WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คสช.วอนสถาบันการเงินร่วมมือ ตรวจสอบยับยั้งบัญชีต้องสงสัย

    แนวหน้า : พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในที่ประชุมผู้แทนสถาบันการเงินว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยากให้ธนาคารจับตาบัญชีต้องสงสัย โดยให้เน้น 2 เรื่องใหญ่ที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน คือ 1.ธุรกิจมืดต่างๆ เช่น โต๊ะพนันบอล ยาเสพติด 2. การคอรัปชั่น ที่ส่งผลทำลายระบบการพัฒนาของประเทศ เพื่อตัดเส้นทางการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ

    โดยเฉพาะกรณีพบผู้ต้องขังเปิดบัญชีธนาคารได้หลายบัญชี ทั้งที่ตัวอยู่ในเรือนจำ ซึ่งตนเองถึงกับปล่อยหัวเราะก๊าก เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ตามกฎหมายธนาคารต้องรู้จักตัวลูกค้า จึงต้องขอความร่วมมือสถาบันการเงินในการแก้ปัญหา ไม่เช่นนั้นพนักงานสถาบันการเงินจะต้องมีความผิดในเรื่องนี้ด้วย

    ด้านพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ปปง.จะส่งรายชื่อบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงให้กับ สถาบันการเงินต่างๆ หน่วยงานที่ให้บริการด้านการเงินทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบและติดตามธุรกรรมของลูกค้ากลุ่มเสี่ยงเหล่านี้

   เบื้องต้นจะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ได้มาจากฐานข้อมูลที่ผ่าน การกลั่นกรองจาก ป.ป.ส. บช.ปส. ประมาณ 1,000 รายชื่อ กลุ่มพนันอีกกว่า 100 รายชื่อ โดยรายชื่อเหล่านี้ ปปง.จะนำมากลั่นกรองอีกครั้ง ก่อนส่งธนาคารได้รับรายชื่อ จะต้องตรวจสอบเพื่อบริหารความเสี่ยงของลูกค้า หากปล่อยปละละเลย ปปง.จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด โดยจะใช้เวลาธนาคารตรวจสอบ 3 เดือน เพื่อรายงานข้อมูลกลุ่มที่มีความเสี่ยงเหล่านี้กลับมาให้ ปปง.ดำเนินการ

   หากปล่อยปละละเลย ปปง.จะดำเนินการตามกฎหมาย ด้วยการปรับเงินเป็นรายบัญชี บัญชีละ 500,000 บาท ปปง.ไม่ได้บังคับให้ธนาคารตรวจสอบบัญชีลูกค้าเป็นสิบล้านบัญชี แต่ให้ตรวจสอบเฉพาะบัญชีต้องสงสัย ที่ธนาคารต้องจัดทำเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการ ฟอกเงิน เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง และเสี่ยงต่ำ ที่ผ่านมาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ชื่อคนเพียงคนเดียวเปิดบัญชีถึง 30 บัญชี เพื่อรอรับเงินจากเหยื่อ ในช่วงเริ่มต้น ปปง.ไม่ต้องการบังคับ เพราะต้องการความร่วมมือ เว้นแต่ไม่ได้รับความร่วมมือก็จะเพิ่มความเข้มข้นในการใช้กฎหมาย

    สำหรับ บัญชีที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่จะจัดส่งให้สถาบันการเงินต่างๆ เบื้องต้นมี 470 บัญชี แบ่งเป็น บัญชีความผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 324 บัญชี บัญชีเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงภาษี 112 บัญชี บัญชีเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด 20 บัญชี และบัญชีเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็ต 14 บัญชี

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!