- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 26 January 2015 23:08
- Hits: 2397
CIMBT ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยปีนี้ 2-2.2 หมื่นลบ.
CIMBT ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยปีนี้ 2-2.2 หมื่นลบ.ชะลอตัวจากปีก่อน มียอดสินเชื่อคงค้าง 8 หมื่นลบ.คาดยอดเงินฝากปีนี้อยู่ที่ 2-3 หมื่นลบ.โต 15-20% จากปีก่อน คาด กนง.คงดอกเบี้ยที่ 2% เหตุมองยังขับเคลื่อนศก.ได้
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของสายงานธุรกิจรายย่อยปีนี้ อยู่ที่ 2-2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งน้อยกว่ายอดการยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของปีก่อนที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธนาคารมองว่าเศรษฐกิจในปีนี้มีความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงสูงทำให้ธนาคารมีการระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างในสิ้นปี58จะอยู่ที่ 8หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี57อยู่ที่ 6.5หมื่นล้านบาท
ด้านยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้แบ่งเป็น การปล่อยสินเชื่อบ้าน 1.4 หมื่นล้านบาท ,สินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน 8พัน -1หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ธนาคารยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตโดยตั้งเป้าสิ้นปี58 จะมีจำนวนลูกค้าบัตรเครดิต 3-4 หมื่นใบ จากสิ้นปี57 มีจำนวนลูกค้าบัตรเครดิตอยู่ที่ 5 พันใบ
ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสายงานธุรกิจรายย่อยปีนี้ คาดว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.2% จากปีก่อน 2.4% โดยเริ่มเห็นสัญญานที่ดีขึ้น หลังมีการปรับปรุงระบบการติดตามหนี้ และการเร่งรัดชำระหนี้ โดยการส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือเพื่อเป็นการเตือนลูกค้าให้มีการชำระเงินให้ตรงต่อเวลา และมีการปรับปรุงนโยบายการบริหารหนี้ของธนาคารทำให้ NPLในปีนี้ ต่ำลงจากปีก่อน
ในด้านเงินฝาก ธนาคารมองเห็นถึงการเติบโตของยอดเงินฝากที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากประชาชนไม่มีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงหันมาออมเงินมากขึ้น เพื่อสำรองไว้ใช้ในอนาคตทำให้ในปีนี้คาดว่า ยอดระดมเงินฝากจะเติบโต 15-20% จากปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท โดยในสิ้นปี57 ธนาคารมียอดเงินฝากรวมของทั้งธนาคาร กว่า 2 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดเงินฝากของสายธุรกิจรายย่อยกว่า 1.1 แสนล้านบาท
"ปีนี้เงินฝากจะโตเยอะกว่าสินเชื่อเพราะสัญญานในตอนนี้คนไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ ทำให้คนหันมาออมเงินมากขึ้น การจับจ่ายก็ลดลง ส่งผลให้ในปีนี้สินเชื่อเติบโตไม่มากเท่าปีก่อน แต่เราจะเน้นการแข่งขันเพื่อขยายฐานลูกค้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธนาคารและสายงานรายย่อย" นายอดิศร กล่าว
นายอดิศร ยังคาดว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.)ที่ใกล้จะถึงนี้ น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2% เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้ค่อนข้างดีในระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นมากนัก ซึ่งคาดว่าในรอบหน้าทาง กนง.อาจจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย