- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Saturday, 03 May 2014 18:59
- Hits: 3691
SCB FIRST จัดสัมมนา'เปิดโลก AEC เจาะลึกเมียนมาร์ 360?' ติดอาวุธนักธุรกิจไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดสัมมนา'เปิดโลก AEC เจาะลึกเมียนมาร์แบบ 360?'เพื่อมอบเอกสิทธิ์ในการเปิดประสบการณ์ใหม่แก่สมาชิก SCB FIRST Privilege Bankingและบุคคลทั่วไปทางด้านความรู้เชิงธุรกิจและการใช้ชีวิตเหนือระดับในแบบเฟิร์ส ตามแนวคิด YOU ARE FIRST TO LEARN ระดมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ รู้ลึกรู้จริงทั้งจากประเทศไทยและเมียนมาร์ รวมทั้งนักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในตลาดเมียนมาร์ มอบความรู้แบบ 360 องศา ครอบคลุมทุกแง่มุมที่นักธุรกิจและนักลงทุนควรรู้เพื่อเตรียมความพร้อมมุ่งสู่ตลาดเศรษฐกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูงแห่งอาเซียนอย่างแข็งแกร่ง โดยงานนี้ ได้รับความสนใจจากสมาชิก SCB FIRST Privilege Banking และเจ้าของธุรกิจที่มีความสนใจในตลาดเมียนมาร์ร่วมสัมมนากว่า 500 คน
นายญนน์ โภคทรัพย์ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มลูกค้าบุคคลและกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 จะช่วยให้นักธุรกิจไทยมีโอกาสที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในการขยายตลาดจากในประเทศที่มีประชากร 64 ล้านสู่ตลาดระดับภูมิภาคที่มีประชากรสูงถึง 600 ล้านคน และจากการที่ "เมียนมาร์" เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าด้วยกัน รวมถึงการมีพรมแดนติดกับประเทศจีน ส่งผลให้เมียนมาร์กลายเป็นจุดเชื่อมตลาดบริโภคขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 2,700 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรโลก และเนื่องจากความนิยมและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวเมียนมาร์ที่มีต่อสินค้าและบริการจากประเทศไทย รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันแน่นแฟ้นและการค้าชายแดนที่มีมาช้านาน นักลงทุนไทยจึงมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันและไม่ควรมองข้ามโอกาสทางธุรกิจในตลาดใหม่ที่สำคัญแห่งนี้”
โดยช่วงแรก'เมียงมอง เมียนมาร์-เมื่อเพื่อนบ้าน เปิดประเทศ'เป็นการทำความรู้จักเมียนมาร์ผ่านมุมมองสังคมและวัฒนธรรม โดยได้รับเกียรติจากนายดำรง ใคร่ครวญ อธิบดีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ มร. วิน อ่อง ประธานสหภาพสมาพันธ์หอการค้าเมียนมาร์ มาให้ข้อมูลของความคืบหน้าทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างไทยและเพื่อนบ้าน AEC ความน่าสนใจของการดำเนินชีวิตในระดับปัจเจกชนในประเทศเมียนมาร์ ความเหมือนและแตกต่างของทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคชาว เมียนมาร์และชาวไทย รวมทั้งการประเมินสถานการณ์การค้าและการเข้ามาของเงินทุนจากต่างประเทศ วิเคราะห์โอกาสในการค้าทั้งจุดอ่อน จุดแข็ง และคู่แข่งทางการค้าของไทยในตลาดเมียนมาร์ และประเด็นสำคัญ คือ ข้อข้องใจเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนากฎหมายและโครงสร้างพื้นฐานที่นักลงทุนยังเป็นกังวล พร้อมทั้ง 10 Dos and Don’ts และเทรนด์สินค้ามาแรงในตลาดเมียนมาร์ที่นักธุรกิจควรจับตามอง
สำหรับช่วงที่สอง'ไทย-เมียนมาร์ การค้า การลงทุนยุคใหม่ภายใน AEC'ทางธนาคารได้เชิญนางศิริพร นุรักษา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ BOI มาร่วมเผยภาวะการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและเมียนมาร์ ศักยภาพและโอกาสการลงทุนของไทยในเมียนมาร์ รูปแบบการลงทุน การส่งเสริมการลงทุน ข้อกำหนดสำคัญ และสิทธิประโยชน์ทางการลงทุน พร้อมทั้ง มร.ไมเคิล ลิม (Tha Tun Oo) ประธานกลุ่มบริษัท ทูเดย์ เครือธุรกิจมหาอำนาจด้านการสื่อสารการตลาดและสื่อมวลชนในเมียนมาร์ที่มาร่วมให้ความรู้อัดแน่นเรื่องกลยุทธ์การทำการตลาด ให้จับใจผู้บริโภคชาวเมียนมาร์ทั้งสื่อหลักและสื่อดิจิตอล และระเบียบการโฆษณาสินค้าที่ควรรู้
นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจต่างประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ วิทยากรอีกหนึ่งท่านในการสัมมนาช่วงที่ 2 ได้ร่วมวิเคราะห์ความสนใจในการลงทุนของนักธุรกิจไทย รวมทั้งการสนับสนุนและบริการของธนาคารสำหรับการลงทุนในเมียนมาร์ “ธนาคารไทยพาณิชย์ได้เปิดบริการเป็นสำนักงานตัวแทนธนาคารไทยพาณิชย์แห่งนครย่างกุ้งตั้งแต่ปี 2555 โดยบริการของธนาคารครอบคลุมทั้งด้านการโอนเงินผ่านธนาคารท้องถิ่นที่เป็นพันธมิตรกับธนาคาร การให้บริการการค้าระหว่างประเทศ นำเข้าและส่งออก อัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนและการแนะนำคู่ค้าทางธุรกิจ (Business Matching) ให้ลูกค้าทั้งในเรื่องข้อมูลและกฎระเบียบในการลงทุนต่างๆ พร้อมทั้งเป็นผู้ช่วยในการประสานงานกับหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนในประเทศเมียนมาร์”
ปิดท้ายด้วยช่วง'ไปเมียนมาร์...กลับมาแล้วรวย!'ที่ได้นักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในเมียนมาร์ อาทิ นายณัฐวิน พงษ์เภตรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Tharaphu Decor นายวิชัย เข็มทองคำกรรมการผู้จัดการบริษัทโอเรียลทัล ยูนิค จำกัด และนายไกรเสริม โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จริงบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ โดยครอบคลุมทั้งโอกาสทางธุรกิจ รสนิยมในสินค้าและบริการ การใช้ประโยชน์จากแรงงานท้องถิ่น คู่แข่งท้องถิ่น ต้นทุนทางด้านต่างๆ อาทิที่ดิน พลังงาน การขนส่งกระจายสินค้า ขั้นตอนการเข้าไปทำการค้าขายในเมียนมาร์ การจัดการกับปัญหาภายในเช่นค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน ทัศนคติของผู้บริหารในภาครัฐ แหล่งเงินทุน วัฒนธรรม ทักษะแรงงาน และกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุน
“หลังการสัมมนาครั้งนี้ SCB FIRST ยังเตรียมที่จะต่อยอดงานสัมมนาด้วยการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ Myanmar 360 FIRST Trip เพื่อนำลูกค้าคนพิเศษที่สนใจทำการค้าและลงทุนในเมียนมาร์ ร่วมเดินทางไปเปิดประสบการณ์เรียนรู้และเพิ่มโอกาสการทำธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคม 2557 โดยผู้ร่วมเดินทางจะได้เรียนรู้จากการลงตลาดจริง พูดคุยกับผู้บริโภคและคู่ค้าจากธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ระบบโลจิสติกส์ รวมถึงธุรกิจบริการ พร้อมพบปะและปรึกษาขอคำแนะนำจากท่านเอกอัครราชทูตไทยพร้อมทั้งท่านทูตพาณิชย์ไทยประจำเมียนมาร์ กงศุลและที่ปรึกษาฝ่าย International Trade ตลอดจนกิจกรรมท่องเที่ยวสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมียนมาร์ อาทิ ไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง, ขอพรเทพทันใจ ฯลฯ” นายญนน์ โภคทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติม
“การสร้างความเข้มแข็งและการขยายตัวทางด้านการเงิน จะช่วยผลักดันให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนไปถึงเป้าหมาย ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะธนาคารชั้นนำของอาเซียนที่มีความพร้อมที่จะก้าวไปกับภาคธุรกิจของไทย จึงอยากที่จะเข้ามามีบทบาทสนับสนุนนักธุรกิจไทยในการเข้าไปทำธุรกิจและลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งเป็นกลไกหลักในการผลักดันทางเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ดังนั้นไทยพาณิชย์หวังว่าธนาคารจะเป็น “คู่คิดทางการเงิน” (Trusted Financial Partner) ที่จะอยู่เคียงคู่และประสบความสำเร็จไปกับทุกท่านในทุกช่วงจังหวะชีวิตทางธุรกิจ” นายญนน์ โภคทรัพย์ กล่าวปิดท้าย