- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Saturday, 11 April 2015 20:38
- Hits: 1746
เอสเอ็มอีแบงก์ โชว์ผลงานไตรมาสแรกดีขึ้นทุกด้าน กำไรสุทธิ 359 ล้านบาท NPLs ลด เกินเป้าแผนฟื้นฟู
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)ได้แถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ปี 2558 โดยมี นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ และ นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ ร่วมกันแถลงข่าว ดังนี้
กำไรสุทธิของธนาคาร เดือนมีนาคม เท่ากับ 115 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของธนาคารที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากในเดือนมีนาคม 2558 สินเชื่อของธนาคารได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยรับมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ในไตรมาสแรก ปี 2558 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 359 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 300 ล้านบาท
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เดือนมีนาคม ลดลง 2,277 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากธนาคารได้มีการขายทรัพย์กองกรุงเทพฯและปริมณฑล และสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร รวมเป็นเงินประมาณ 1,300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ธนาคารมีการประนอมหนี้กับลูกค้าได้ส่วนหนึ่ง ทำให้ ณ สิ้นไตรมาสแรก ปี 2558 ยอด NPLs ของธนาคารลดเหลือ 28,623 ล้านบาท (คิดเป็น 33.63%ของยอดเงินให้สินเชื่อรวม) ซึ่งดีกว่าเป้า NPLs ตามแผนฟื้นฟูฯ ที่กำหนดไว้ 29,881 ล้านบาท
ด้านสินเชื่อ เดือนมีนาคม 2558 สามารถเบิกจ่ายทำสถิติได้สูงมาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยสามารถทำได้สูงถึง 3,907 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการปรับปรุงระบบงานเริ่มปฎิบัติได้จริง และมีแนวโน้มทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ยอดเบิกจ่ายรวม ณ ไตรมาสแรกปี 2558 เท่ากับ 8,379 ล้านบาท
ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยคิดเป็นจำนวนลูกค้าใหม่ประมาณ 4,012 ราย และทั้งหมดเป็นสินเชื่อรายย่อยวงเงินต่ำกว่า 15 ล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้าง 85,101 ล้านบาท และธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถปล่อยเงินกู้ใหม่ได้ถึงเป้า 40,000 ล้านบาท ที่ตั้งไว้ปี 2558
ด้านธรรมาภิบาล ธนาคารมีเรื่องสอบสวนทั้งสิ้น 19 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 10 เรื่อง โดยในเดือนมีนาคม ได้มีข้อยุติ 1 เรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำผิดวินัยร้ายแรงของพนักงานในระดับผู้อำนวยการ 1 คน และผู้จัดการส่วน 1 คน ทำให้ธนาคารต้องจ่ายเงินมากเกินสมควร ซึ่งคณะกรรมการวินัยพิจารณาโทษต่อไป อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ธนาคารยังคงเน้นเรื่องธรรมาภิบาล โดยมีการสอบสวนเพิ่มอีก 4 เรื่อง ทำให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 รวมเรื่องที่สอบสวน 23 เรื่อง นอกจากนั้น ธนาคารชนะคดีที่ฟ้องร้องกับบุคคลภายนอกกรณีพิพาทเรื่อง Core Banking ซึ่งธนาคารจะได้เงินคืนจากคู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 46 ล้านบาท และชนะคดีแรงงานที่พบการทุจริตของพนักงาน 1 คดี ซึ่งศาลสั่งให้มีการชำระเงินให้ธนาคาร 19 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้า ในเรื่องสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Loan Policy) 4% นั้น ขณะนี้ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอเข้า ครม. และสำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่มีประวัติค้างชำระและติดเครดิตบูโร นั้น เอสเอ็มอีแบงก์ได้เป็นตัวกลางเจรจากับทางสมาคมธนาคารไทย ขอให้ช่วยชะลอการฟ้องร้องกับลูกหนี้กลุ่มเหล่านี้ เพื่อให้โอกาสแก่ลูกหนี้สามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ โดยเอสเอ็มอีแบงก์พร้อมสนับสนุนสินเชื่อให้ลูกหนี้กลุ่มเหล่านี้ มีทุนต่อเพิ่มเพื่อทำธุรกิจ และมีเงินทุนหมุนเวียน และเมื่อกิจการเดินหน้าต่อไปได้ ก็จะสามารถมีเงินกลับมาปรับโครงสร้างหนี้ และชำระเงินคืนกับเจ้าหนี้เดิมต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม โทร.02-265-4564-5
SME Bank เผย Q1/58 กำไรสุทธิ 359 ลบ., NPLs ลดเกินเป้าแผนฟื้นฟูฯ
นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือ SME Bank เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสแรกปีนี้(ม.ค.-มี.ค.58)ว่า กำไรสุทธิของธนาคาร เดือนมีนาคมเท่ากับ 115 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของธนาคารที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากในเดือนมีนาคม 2558 สินเชื่อของธนาคารได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยรับมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ในไตรมาสแรก ปี 2558 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 359 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 300 ล้านบาท
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เดือนมีนาคม ลดลง 2,277 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากธนาคารได้มีการขายทรัพย์กองกรุงเทพฯและปริมณฑล และสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร รวมเป็นเงินประมาณ 1,300 ล้านบาท ขณะเดียวกันธนาคารมีการประนอมหนี้กับลูกค้าได้ส่วนหนึ่ง ทำให้ ณ สิ้นไตรมาสแรก ปี 2558 ยอด NPLs ของธนาคารลดเหลือ 28,623 ล้านบาท (คิดเป็น 33.63%ของยอดเงินให้สินเชื่อรวม) ซึ่งดีกว่าเป้า NPLs ตามแผนฟื้นฟูฯ ที่กำหนดไว้ 29,881 ล้านบาท
ด้านสินเชื่อ เดือนมีนาคม 2558 สามารถเบิกจ่ายทำสถิติได้สูงมาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยสามารถทำได้สูงถึง 3,907 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการปรับปรุงระบบงานเริ่มปฎิบัติได้จริง และมีแนวโน้มทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ยอดเบิกจ่ายรวม ณ ไตรมาสแรกปี 2558 เท่ากับ 8,379 ล้านบาทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยคิดเป็นจำนวนลูกค้าใหม่ประมาณ 4,012 ราย และทั้งหมดเป็นสินเชื่อรายย่อยวงเงินต่ำกว่า 15 ล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้าง 85,101 ล้านบาท และธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถปล่อยเงินกู้ใหม่ได้ถึงเป้า 40,000 ล้านบาท ที่ตั้งไว้ปี 2558
นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) กล่าวว่า ในด้านธรรมาภิบาล ธนาคารมีเรื่องสอบสวนทั้งสิ้น 19 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 10 เรื่อง โดยในเดือนมีนาคมได้มีข้อยุติ 1 เรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำผิดวินัยร้ายแรงของพนักงานในระดับผู้อำนวยการ 1 คน และผู้จัดการส่วน 1 คน ทำให้ธนาคารต้องจ่ายเงินมากเกินสมควร ซึ่งคณะกรรมการวินัยพิจารณาโทษต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ธนาคารยังคงเน้นเรื่องธรรมาภิบาล โดยมีการสอบสวนเพิ่มอีก 4 เรื่อง ทำให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 รวมเรื่องที่สอบสวน 23 เรื่อง นอกจากนั้น ธนาคารชนะคดีที่ฟ้องร้องกับบุคคลภายนอกกรณีพิพาทเรื่อง Core Banking ซึ่งธนาคารจะได้เงินคืนจากคู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 46 ล้านบาท และชนะคดีแรงงานที่พบการทุจริตของพนักงาน 1 คดี ซึ่งศาลสั่งให้มีการชำระเงินให้ธนาคาร 19 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Loan Policy) 4% นั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอเข้า ครม. และสำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่มีประวัติค้างชำระและติดเครดิตบูโรนั้น เอสเอ็มอีแบงก์ได้เป็นตัวกลางเจรจากับทางสมาคมธนาคารไทย ขอให้ช่วยชะลอการฟ้องร้องกับลูกหนี้กลุ่มเหล่านี้ เพื่อให้โอกาสแก่ลูกหนี้สามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ โดยเอสเอ็มอีแบงก์พร้อมสนับสนุนสินเชื่อให้ลูกหนี้กลุ่มเหล่านี้มีทุนต่อเพิ่มเพื่อทำธุรกิจ และมีเงินทุนหมุนเวียน และเมื่อกิจการเดินหน้าต่อไปได้ ก็จะสามารถมีเงินกลับมาปรับโครงสร้างหนี้ และชำระเงินคืนกับเจ้าหนี้เดิมต่อไป
อินโฟเควสท์