทยอยเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าการลงทุนใหม่ๆ จะยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมมากนัก ยกเว้นในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะเห็นความชัดเจน เนื่องจากผู้ประกอบการมีโครงการที่เตรียมจะเปิดขายอยู่แล้วในช่วงครึ่งปีแรกเพียงแต่รอจังหวะ เมื่อเศรษฐกิจครึ่งปีหลังดีขึ้นก็จะมีการเปิดตัวได้ในทันที พร้อมกับโปรโมชั่นต่างๆ ที่ทยอยตามออกมา ทำให้ส่งผลบวกไปยังธุรกิจวัสดุก่อสร้างด้วย ทำให้ธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อรายใหญ่ที่ 5% โดยไม่มีการปรับขึ้น                  

    "เราคงยังไม่ปรับเพิ่มเป้าหมายสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้ คิดว่า 5%เป็นระดับที่เหมาะสม เนื่องจากการลงทุนใหญ่ๆในครึ่งปีหลังยังไม่เกิดขึ้นมากเท่าไหร่ ที่จะมีคงจะเป็นสินเชื่อเพื่อการส่งออกและนำเข้า เราจึงยังคงเป้าไว้ที่ 3%"นายวศิน กล่าว                    

     ในขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนียมทั้งปีน่าจะเติบโต 10% ตามเป้าหมาย โดยในครึ่งปีหลังนอกเหนือจากธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารกสิกรไทยที่จะยังคงมีอยู่ต่อเนื่องไม่น่าจะต่ำกว่า 24 ล้านล้านบาท แต่ยังรวมถึงการมีดีลใหญ่จากลูกค้าในด้านของงานวาณิชธนกิจซึ่งต่างจากครึ่งปีแรกที่ชะลอตัว โดยดีลใหญ่ๆที่จะเกิดขึ้น เช่น การเป็นอันเดอร์ไรท์หุ้น หรือการสนับสนุนทางด้านการเงินให้กับบริษัทขนาดใหญ่ จากแรงส่งเหล่านี้จะทำให้ทั้งปีรายได้ค่าธรรมเนียมจะเป็นไปตามเป้าแน่นอน                       

   "เราคงบอกชัดๆ ไม่ได้ว่าจะมีดีลอะไรบ้างทางด้านงานวาณิชธนกิจ เพราะว่าหลากหลาย แต่ที่จะเห็นอย่างเช่นกอง REIT น่าจะออกได้ในครึ่งปีหลัง รวมทั้งการเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการ หรือการไปรุกตลาดในต่างประเทศของลูกค้า รวมถึงการออกตราสารใหม่ๆ เป็นต้น" นายวศิน กล่าว                      

    ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังธุรกิจที่โดดเด่น ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีโครงการขนาดใหญ่เกินหมื่นล้านบาทออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งธนาคารยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจเกษตร โดยเฉพาะในส่วนของมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับมันสำปะหลัง อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะแผ่น ECB ที่ต้องใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์

    สำหรับ เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง คาดเติบโต 4.3% หลังจากได้สัญญาณบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.โดยเฉพาะการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 57(ต.ค.56-ก.ย.57)และการจัดทำงบประมาณปี 58(ต.ค.57-ก.ย.58) และ การเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา ซึ่งจะทำให้ทั้งปีจีดีพีโต 2.3%ปรับขึ้นจากเดิมที่คาดทั้งปีโต 1.8% ส่วนอุตสาหกรรมเด่น ได้แก่ รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และยานยนต์

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!