WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

5062 KFIN Sam

Krungsri Finnovate เปิด 4 ดีลความภาคภูมิใจ ระดับเอเชีย 

          “Krungsri Finnovate” เปิด 4 ดีล แห่งความภาคภูมิใจที่ลงทุนผ่านกองทุน “Finnoventure Private Equity Trust I” ในช่วงท้ายปี 2023 และต้นปี 2024 ซึ่งเป็น 4 ดีล ใน 4 ประเทศ ที่ถือว่าเป็นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้ง 4 ดีลนี้เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยกองทุน “Finnoventure Private Equity Trust I” นี้ลงทุนไปแล้วกว่า 15 กิจการ ล่าสุดกองทุนมีการเติบโตกว่า 10% และมีหลายกิจการที่เตรียมตัวเข้า IPO โดยอาจเป็นตัวจุดสตารท์ทำให้วงการ Startup กลับมาคึกคักอีกครั้ง

          คุณแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ กรุงศรี ฟินโนเวต เปิดเผยในงาน “KRUNGSRI FAMILY MEETUP” ว่า “4 ดีลล่าสุดที่เพิ่งปิดไปเป็น 4 ดีล ใน 4 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น (1) MFast ประเทศเวียดนาม (2) Klook ยูนิคอร์นจากฮ่องกง (3) SLEEK รถมอเตอร์ไซด์ EV สัญชาติไทย (4) AwanTunai-Fintech จากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทั้ง 4 ธุรกิจเกิดจากการที่ “Krungsri Finnovate” เริ่มขยายการลงทุนไปในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็น 4 ดีล ที่น่าสนใจมากๆ”

 

5062 KFIN

 

          “โดยทั้ง 4 ธุรกิจ ที่เราเลือกลงทุน ตัวแรกมีชื่อว่า “MFast” จากประเทศเวียดนาม เป็น FinTech ที่เราเรียกว่า “Agent Based Banking Model” โดย MFast มีฟรีแลนซ์มากกว่า 180,000 คน ที่ช่วยขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับทุกธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศเวียดนาม สมัยก่อนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “Direct Sales” ขายบัตรเครดิต ขายสินเชื่อบุคคล เช่นเดียวกับ MFast ที่เป็น Startup ที่ทำ Direct Sales แบบออนไลน์ ซึ่ง “MFast” ก็จะช่วยขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้สถาบันการเงินของกรุงศรีที่อยู่ที่เวียดนามได้เช่นเดียวกัน

          ธุรกิจ ที่ 2 นั่นคือ Startup จากฮ่องกง เป็น “Travel Tech Unicorn” ชื่อว่า “Klook” เป็น Startup ที่ทำเรื่องของ Travel Experience หรือ Travel Destination โดย Klook ก็จะทำงานร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ รวมถึงไทยเองด้วย และก็จะช่วยนำลูกค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศนั้นๆ ให้เยอะที่สุด ซึ่ง Klook นั้นก็กำลังเตรียมตัวเข้า IPO ในเร็วๆ นี้ ใครเป็นแฟนคลับ Klook อยู่ก็จะได้ใช้กันได้อย่างเต็มที่

          ในส่วนของตัวที่ 3 “SLEEK” เป็นความภาคภูมิใจของเราเช่นกัน เพราะว่าเป็นตัวแรกที่ได้ลง Startup ในสายที่เกี่ยวกับ Mobility หรือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV นอกจากเรื่อง Mobility แล้วก็ยังสามารถเข้าเรื่องของ ESG Sustainability ด้วย เพราะว่าการใช้รถไฟฟ้าไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ซึ่ง “Krungsri Finnovate” ก็รณรงค์ในเรื่องของการประหยัดพลังงานเพื่อช่วยโลกด้วยเช่นกัน โดย “SLEEK” เป็น Startup สัญชาติไทย ที่มี Co-Founder เป็นคนไทยและคนสิงคโปร์ แต่โรงงานผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ในประเทศไทย ซึ่งวันนี้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ “SLEEK” ขายได้หลายพันคัน และมีอีกหลายดีลที่กำลังต่อยอดขายอยู่ 

          และตัวสุดท้ายเป็น Startup สัญชาติอินโดนีเซียที่ชื่อว่า “AwanTunai” ที่ทำในเรื่องของเทคโนโลยีทางการเงินในรูปแบบ “Supply Chain Financing” เป็นการปล่อยกู้ให้กับระบบ Supply Chain ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน. “AwanTunai” ทำระบบ Mini ERP ที่เอาไว้สั่งซื้อสินค้า ระบบเก็บสต็อกสินค้า และระบบชำระเงิน ให้ร้านค้าสามารถใช้ได้ฟรี และเมื่อผ่านไป 6 เดือน “AwanTunai” จะเก็บคะแนนของร้านค้า เช่น ร้านค้านี้จ่ายตรงเวลาหรือไม่ สั่งของเยอะหรือไม่ จะมี Credit score ขึ้นมา หลังจากนั้นก็จะทำการปล่อยกู้ โดยหาเงินกู้มาจากธนาคาร แล้วนำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ชำระเงิน โดยจะไม่ได้ให้เงินกู้โดยตรง วันนี้ AwanTunai กำลังเติบโตอย่างมากในอินโดนีเซีย ซึ่งเราร่วมลงทุนกับ Venture Capital ของ “MUFG” ที่ชื่อว่า “MUIP”

          คุณแซม ตันสกุล เผยต่อว่า “4 ตัวที่เราลงทุนเมื่อปลายปี 2023 และต้นปี 2024 ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตดีมากๆ ปกติ Startup จะเติบโตมากกว่า 50% ในแต่ละปีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็มั่นใจว่าทั้ง 4 ตัว สามารถเติบโตได้ดีมากๆ สำหรับการลงทุนที่ผ่านมา โดย “Finnoventure Private Equity Trust I” ลงทุนไปแล้วกว่า 15 กิจการ และ ณ สิ้นปี 2023 มีการเติบโตกว่า 10% ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากองทุนนี้จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ โดยมีความคาดหวังอยู่ที่ 15% ในตลอดระยะเวลาของกองทุน โดยคิดว่าเป็นไปได้แน่นอน และเราจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ว่า Startup 15 ตัว ที่เราลงทุนไป กำลังทยอยเตรียมตัวจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงปี 2025 เพราะฉะนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นการจุดสตารท์ทำให้วงการ Startup ของไทย กลับมาคึกคักอีกครั้ง และทำให้เกิด Startup หน้าใหม่ในประเทศไทยต่อไป”

          ส่วนแผนการลงทุนในปีนี้ “Krungsri Finnovate” เล็งที่จะลงทุนใน Startup 6 กิจการ โดยมีมูลค่าการลงทุนที่เตรียมไว้ 600-1,000 ล้านบาท แน่นอนว่าจะไม่ได้ลงเฉพาะ Startup ในประเทศไทยอย่างเดียว แต่จะขยายไปในประเทศที่มี “ธนาคารกรุงศรีอยุธยา” อยู่ รวมถึงประเทศใหม่ๆ ที่น่าสนใจอย่าง “ฟิลิปปินส์” ที่เป็นแหล่ง Startup ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้าน FinTech เชื่อว่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้และจะเป็นอีกก้าวของวงการ Startup ที่ “คึกคัก” จนต้อง “จับตามอง” 

 

 

5062

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!