- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 14 May 2015 16:16
- Hits: 2065
เคทีซี กำไรโตเกินคาดไตรมาสแรก 574 ล้านบาท รุกหนักสู่การเป็นบัตรเครดิตหลัก ปูพรมทุกการใช้จ่ายประจำวันของสมาชิก
เคทีซี ประเดิม 3 เดือนแรก กำไรสุทธิพุ่ง 574 ล้านบาท โต 62% จากช่วงเดียวกันของปี 2557 พอร์ตลูกหนี้สุทธิและฐานสมาชิกขยายตัวต่อเนื่อง ด้านลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม (NPL) ต่ำกว่าอุตสาหกรรม อยู่ที่ 2.4% เท่ากับสิ้นปีก่อน เชื่อมั่นภาวะเศรษฐกิจฟื้น การใช้จ่ายผู้บริโภคขยับตามกลไกตลาด เดินหน้าปักหมุดธุรกิจในหมวดใช้จ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวัน และที่มีแนวโน้มโต โดยจะติดตามศึกษาการใช้จ่ายของสมาชิกอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังเอ้าท์ซอร์สการติดตามหนี้เพื่อรองรับพรบ.การทวงถามหนี้ที่จะประกาศใช้ในอนาคตอันใกล้ มั่นใจฐานสมาชิกและยอดการใช้จ่ายทั้งปีเติบโตตามคาด
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 'เคทีซี'หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ไตรมาสที่ผ่านมา ภาพรวมของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคยังคงเติบโตดี แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ในช่วง 9 เดือนข้างหน้า บริษัทฯ ยังมีความเชื่อมั่นว่า แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะขยับตัว จากมาตรการที่ภาครัฐและเอกชนได้ช่วยกันขับเคลื่อน”
“ในช่วง 3 เดือนแรก เคทีซีมีปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตขยายตัวในอัตราเร่งที่ 11% สูงกว่าอัตราเติบโตของอุตสาหกรรมที่มีอยู่ 8% โดยมีรายได้รวม 3,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปี 2557 ค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิ (Operating Cost to Income Ratio) เท่ากับ 28.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 27.3% ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% คุณภาพพอร์ตลูกหนี้เติบโตดีต่อเนื่อง สามารถรักษาระดับ NPL ลูกหนี้รวมให้เท่ากับสิ้นปี 2557”
“บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 52,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินทรัพย์ที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯ อยู่ในรูปของลูกหนี้การค้าสุทธิ คิดเป็น 93% ของสินทรัพย์รวม โดยพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเมื่อหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้วเท่ากับ 48,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ฐานสมาชิกรวม 2.5 ล้านบัญชี เติบโต 11% แบ่งเป็น บัตรเครดิต 1,846,787 บัตร (ขยายตัว 13%) ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 33,373 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล 702,081 บัญชี (ขยายตัว 8%) ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ 15,042 ล้านบาท ลูกหนี้ที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม (NPL) อยู่ที่ 2.4% โดย NPL บัตรเครดิตลดเหลือ 1.6% จาก 2.2% และ NPL สินเชื่อบุคคลเหลือเพียง 1.1% จาก 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่หนี้สูญได้รับคืนในไตรมาสแรกมีมูลค่าเท่ากับ 479 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน”
“เคทีซีจะยังคงมุ่งสนับสนุนให้เกิดการแบ่งเบาภาระการใช้จ่ายพื้นฐานในหมวดประจำวัน ด้วยข้อเสนอและสิทธิพิเศษทั้งในรูปส่วนลด การแบ่งชำระ การใช้คะแนนสะสม การให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคทุกพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ทั้งหมวดน้ำมัน ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ดิสเค้านท์สโตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต กีฬา อุปกรณ์โทรศัพท์ ไอที เดินทางท่องเที่ยวและหมวดใช้จ่ายต่างๆ ที่ตรงกับความต้องการของสมาชิก”
“สำหรับไตรมาสแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) ทั้งสิ้น 24,960 ล้านบาท เป็นวงเงินของธนาคารกรุงไทย 18,030 ล้านบาท และจากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ 6,930 ล้านบาท อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 5.62 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า”
“ในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการสร้างรายได้และกำไรเติบโตประมาณ 10-15% โดยมีแผนต่อเนื่องในการขยายธุรกิจไปต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มสัดส่วนฐานสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลในต่างจังหวัดให้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เน้นกิจกรรมการตลาดในทุกหมวด เพื่อมุ่งหมายให้เคทีซีเป็นบัตรหลักในการใช้จ่าย สร้างรายได้เพิ่มผ่านกิจกรรมการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการเสริม เช่น การนำเสนอแผนประกันรูปแบบต่างๆ การนำเสนอสินค้าผ่านแคตตาล็อกและทางอินเตอร์เน็ต บริการ U Shop V Deliver การรุกตลาดสินเชื่อพร้อมใช้ “KTC PROUD” โดยใช้คะแนนสะสมแลกอัตราดอกเบี้ยพิเศษ พัฒนาบริการออนไลน์เสริมธุรกิจหลัก สร้างฐานสมาชิกใหม่จากช่องทางการจัดหาสมาชิกที่หลากหลาย”
“นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นการควบคุมคุณภาพหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยได้จัดจ้าง บริษัทภายนอก (Outsource) ในงานติดตามหนี้และเรียกเก็บหนี้แทนบริษัทฯ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 เพื่อปรับการปฏิบัติงานให้สอดคล้องตามแนวทางปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ และตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 โดยบริษัทภายนอกจะต้องดำเนินการติดตามและเรียกเก็บหนี้ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด”
KTC Gets 574 Million Baht Profit for the First Quarter. Aims to be Most Preferred Card in Everyday Usage
KTC reports its first 3 months with profit of 574 Million Baht, a growth of 62% up from the same period of 2014. Net port and member base continuously grow while total nonperforming loans (NPL) is lower than the industry at 2.4%, which is equal to that of the NPL at the end of the previous year. Quite confident that the economy will recover; consumers’ spending will budge all along with market mechanism; progressively advancing to stick business pin on necessarily everyday spending and business with growing trend. In addition, demands of debts are outsourced in order to back up Demand of Debt Act which will be promulgated in the very near future. Confident that member base and total public spending all year long will grow as expected.
Mr. Rathian Srimongkol, President & Chief Executive Officer, “KTC” or Krungthai Card Public Company Limited, disclosed that “The overview of consumer finance business over the past quarter is still growing well even the economic condition is not on its track as expected. However, in the forthcoming 9 months, we are still confident that consumers’ spending will budge consequently as a result of the measure which the state and private sectors have joined hands on the economic drive.”
“In the first 3 months, KTC’s credit card spending growth is 11% up from the existing industrial growth rate of 8% or in the total amount of 3,705 Million Baht, an increase of 10% from the same period of 2014. The Operating Cost to Income Ratio is equal to 28.8%, a slight increase from 27.3%, thus, resulting in the company to be able to make a net profit of up to 574 million Baht, an increase of 62%. Total NPL is equal to the end of 2014.”
“The company has net assets of 52,548 Million Baht, an increase of 7% from the same period of the previous year. The asset generating the main revenue for the company is in the form of the net account receivable which is 93% of the total assets. The total net account receivable port, after allowance for doubtful account deduction is made, is equal to 48,612 Million Baht, an increase of 8% from the same quarter of the prior year. Member base totals are 2.5 million accounts, a growth of 11%, divided into 1,846,787 credit cards (13% growth); total net credit card account receivable of 33,373 million Baht; personal loans of 702,081 accounts (8% growth), total net personal loans account receivable of 15,042 Million Baht; total NPL at 2.4% resulting in the credit card NPL to be reduced to 1.6% down from 2.2% and personal loans NPL reduced to 1.1% only, down from 1.4% when comparing with the same period of the previous year while bad debt recovered in the first quarter is valued at 479 Million Baht, an increase of 16% up from the same period of the previous year.”
“KTC aims to be an everyday card spending with the offers and special privileges in the form of a discount, installment payment, the use of accumulated points, useful knowledge sharing to consumers in Bangkok and the upcountry in several categories including gas & auto, dining, department stores, discount stores, supermarkets, sports, mobile phone, information technology (IT), travel and leisure.”
“KTC now has an available credit line of 24,960 Million Baht, being 18,030 Million Baht from Krungthai Bank and 6,930 Million Baht from other commercial banks. The ratio of debt to shareholders’ equity is 5.62 which is lower than our obligation of 10.”
“For the year 2015, the company sets the target on the creation of the revenue and profit growth of approximately 10-15% by having a continuous plan on business expansions up-country to major cities which are the economic areas in connection with neighboring countries in order to gradually increase credit card member base and personal loans in the provincial areas. Marketing activities in all groups of business will be emphasized focally aimed to make KTC the principal credit cards for spending. KTC will increase more revenue through marketing campaigns from the products and supplementary services; such as, the insurance plan, U Shop V Deliver service, Forever Rewards points for special interest rate for KTC PROUD members; developing online service; and creating new member base from the diversified member acquisition channels.”
“Moreover, the company has still placed the emphasis on debt quality control to be at a suitable level by hiring outsource to handle work on debt demands and collections from May 2015, in order to improve the performance in compatibility with the procedural guidelines on debt payment demand and in accordance with the conditions set forth under Debt Demand Act, B. E. 2558 (2015. In this respect, the outsource must carry out actions on debt demands and collections in accordance with the prescribed standard.”