- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 03 February 2016 22:01
- Hits: 3115
ธอส.เฮออมสินให้กู้ดบ. 2.29%-วงเงินไม่จำกัด
แนวหน้า : นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เจรจา เงินกู้จากธนาคารออมสินให้ ธอส. เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อ ให้กับผู้มีรายได้น้อยซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านประชารัฐเฟสแรก ที่จะเปิดตัวเดือน มี.ค. นี้ โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ธนาคารออมสินจะปล่อยกู้ให้กับ ธอส. ในอัตราดอกเบี้ย 2.29% จากเดิม 2.9% โดยธนาคารออมสินจะไม่จำกัดเพดานเงินกู้ โดยเบื้องต้น ธอส. จะขอกู้ 5 หมื่นล้านบาท หากไม่พอจะขอกู้เพิ่มเติม โดยการกู้เงินครั้งนี้ จะเป็นรูปแบบธนาคารออมสินนำเงินมาฝากที่ ธอส.
สำหรับ การปล่อยกู้ให้ผู้ซื้อบ้านประชารัฐ ของ ธอส. จะปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่มาซื้อบ้านประชารัฐเฟสแรกในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2% เป็นเวลา 5 ปี โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับ ธอส. ปีละ 1% จากเดิมจะชดเชยให้แค่ 3 ปี แต่ ธอส. ขอให้ขยายเวลาเป็น 5 ปี เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยไม่มีภาระผ่อนบ้านในระยะเริ่มต้นมากไป หลังจากนั้นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย
"การปล่อยกู้โครงการบ้านประชารัฐ จะเป็นการ เปลี่ยนรูปแบบของการปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อยของประเทศครั้งใหม่ จะเป็นประโยชน์กับสังคมและเศรษฐกิจอย่างมาก" นายสุรชัย กล่าว
นายสุรชัย กล่าวว่า โครงการบ้านประชารัฐเฟสแรก ธอส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จะนำบ้านที่เป็นสินทรัพย์รอการขาย ร่วมกับผู้ประกอบการที่จะนำที่อยู่อาศัยราคาไม่ได้แพงมาก มาเข้าร่วมโครงการ ให้กับ ผู้มีรายได้น้อยมาซื้อกว่า 1,500 รายการ
สำหรับ การสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมเอกสารตามที่คณะกรรมการสรรหาเสนอชื่อคนที่เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ บรรจุในวาระการประชุมคณะกรรมการของธนาคารประมาณ วันที่ 20 ก.พ. นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติเห็นชอบ เพื่อมา ขับเคลื่อนการบริหารของธนาคาร เนื่องจากมีโครงการที่ต้องสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลอีกหลายเรื่องต้องดำเนินการ
ธอส.ใจดีคิดดอก 2%นาน 5 ปี ปล่อยกู้บ้านประชารัฐมั่นคงรุกอสังหาให้เช่า
ไทยโพสต์ *ธอส.ปล่อยกู้บ้านประชารัฐเฟสแรก เคาะดอกเบี้ย 2% ระยะเวลา 5 ปี ชี้พลิกประวัติศาสตร์การปล่อยกู้ ฟากมั่นคงเคหะการฯ รุกธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่า พร้อมเปิดตัว 5 โครงการใหม่ปีนี้ ลุ้นรายได้ 4.1 พันล้าน
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เจรจาเงินกู้จากธนา คารออมสิน ให้ ธอส.เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อให้กับผู้มีรายได้น้อยซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านประชารัฐเฟสแรกที่จะเปิดตัวเดือน มี.ค.นี้ โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินจะปล่อยกู้ให้กับ ธอส.ในอัตราดอกเบี้ย 2.29% จากเดิม 2.9% โดยธนาคารออมสินจะไม่จำกัดเพดานเงินกู้ โดยเบื้องต้น ธอส.จะขอกู้ 5 หมื่นล้านบาท หากไม่พอจะขอกู้เพิ่มเติม โดยการ กู้เงินครั้งนี้จะเป็นรูปแบบธนา คารออมสินนำเงินมาฝากที่ ธอส.
สำหรับ การปล่อยกู้ให้ผู้ซื้อบ้านประชารัฐ ธอส.จะปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่มาซื้อบ้านประชารัฐเฟสแรกในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2% เป็นเวลา 5 ปี โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับ ธอส.ปีละ 1% ซึ่งเดิมจะชดเชยให้แค่ 3 ปี แต่ ธอส.ขอให้ขยายเวลาเป็น 5 ปี เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยไม่มีภาระผ่อนบ้านในระยะเริ่มต้นมากไป หลังจากนั้นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย
"การปล่อยกู้โครงการบ้านประชารัฐ จะเป็นการเปลี่ยน รูปแบบของการปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อยของประเทศครั้งใหม่ จะเป็นประโยชน์กับสังคมและเศรษฐกิจอย่างมาก" นายสุรชัยกล่าว
นายสุรชัย กล่าวอีกว่า โครงการบ้านประชารัฐเฟสแรกนั้น ธอส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) จะนำบ้านที่เป็นสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ร่วมกับผู้ประกอบการที่จะนำที่อยู่อาศัยราคาไม่ได้แพงมาก มาเข้าร่วมโครงการให้กับผู้มีรายได้น้อยมาซื้อกว่า 1.5 พันราย การ
ด้าน นายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.มั่นคงเคหะการ หรือ MK เปิดเผยว่า ในปี 2559 มีแผนการดำเนินงานโดยได้วางกลยุทธ์การเติบโตด้วยแผนรุกทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย และธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและการบริการ โดยตั้งเป้าทั้ง 2 ธุรกิจมีสัดส่วนรายได้ 50:50 ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายจะรุกตลาดแนวราบเป็นหลัก และบริหารสัดส่วนรายได้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายให้อยู่ระดับการเติบโตประมาณ 15% ต่อปี
ในส่วนของธุรกิจอสัง หาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและการบริการนั้นคาดจะเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโครงการพัฒนาคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ในเขตปลอดอากรและเขตทั่วไป และมีแผนการพัฒนาโครงการพาร์ค คอร์ท ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์เจาะตลาดบนและกลุ่มต่างชาติที่จะเข้ามาเพิ่มรายได้ระยะยาว โดยตั้งเป้ารายได้ 4,100 ล้านบาทภายในปีนี้ พร้อมทั้งตั้งเป้าภายใน 5 ปีจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และมีกำไรไม่ต่ำกว่าปีละ 900 ล้านบาท
สำหรับ แผนพัฒนาโครงการของบริษัทในปีนี้ โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวโครง การใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่ากว่า 3,200 ล้านบาท อาทิ โครงการชวนชื่นแกรนด์ ราชพฤกษ์และโครงการ ชวนชื่น แกรนด์ เอกชัย-บางบอน.