- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 19 October 2015 22:00
- Hits: 2219
ธอส.คาดวงเงินปล่อยกู้ซื้อบ้านล็อตแรก 1 หมื่นลบ. หมดปีนี้ เตรียมขยายเพิ่มอีก 1 หมื่นลบ.
ธอส.คาดวงเงินปล่อยกู้ซื้อบ้านล็อตแรก 1 หมื่นลบ.หมดปีนี้ เตรียมขยายเพิ่มอีก 1 หมื่นลบ. มั่นใจพร้อมอนุมัติกู้บ้านภายใน 3 วัน เบื้องต้นยื่นกู้แล้ว 2 พันราย
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส.ว่า จากปริมาณความต้องการของประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อย ที่เข้ามาขอสินเชื่อบ้านกับ ธอส.ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนมาก ธอส.จึงเตรียมประเมินความต้องการสินเชื่อดังกล่าวอีกครั้งใน 2-3 วันข้างหน้า เพื่อนำมาพิจารณาแนวทางการเพิ่มวงเงินในการปล่อยสินเชื่อรอบใหม่ ว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ โดยในขณะนี้ยืนยันว่า ธนาคารพร้อมปล่อยสินเชื่อไม่จำกัดวงเงิน เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่มีความต้องการซื้อบ้าน
ทั้งนี้ ธอส.ยืนยันมีความพร้อมในการรอบรับการเข้ามาขอสินเชื่อของประชาชนอย่างเต็มที่ โดยไม่ห่วงว่าจะมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอลสูง จากปัจจุบันเอ็นพีแอลที่อยู่ที่ 5% เท่านั้น ซึ่งมองว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความรับผิดชอบ และต้องการมีที่อยู่อาศัยจริง ส่วนการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการเก็งกำไรนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะ ธอส.มีหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบที่มาของรายได้ ที่จะพิสูจน์ว่ามีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง
นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนแนวทางในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยวงเงิน 500,000-600,000 บาทนั้น ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค. นี้ จะมีการหารือกับกระทรวงการคลัง และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพิจารณาแนวทางในการปล่อยสินเชื่อโครงการดังกล่าว แต่ ธอส.ยืนยันว่าจะปล่อยกู้ให้กับประชาชนเท่านั้น จะไม่มีการปล่อยให้กับผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์
นายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ ธอส. กล่าวว่า ธอส.มีความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อใหักับประชาชนในโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยตามมติครม.อนุมัติ โดยประชาชนสามารถเข้าขอสินเชื่อได้ที่ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศที่เจ้าหน้าที่ทุกคนวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์การปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้วงเงินสินเชื่อที่อนุมัติไว้ 10,000 ล้านบาท จะได้รับความสนใจจนหมด โดยจะมีประชาชนได้สินเชื่อกว่า 7,000 คน ธอส.จึงมีแนวคิดที่จะขยายวงเงินสินเชื่อตามโครงการดังกล่าวเบื้องต้นอีก 10,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ต้องนำเข้าคณะกรรมการธนาคารก่อน
ทั้งนี้ มาตรการที่ออกมามีการผ่อนปรนการคำนวณรายได้สุทธิต่อวงเงินการขอสินเชื่อ หรือ DSR ให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 33% ของรายได้สุทธิ มาเป็น 40-50% ของรายได้สุทธิ หรือ ประชาชนที่มีรายได้สุทธิเพียง 30,000 บาท สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 3 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องมีรายได้สุทธิสูงถึง 54,000 บาท ถึงจะขอสินเชื่อได้ในวงเงินดังกล่าว ทำให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่าย
"ยืนยันแนวทางดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดเอ็นพีแอลเพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่าประชาชนกลุ่มนี้ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองจริงๆ และพร้อมรักษาที่อยู่อาศัยดังกล่าวไว้ ประกอบกับในช่วง 2 แรก ได้มีการผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ที่ 3.5% ในปีแรก 4.25% ในปีที่ 2 และปีที่ 3 เป็นต้นไปคิดอัตราดอกเบี้ย MRR -0.75% ซึ่งลดลงจากอัตราดอกเบี้ย MRR ปกติที่คิดที่ -0.5% โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ 6.75% ขณะที่รายได้ในอนาคตของประชาชนจะเพิ่มสูงขึ้น"นายฉัตรชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเอ็นพีแอลจากส่วนนี้จะมีเพียง 2% เท่านั้น จึงไม่น่าห่วงว่าจะทำให้เอ็นพีแอลทั้งระบบสูงขึ้น โดยปัจจุบันทั้งระบบอยู่ที่ 5% จากยอดสินเชื่อทั้งหมด 8 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ธอส.ยังมองการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้ จะเกิดการเก็งกำไรไม่มาก เพราะที่อยู่อาศัยที่จะเก็งกำไรส่วนใหญ่จะอยู่ในแถบรถไฟฟ้าที่มีราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท อยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
นางอังคณา กล่าวต่อว่า วันนี้มีผู้ขอสินเชื่อกับธนาคารแล้วทั่วประเทศ 2,000 ราย คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นผู้ยื่นขอจากกทม. 50% และต่างจังหวัด 50% และหลังจากนี้ไปคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเข้ามายื่นเรื่องขอสินเชื่อวันละ 1,000 ล้านบาท โดย ธอส.จะมีกระบวนการในการพิจารณาสินเชื่อเพื่ออนุมัติ 3 วันทำการ
ทั้งนี้ หากรายใดได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว แต่ยังไม่พร้อมเข้ามาทำสัญญา เนื่องจากต้องการรอสิทธิประโยชน์ค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองของกระทรสงมหาดไทยที่จะประกาศออกมานั้น ก็สามารถชะลอการเซนต์สัญญาได้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ธอส.จะใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการประเมิน ในการเพิ่มวงเงินการปล่อยสินเชื่อใหม่
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย