- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 23 March 2015 21:09
- Hits: 1707
CIMB Thai Bank สนับสนุนสินเชื่อระยะยาวให้แก่ บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ขยายโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น วงเงินรวม 557.35 ล้านบาท
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามในพิธีสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของไทย วงเงินรวม 557.35 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 โครงการ ขนาด 23.22 MW(DC) และ 39.80 MW(DC) รวมกำลังการผลิต 63.02 MW(DC)
“บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ เป็นผู้ผลิตที่มีศักยภาพและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เริ่มลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2557 โดยดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่นใน 3 รูปแบบ ทั้งลงทุนเองผ่านบริษัทย่อย พัฒนาโครงการเพื่อขายให้กับพันธมิตร และร่วมลงทุนกับพันธมิตร นอกจากนี้ การเป็นผู้ผลิตที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวอายุ 20 ปี กับผู้รับซื้อไฟฟ้ารายใหญ่ของภูมิภาค ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น จะช่วยให้กระแสเงินสดของโรงไฟฟ้ามั่นคงและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นประกอบกับญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และเอื้อต่อการลงทุน จากนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทนของรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนของผู้ประกอบการจากทั่วโลก” นายสุภัค กล่าว
นายสุภัค กล่าวว่า การให้การสนับสนุนของธนาคารแก่บมจ.ในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนทุกประเภท อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ โดยมีวงเงินปล่อยกู้รวมกว่า 6,000 ล้านบาทแล้ว
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยว่า วงเงินสินเชื่อ 557.35 ล้านบาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นสินเชื่อระยะยาวอายุ 6 ปี ซึ่ง CHOW จะนำมาใช้ในกระบวนการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 2 โครงการทันที โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเวลา 12 เดือนหลังจากนี้ และรับรู้รายได้ภายในปี 2559
“วงเงินสินเชื่อจากธนาคารทำให้บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว เป็นผลดีต่อบริษัทฯเป็นอย่างมาก และรบกวนผู้ถือหุ้นน้อยที่สุด บริษัทฯเล็งเห็นโอกาสในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นยังมีอีกมาก ซึ่งบริษัทฯจะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง” นายอนาวิล กล่าว