- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Sunday, 18 January 2015 07:29
- Hits: 2485
KTB ตั้งเป้าสินเชื่อรวมปีนี้โต 6% เน้นขยายฐานรายย่อย -เอสเอ็มอี คาด NPL ทั้งปี 58 ต่ำกว่า 1.5%
KTB ตั้งเป้าสินเชื่อรวมปีนี้โต 6% เน้นขยายฐานรายย่อย -เอสเอ็มอี คาด NPL ทั้งปี 58 ต่ำกว่า 1.5% ตั้งเป้าภายใน 7 ปี กำไรโต 3 เท่านับตั้งแต่ปี 56 ที่มีกำไร 3.39 หมื่นลบ. หลังเตรียมขยาย 15 สาขาในปีนี้
นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KTB เปิดเผยว่า ในปี 2558 ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อรวมเติบโต 6% ซึ่งคิดเป็น 1.5 เท่าของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.5-4% ซึ่งคาดว่าสินเชื่อที่ขยายตัวได้จะมาจากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่คาดว่าจะเติบโต 10% และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 10% แต่ทั้งนี้คงต้องจับตาการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นจริงในช่วงไตรมาส 2 รวมไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ เป็นต้น
"สินเชื่อที่จะเติบโตได้ในปีนี้เราจะเน้นที่ 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 20% ของสินเชื่อทั้งหมด และสินเชื่อรายย่อยที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 30% ขณะที่กลุ่มสินเชื่อภาครัฐคาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ทรงตัวโดยปัจจุบันมีสัดส่วน 10% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด และกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่คาดว่าจะเติบโตในปีนี้ 0% เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีการออกตราสารหนี้แทน" นายวรภัค กล่าว
สำหรับ ในปีนี้ธนาคารคาดว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL จะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะต่ำกว่า 1.5% จากปี 2557 ที่ NPL อยู่ที่ 1.5% ลดลงจากปี 2556 ที่ระดับ 1.7% โดย NPL ที่ปรับลดลงมาจากการบริหารงานของธนาคาร รวมไปถึงการติดตามดูแลลูกค้าในกลุ่มต่างๆอย่างต่อเนื่อง
"เราค่อนข้างมั่นใจว่า NPL ในปี 2558 จะเมนเทนอยู่ในระดับต่ำที่ไม่เกิน 1.5% ซึ่งต่ำกว่าปี 2557 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5% เนื่องจากธนาคารเข้าไปติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด" นายวรภัค กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้มีแนวโน้มที่จะตั้งสำรองพิเศษเพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองปกติที่ 700 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น เช่น กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ไม่ใช่เป็นกลุ่มข้าราชการที่มีการหักหนี้จากเงินเดือน ซึ่งในครั้งนี้ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นด้วย
นายวรภัค เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานธุรกิจของธนาคารในช่วง 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2556-2562 ธนาคารตั้งเป้าหมายกำไรเติบโต 3 เท่าจากปี 2556 ที่มีกำไร 3.39 หมื่นล้านบาท โดยธนาคารจะเน้นการสร้างรากฐานที่สำคัญในการปฏิบัติงานภายในองค์กร การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มีความหลากหลาย รวมไปถึงการปรับปรุงแบรนด์ ที่คาดว่าจะเสร็จสำบูรณ์ภายในปีนี้
นอกจากนี้ ยังจะเน้นการสร้างมาร์เก็ตแชร์เพื่อเทียบเคียงกับคู่แข่งขันในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาอยู่ในธนาคาร โดยเฉพาะการให้บริการลูกค้าที่ปัจจุบันธนาคารมีหมายเลขโทรศัพท์ 02-111-1111 ซึ่งเป็นเลขที่จดจำได้ง่าย ขณะเดียวกันธนาคารยังตั้งเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มเติมในปีนี้อีก 15 สาขา
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย