- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 21 January 2016 09:42
- Hits: 1813
ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิปี 2558 จำนวน 34,181 ล้านบาท
แม้ว่า เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงด้านต่างๆ แต่เงินให้สินเชื่อของธนาคารยังคงเติบโตร้อยละ 4.9 ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อเป็นร้อยละ 2.8 ซึ่งอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเติบโตร้อยละ 10.8 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานที่ร้อยละ 43.8
ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2558 จำนวน 34,181 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.9 เมื่อเทียบกับปี 2557 โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานจำนวน 102,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 และมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานจำนวน 45,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5
ในปี 2558 เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากผลกระทบของภาคการส่งออกที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะจีน การลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชนที่ยังอ่อนแอ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงปัญหาภัยแล้ง อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวยังคงเติบโตได้ดี ขณะที่ภาครัฐได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาสภาพเศรษฐกิจและได้เร่งดำเนินการตามแผนการลงทุน นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,868,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86,670 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 จากสิ้นปีก่อน โดยเติบโตจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายกลาง สินเชื่อลูกค้าบุคคล และสินเชื่อกิจการธนาคารต่างประเทศ
ธนาคารยังคงเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมพร้อมทั้งให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเสมอมา ส่งผลให้สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 56,226 ล้านบาท ลดลงจาก ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 ที่ 58,112 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ร้อยละ 2.8 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558
ธนาคารยึดหลักความระมัดระวังด้วยการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญอย่างสม่ำเสมอ สำหรับปี 2558 ธนาคารมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 14,654 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อรวมที่ร้อยละ 5.6
ด้านสภาพคล่อง ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 จำนวน 2,090,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32,186 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.6 จากสิ้นปี 2557 โดยมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 89.4 ณ สิ้นปี 2558 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 86.6 ณ สิ้นปีก่อน เนื่องจากเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินรับฝาก ในขณะที่สัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อเงินรับฝากรวมอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 43.4 ทั้งนี้ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญเรื่องการบริหารสภาพคล่องควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
สำหรับ ผลประกอบการในปี 2558 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 34,181 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 57,510 ล้านบาท ลดลง 1,487 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.5 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิลดลงร้อยละ 0.21 เป็นร้อยละ 2.16 ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลงร้อยละ 0.50 ในครึ่งแรกปี 2558 ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในปี 2558 มีจำนวน 45,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,359 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.4 ส่วนใหญ่มาจากกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ และกำไรสุทธิจากเงินลงทุน สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิมีจำนวน 24,071 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,345 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.8 จากปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากค่าบริหารกองทุนรวม ค่าธรรมเนียมการรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารทางการเงิน และค่าธรรมเนียมรับจากเงินให้สินเชื่อ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานมีจำนวน 45,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,958ล้านบาท หรือร้อยละ 4.5 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นที่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 43.8
ด้านเงินกองทุน ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งสามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต โดยหากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวดกรกฎาคมถึงธันวาคม 2558 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.7 ร้อยละ 16.6 และร้อยละ 16.6 ตามลำดับ
ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 มีจำนวน 361,832 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.7 ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 189.56 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 20.09 บาท จากสิ้นปี 2557
Bangkok Bank reports 2015 net profit of Baht 34.2 billion
Despite challenging economic conditions, the Bank increased its lending by 4.9% with a manageable ratio of NPLs to total loans of 2.8 percent.
Net fees and service income grew by 10.8%, and cost to income ratio was 43.8%.
Bangkok Bank and its subsidiaries have reported a consolidated net profit of Baht 34.2 billion for 2015, a decrease of 5.9 percent from 2014. Total operating income rose 6.1 percent to Baht 102.7 billon, while operating expenses increased by 4.5 percent to Baht 45.0 billion.
Thailand’s economy grew modestly in 2015 due to a slowdown in the export sector, reflecting economic conditions facing major trading partners particularly China, as well as weak private investment and consumption, lower commodity prices, and drought condition. However, the growth in tourism remains robust, while the government has rolled out measures in response to the current condition and has accelerated the implementation of its investment plan. Meanwhile, private expenditure has shown signs of picking up in the last quarter of the year. Against this background, the Bank reported total lending for 2015 of Baht 1,868.9 billion, an increase of Baht 86.7 billion or 4.9 percent from the end of 2014 due to medium-sized business and consumer lending, as well as loans made through the Bank’s international network.
The Bank continued to focus on effective risk management and maintaining loan quality at appropriate levels, staying close to its customers and providing them with relevant advice and assistance. As a result, the Bank’s non-performing loans (NPLs) decreased from Baht 58.1 billion at the end of September 2015 to Baht 56.2 billion at the end of December 2015. The ratio of NPLs to total loans remained at the same manageable level of 2.8 percent.
The Bank continued its prudent strategic approach by consistently setting aside provisioning expenses. In 2015 these amounted to Baht 14.7 billion, resulting in a ratio of loan loss reserves to total loans of 5.6 percent.
In terms of liquidity, the Bank reported total deposits at the end of December 2015 of Baht 2,091.0 billion, an increase of Baht 32.2 billion or 1.6 percent from the end of 2014. The loan-to-deposit ratio at the end of 2015 was 89.4 percent rose from 86.6 percent at the end of 2014 as the increase in deposits was less than the increase in lending, while the ratio of liquid assets to deposits remained high at 43.4 percent. The Bank continuously focuses on liquidity management as well as financial cost management at appropriate levels.
Net profit for 2015 was Baht 34.2 billion, a decline from the previous year.Net interest income decreased by Baht 1.5 billion or 2.5 percent to Baht 57.5 billion. Net interest margin declined by 0.21 percent to 2.16 percent in line with the Bank of Thailand’s lowering of the policy interest rate by 0.50 percent during the first half of 2015. Non-interest income in 2015 was Baht 45.2 billion, an increase of Baht 7.4 billion or 19.4 percent from the previous year, due largely to gains on tradings and foreign exchange transaction and gains on investments. Net fees and service income amounted to Baht 24.1 billion, an increase of Baht 2.3 billion or 10.8 percent, due mainly to an increase in fee income from mutual funds, underwriting and loans. The Bank’s operating expenses were Baht 45.0 billion, an increase of Baht 1.9 billion or 4.5 percent, due mainly to higher personnel expenses, while the cost-to-income ratio decreased to 43.8 percent.
The Bank maintained a strong level of capital reserves to support future business expansion. After the inclusion of net profit for the six months from July to December 2015, the total capital adequacy ratio, common equity Tier 1 ratio and Tier 1 capital ratio of the Bank and its subsidiaries would be approximately 18.7 percent, 16.6 percent and 16.6 percent, respectively.
Shareholders’ equity as of December 31, 2015 amounted of Baht 361.8 billion, equivalent to 12.7 percent of total assets. The book value per share was Baht 189.56, an increase of Baht 20.09 from the end of 2014.