WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ไอแบงก์ นำร่องแก้หนี้เถื่อนจับมือชุมนุมสหกรณ์ปล่อยกู้ 5 จังหวัดชายแดนใต้

    บ้านเมือง : ไอแบงก์ จับมือชุมนุมสหกรณ์ ให้บริการธุรกรรมการเงินผ่านตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศกว่า 193 เครื่อง ขณะที่เดินหน้าปล่อยสินเชื่อมุสลิม 5 จังหวัดชายแดนใต้ เปิดทางรากหญ้าเข้าถึงแหล่งเงิน หวังแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ

   นายครรชิต สิงห์สุวรรณ์ รักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) กล่าวภายหลังการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ว่า การดำเนินการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการตกลงที่จะพัฒนาการบริการช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่เป็นสมาชิกของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด ที่ถือบัตรกดเงินสดสหกรณ์สามารถใช้บริการผ่านเครื่องเอทีเอ็มของไอแบงก์รวมทั้งสิ้น 193 เครื่องทั่วประเทศ

   สำหรับโครงการดังกล่าว จะเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการใช้บริการของผู้ถือบัตรกดเงินสดสหกรณ์ ที่เป็นสมาชิกของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทยฯ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2.7 หมื่นราย โดยผู้ถือบัตรกดเงินสดสหกรณ์สามารถสอบถามยอดเงินคงเหลือ หรือเบิกถอนเงินสด ได้ทุกแห่งทั่วในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทุกเครื่องของธนาคาร โดยธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมเมื่อทำธุรกรรม สำหรับการทำรายการถอนเงินสด คิด 9 บาทต่อรายการ และรายการสอบถามยอดเงินคงเหลือ 5 บาทต่อรายการ

    ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับธนาคาร แต่ในช่วงแรกจะไม่มากนัก เนื่องจาก ยังมีผู้ถือบัตรกดเงินสดสหกรณ์อยู่ไม่มาก แต่อย่างไรก็ตาม ชุมนุมสหกรณ์ฯ มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกสหกรณ์ให้มากขึ้น อยู่ที่ 3 แสนรายทั่วประเทศ และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิกเป็น 1 แสนรายภายในสิ้นปีนี้

    "การให้บริการดังกล่าว จะช่วยทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายจากการให้บริการผ่านทางเครื่องเอทีเอ็มของธนาคาร และในอนาคตจะมีการเพิ่มการให้บริการผ่านทางเคาน์เตอร์ของธนาคารอีกด้วย" นายครรชิต กล่าว

     นายครรชิต กล่าวต่อถึงการแก้ไขหนี้สินนอกระบบว่า แผนสินเชื่อนโยบายรัฐมีอยู่ 1,050 ล้านบาททั่วประเทศ โดยจะมีสินเชื่อที่ลงไปใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 500 ล้านบาท 11 โครงการ เช่น โครงการสินเชื่อเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ ผู้ประกอบการหาบเร่แผงลอย และอาชีพอิสระต่างๆ ที่จะเป็นการช่วยคนรากหญ้าจริงๆ เป้าหมายยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น โดยเป้าแผนใหญ่ทั่วประเทศนั้น ต้องการที่จะเพิ่มรายได้ต่อครัวเรือนของคนกลุ่มดังกล่าวต้องอยู่ที่ 1.2 แสนบาทต่อปี ซึ่งทางไอแบงก์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปร่วมในการปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนกลุ่มดังกล่าว

    "ปกติคนที่ไปกู้เงินนอกระบบจะต้องเสียอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่า 20% ซึ่งทางไอแบงก์ ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ให้บริการโดยตรงกับพี่น้องชาวมุสลิม เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ย แต่เราใช้คำว่า อัตรากำไร โดยจะอยู่ที่ 6% ต่อปี ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราที่ต่ำมากๆ จะช่วยทำให้ประชาชนที่มีภาระต้องไปเสียดอกเบี้ยที่ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาแล้ว และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ ในการกู้นอกระบบ ได้มีเงินเหลือมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในการไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันต่อไปได้ ซึ่งตอนนี้เริ่มดำเนินการโครงการไปแล้ว จะสิ้นสุดโครงการภายในสิ้นปีนี้ ระยะเวลาการผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี วงเงินกู้คนละไม่เกิน 5 หมื่นบาท วงเงินสำหรับพี่น้องมุสลิม 5 จังหวัดชายแดนใต้ อยู่ที่ 500 ล้านบาท" นายครรชิต กล่าว

    นายครรชิต กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการล่าสุด ณ สิ้นปี 56 ไอแบงก์ มีกำไรสุทธิ 2.7 พันล้านบาท การแก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 6.5 พันล้านบาท ดังนั้น การแก้ไขหนี้เสียจะเหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่ง ในปี 57 ต้องแก้ไขต่อไปในส่วนที่เหลืออีก 2 หมื่นกว่าล้านบาทให้แล้วเสร็จตามแผน โดย 4 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งเป้าหมายแก้ไขหนี้เสียเอาไว้ 3 พันล้านบาท แต่ดำเนินการแก้ไขจริงๆ 5.1 พันล้านบาท

    สำหรับ หนี้ใหม่ ปัจจุบันก็ไม่ให้มีการตกชั้นเพิ่ม ต้องระวัง รวมไปถึงเร่งรัดปล่อยสินเชื่อใหม่ ตอนนี้มีสินเชื่อค้างท่ออยู่ 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกที่ผ่านมาไม่ได้ไอแบงก์ไม่ได้ปล่อยสินเชื่อเลย เพราะตอนนั้นผู้ประกอบการชะลอและดูทิศทางการเมือง เมื่อสถานการณ์ต่างๆ ชัดเจน ผู้ประกอบการก็เริ่มเดินเรื่องของสินเชื่อต่อ และยังรวมถึงสินเชื่อโครงการเอสเอ็มอีฮาลาล 2 พันล้านบาท โครงการสินเชื่อรายย่อยบุคคล 800 ล้านบาท โครงการสินเชื่อนโยบายรัฐ อีก 1 พันล้านบาท รวมๆ แล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท ที่ต้องเร่งปล่อยให้ออกสู่ระบบให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่หนี้เสียปัจจุบันอยู่ที่ 36% หรือประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท ลดลงจาก 43% โดยคาดว่าปลายปี 58 หนี้เสียจะลดลงเหลือ 17%

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!