- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 21 January 2016 22:09
- Hits: 4711
TMB มีกำไรจากการดำเนินงานดีขึ้น 20% ในปี 2558 เพิ่มสำรองฯ เพื่อความแข็งแกร่งกำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย 2% จากปีที่แล้ว อัตราส่วนสำรองยังสูงที่ 142%
ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการปี 2558 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯ จำนวน 16,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองฯอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงเป็นจำนวน 5,479 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 59% ทำให้มีกำไรสุทธิที่ 9,333 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.99% ขณะที่อัตราส่วนสำรองต่อ NPL ยังอยู่ในระดับสูงที่ 142%
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีเอ็มบี กล่าวว่า “เงินฝากในปี 2558 เพิ่มขึ้น 13% ซึ่งเป็นที่น่าพอใจและธนาคารยังประสบความสำเร็จในการเพิ่มฐานเงินฝากธุรกรรมทางการเงิน (Transactional Deposit) อันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารได้ให้ความสำคัญในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สร้างประโยชน์อย่างแท้จริงต่อลูกค้า ในขณะเดียวกัน ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อคุณภาพ (Performing Loan) ได้ 9% จากปีก่อนหน้า ตามการขยายตัวของทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางและสินเชื่อรายย่อย ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของธนาคาร”
การเพิ่มขึ้นของฐานเงินฝากธุรกรรมทางการเงินส่งผลให้ธนาคารสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี และทำให้มีส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (Net Interest Margin: NIM) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2558 เป็น 3.0% และมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัวต่อเนื่องที่ 22% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากผลิตภัณฑ์กองทุนรวมซึ่งเพิ่มขึ้น 46% โดยธนาคารได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมชั้นนำหลายแห่ง (Open Architecture) เพื่อเพิ่มความหลากหลายของกองทุนรวมซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์เพิ่มขึ้น 44% ซึ่งในปีนี้ธนาคารพัฒนาผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น
รายได้รวมของธนาคารในปี 2558 อยู่ที่ 33,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานมีจำนวน 16,467 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเพียง 4% ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธนาคารส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯ เพิ่มขึ้น 20% มาอยู่ที่ 16,937 ล้านบาท
ทั้งนี้ สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) มีจำนวน 20,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,380 ล้านบาท ทำให้สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.99% เมื่อเทียบกับ 2.85% ณ สิ้นปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามที่ธนาคารคาดการณ์
ในปี 2558 ธนาคารตั้งสำรองจำนวน 5,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,042 ล้านบาท หรือ 59% เพื่อคงสัดส่วนสำรองฯต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ให้อยู่ในระดับสูงที่ 142% ในสถานการณ์ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง หลังตั้งสำรองฯ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 9,333 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2% จาก 9,539 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงดำรงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ภายใต้เกณฑ์ Basel III ที่อัตรา 16.7% โดยเป็นกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ในสัดส่วน 11.3% ซึ่งมากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.5% และ 6.0% ตามลำดับ
นายบุญทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า โดยในปี 2559 ธนาคารจะมุ่งเน้นการมอบบริการดิจิตอลแบงกิ้งที่ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตเต็มที่ในแบบที่ต้องการและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้บริการของธนาคาร”
TMB reports 20% stronger core operating profit
• Strengthened provisions leads to a slight decline in net profit of 2%
• Coverage ratio remains strong at 142%
TMB announced today the financial results for the fiscal year 2015. The Bank and its subsidiaries reported a pre-provision operating profit (PPOP) of THB16,937 million, an increase of 20% compared to 2014. Provision was set conservatively at THB5,479 million, an increase of 59%. As a result, net profit reported at THB9,333 million, a slight decrease of 2% from previous year. NPL ratio rose slightly to 2.99% while NPL coverage ratio remained high at 142%.
Mr.Boontuck Wungcharoen, TMB CEO, said “TMB’s deposit increased satisfactorily by 13% in 2015. The Bank also successfully expanded transactional deposit base. Such success was a consequence of well-crafted products that offer real benefit to customers. At the same time, performing loan grew by 9% from corporate, medium-sized SME and retail loan lending.”
Transactional deposit growth allowed the Bank to improve its deposit cost and resulted in better net interest margin (NIM) at 3.0%. Thus, net interest income (NII) grew by 8% from last year. Non-interest income continued to increase by 22% compared to previous year. The main drivers were 1) 46% growth of fees income from mutual fund sales, which was attributed to the Bank’s Open-architecture platform where TMB joined hands with leading asset management companies to offer a wider range of mutual fund selections to all customers; and 2) 44% growth of fees income from bancassurance. In 2015, the Bank added more choices of bancassurance products which have been designed to meet the needs of customers in different segments.
The Bank’s total revenue was THB33,450 million, an 12% increase compared to last year, while expenses rose only 4% to THB16,467 million, due to the overall efficiency improvement efforts. PPOP, as a result, increased by 20% to THB 16,937 million.
Non-performing loans (NPLs) reported at THB20,473 million, increased by THB2,380 million. The Bank’s NPL ratio, therefore, increased slightly from 2.85% to 2.99%, which was in line with the Bank’s expectation.
In 2015, the Bank set aside provision of THB5,479 million, increased by THB2,042 million or 59% to retain coverage ratio at high level at 142% in light of fragile economic recovery. After provisions, net profit reported at THB9,333 million, a slight decrease of 2% from THB9,539 million.
The Bank had a strong financial position with capital adequacy under BASEL III at 16.7% and Tier 1 at 11.3% at the end of December 2015, well above Bank of Thailand’s minimum requirements of 8.5% and 6.0% respectively.
Mr.Boontuck added that “The Bank’s performance continuously improved due to our sustained commitment to delivering the products that meet the real needs of customers. In 2016, TMB’s focus is on digital banking service which is adapted to cater to the lifestyles of customers in all segments so that all of our customers can live their lifestyles and gain maximised benefits from the Bank.”